จากกรณี เมื่อวันที่ 2 ก.ค.64 พนักงานสอบสวน สน.พญาไท รับแจ้งเหตุมีผู้ตกจากที่สูงเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้เสียชีวิตในบ้านอีก 1 ราย ภายในซอยพญานาค ถนนบรรทัดทอง จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์ รพ.รามาธิบดี และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้น ที่บริเวณหน้าอาคารดังกล่าว พบศพชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมา นายเป็งกี แซ่เตีย อายุ 84 ปี มีบาดแผลถูกกระแทกที่ศีรษะ ตรวจสอบภายในบ้านพบศพหญิง 1 ราย ทราบชื่อต่อมา น.ส.ปราณี หัฏฐะโสธนะ อายุ 57 ปี ลูกสาวของนายเป็งกี ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง และเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ทางเจ้าหน้าที่จึงปิดกั้นพื้นที่ และใช้ชุดปฏิบัติการเฉพาะทาง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

จากการสอบถาม น้องชายและลูกชายของผู้เสียชีวิต ระบุว่า ก่อนหน้านี้ พี่สาวป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเฉียบพลัน เมื่อประมาณ 1 ปี ที่ผ่านมา ทำให้เป็นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งทางครอบครัวได้จ้างคนดูแลมาคอยดูแล แต่ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้ที่ดูแลรู้ผลว่าติดเชื้อโควิด-19 และกลับไปรักษาตัวที่ต่างจังหวัด ส่วนทางครอบครัวได้ไปตรวจที่โรงพยาบาล เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา และได้รับผลยืนยันว่า พี่สาวติดเชื้อโควิด-19 แต่คนอื่น ๆ ในครอบครัว ไม่มีใครติด

แต่หลังจากที่กลับมาที่บ้าน เพื่อรอรถจากโรงพยาบาลมารับ ก็เป็นพ่อที่ดูแลพี่สาว ก่อนที่ในช่วงเช้าวันเกิดเหตุ ตนเองจะได้ยินเสียงมีคนคุยกันที่หน้าบ้านตอนช่วง 4 นาฬิกา จึงลงมาดูจึงพบว่าพ่อของตนนอนได้รับบาดเจ็บที่หน้าบ้าน และมีตำรวจกำลังพูดคุยสอบถามข้อมูล ซึ่งขณะนั้นพ่อยังไม่เสียชีวิต แต่พูดจาไม่รู้เรื่องจับใจความไม่ได้ ก่อนที่ตนเองจะมารู้ว่าพี่สาวเสียชีวิต จึงเริ่มขั้นตอนป้องกันโควิด เพราะตนเองได้แจ้งไปว่าพี่สาวติดโควิด-19

จนเมื่อเวลาประมาณ 5 นาฬิกา พ่อของตนก็เสียชีวิต และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานก็ตรวจสอบพบว่าพี่สาวเสียชีวิตก่อนช่วง 3 นาฬิกา และตนเองมาทราบจากเพื่อนบ้านว่า กล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านเห็นว่าพ่อของตนเองกระโดดจากชั้นบนของบ้าน ลงมาช่วงประมาณ 3 นาฬิกา ก็เชื่อว่า พ่อน่าจะลงมาดูอาการพี่สาว และพบว่าเสียชีวิต และด้วยความที่พี่สาวเป็นลูกรัก พ่อคงเกิดความเสียใจ และก่อเหตุขึ้น ก่อนหน้านี้พ่อเคยบ่นว่าไม่อยากอยู่ตั้งแต่ช่วงสองสามปีที่ผ่านมา หลังคุณแม่เสียชีวิตไป แต่ก็ดีขึ้น ก่อนจะมาเริ่มเศร้าลงอีกหลังพี่สาวป่วย และเริ่มเครียดซ้ำอีกครั้งตอนรู้ว่าพี่สาวติดโควิค-19

ทั้งนี้ พบว่า นายเป็งกี แซ่เตีย อายุ 84 ปี ผู้เป็นพ่อที่กระโดดตึกปลิดชีพตัวเอง ตายตามลูกสาว เป็นช่างเครื่องกระดาษที่มีชื่อเสียง เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการเครื่องกระดาษไหว้เจ้า จนได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้ที่เสกกระดาษธรรมดาให้เป็นสมมติเทพ ทั้งเทพเจ้า เซียน ยมทูต คนรับใช้ สร้างสรรค์ผลงานมายาวนานกว่า 50 ปี

โดยนายเป็งกี แซ่เตีย เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลด้วยเรือ จากเมืองซัวเถามาอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่อายุ 12 ปี ได้เริ่มต้นฝึกฝีมือ โดยทำงานวาดฉากที่โรงงิ้ว

ชมผ่านยูทูบที่ : https://youtu.be/rSTN1KY8zzM