เมื่อวานนี้ (4 ก.ค.) เจ้าหน้าที่นำรถพยาบาลไปรับนายสวัสดิ์ (สงวนนามสกุล) คุณตา อายุ 72 ปี ติดโควิด-19 ในบ้านพัก ชุมชนบ้านครัวเหนือ ย่านพระราม 6 ซอย 12 (ตรอกบ้านครัว) แขวงถนน เพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลสนามแห่งหนึ่ง หลังรอเตียงนานเกือบ 10 วัน ทันทีที่รถมาจอดรอรับ คุณตาได้หิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าเดินขึ้นรถ

ก่อนหน้านี้ทราบว่านางจำเนียร อายุ 77 ปี ภรรยาของนายสวัสดิ์ ก็ติดเชื้อโควิดเช่นกัน หลังทั้งคู่ ทราบผลตรวจตรวจว่าติดเชื้อ ก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในบ้านระหว่างรอรอเตียง ในต่อมาวันที่ 3 ก.ค. คุณยายซึ่งแก่ชราประกอบกับตัวเองติดเชื้อโควิดไม่มีหน่วยงานไหนมารับ ได้เสียชีวิตลงในบ้านพัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยสวมชุด PPE เข้าไปเก็บร่างใส่โลงอย่างหดหู่ ประกอบบพิธีตามศานาอิสลามแล้วฝังทันที เหลือเพียงคุณตา ที่ยังรอคอยเตียง ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่มารับตัวไปรักษาเมื่อวานนี้ (4 ก.ค.)

ลูกชายของนายสวัสดิ์ เผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์เนื่องจากพักอยู่บ้านอีกหลังที่ จ.นนทบุรี จึงไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกัน ระบุว่า ตนอยากให้พ่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลมากกว่าเพราะอายุเยอะแล้ว ตนไม่แน่ใจว่าคุณพ่อติดเชื้อจากที่ทำงาน หรือติดจากญาติที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับตนซึ่งมีอาชีพขี่ จยย.รับจ้าง บ้านอยู่ติดกันเดินทะลุหากันได้ นอกจากแม่ของพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับตน (แม่เป็นพี่สาวคุณตาสวัสดิ์) ก็ติดเชื้อเช่นกัน ทั้งสองเข้ารับการรักษาไปก่อนหน้านี้แล้ว

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้นพอตนทราบว่าป้าและพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันติดโควิด คนจึงพาพ่อไปตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ส่วนคุณแม่มีเจ้าหน้าที่มาตรวจให้ที่บ้านเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ก่อนจะทราบ ก่อนจะทราบผลว่าทั้งคู่ติดโควิดในเวลาต่อมา

“ผมโทรติดต่อหลายหน่วยงานเขาก็บอกให้รอเตียง ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง เราไปบังคับเขาไม่ได้เพราะเข้าใจว่ามีคนติดเชื้อเยอะ เขาบอกให้รอเตียงผมก็รอ ทำตามเขา แต่เขาน่าจะรับคนแก่ไปรักษาก่อน ตนก็เข้าไปดูแลใกล้ชิดไม่ได้เพราะพ่อกับแม่ติดเชื้อ ซื้อของไปให้ก็ไปแขวนไว้หน้าบ้านยืนคุยกันห่าง ๆ สองตายายอยู่ในบ้านกินแต่ยาฟ้าทะลายโจร แบ่งกันกินเพื่อบรรเทาอาการ สุดท้ายแม่นอนนิ่งหมดลมหายใจ ถ้าเจ้าหน้าที่มารับแม่ไวว่านี้อาจไม่สิ้นใจ ถ้าพ่อถึงมือหมอช้าอาจจะอาการแย่เหมือนคุณแม่ก็ได้”

นายสวัสดิ์ เผยก่อนที่รถจะมารับตัวไปรักษาว่า ก่อนที่จะติดโควิดตนได้ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซน เนก้าไปแล้ว 1 เข็ม คาดว่าตนเองอาจติดเชื้อจากที่ทำงาน แล้วนำเชื้อมาติดนางจำเนียร ภรรยา หรือไม่ภรรยาอาจรับเชื้อมาจากพี่สาวของตนที่ติดโควิด เพราะไปนั่งทานข้าวด้วยกัน

นายสวัสดิ์ เล่าว่า ก่อนที่ภรรยาจะเสียชีวิตสังเกตเห็นไม่กินข้าว ดื่มแต่น้ำและนอนเพ้อ ไม่มีอาการเป็นไข้ ส่วนตนเองนั้นไม่มีอาการอะไร เก็บของใช้จำเป็น เสื้อผ้า ปิดประตูอยู่ในบ้านคนเดียวรอรถมารับ

ผู้สื่อข่าวได้คุยกับนางวนิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี กล่าวว่า พยายามติดต่อหน่วยงานาต่างๆ เพื่อให้รีบนำตัวนายสวัสดิ์ ไปรักษาโดยด่วนเพราะตัวจะเหมือนยายจำเนียร รอเตียงจนตาย ลูกชายของตาสวัสดิ์ก็ไล่โทรซ้ำๆ ก็ไม่มีใครมารับ “เป็นศพมาได้ ตอนมีชีวิตไม่เห็นมีใครเอาไปรักษา” บอกเตียงพอ คนในชุมชนตายเพราะโควิดหลายรายแล้ว ก่อนหน้านี้เพื่อนบ้านก็ ติดโควิดนอนรอเตียงจนตาย ประธานและกรรมการชุมชนช่วยกันประสานงานดูแลดีมาก รอภาครัฐดำเนินการต่อ แต่กลับปล่อยให้คนป่วยนอนรอ

น้องสาวของนายสวัสดิ์ กล่าวว่า “ตนสงสัยที่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขบอกว่าเตียงเพียงพอ แต่ทำไมเวลาติดต่อไป เจ้าหน้าที่กลับแจ้งว่าเตียงเต็ม หรือเป็นเพราะหมอพยาบาลไม่พอ ต้องปล่อยให้ผู้ป่วยโควิดนอนตายคาบ้านอีกสักเท่าไหร่กัน ระบบการทำงานล่าช้า ปล่อยให้คนตายอย่างทรมาน สนใจประชาชนบ้าง ยังมีผู้ป่วยตกค้างอยู่ที่บ้านอีกเยอะ รู้แต่ไม่มา พูดได้ไงว่าเดี๋ยวมาๆ เดี๋ยวของคุณ 3-4 อาทิตย์ เห็นใจประชาชนบ้างมั้ย คนตายกันเท่าไหร่แล้ว บางทีก็น้อยใจรัฐบาล”

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/eteAyTX9XS4