นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ “พื้นที่ที่มีการระบาดหนัก” สามารถเลื่อนฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) เข็มที่ 2 ให้เร็วขึ้นได้ เป็น 8 สัปดาห์ จากเดิมที่อยู่ราวๆ 10-12 สัปดาห์

มติดังกล่าว เกิดขึ้นหลังกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีความเห็นว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย หรือ สายพันธุ์เดลตา กำลังเพิ่มสัดส่วนมากขึ้น ซึ่งการจะรับมือกับสายพันธุ์นี้ต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบให้เว้นระยะห่างฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 เป็นเวลา 10-12 สัปดาห์ และให้ยืดเวลาได้มากสุดถึง 16 สัปดาห์ ตามคำแนะนำเดียวกับอังกฤษ แต่แนวทางดังกล่าวทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า อาจไม่ทันต่อการป้องกันโรค โดยเฉพาะเมื่อประเทศไทยตั้งเป้าจะเปิดประเทศในอีก 120 วันข้างหน้า ซึ่งอาจทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับการเว้นระยะฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็ม 1 กับเข็ม 2 ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำอยู่ที่ 10-12 สัปดาห์ เนื่องจากจะทำให้กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีที่สุด เช่นเดียวกับที่อังกฤษก่อนหน้านี้ ก็อนุมัติให้เว้นระยะฉีดวัคซีนระหว่างเข็มที่ 1 และ 2 เป็นเวลา 4-12 สัปดาห์ แต่ระยะหลัง อังกฤษเปลี่ยนมาตรการมาเร่งฉีดเข็ม 2 ให้เร็วขึ้น เนื่องจากเผชิญหน้ากับการระบาดของ โควิด-19 สายพันธุ์อินเดียอย่างหนัก

ด้านคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล ประกาศเลื่อนเวลานัดฉีด วัคซีนแอสตราเซเนกา เข็มที่ 2 เร็วขึ้น โดยข้อความระบุว่า โรงพยาบาลศิริราช เลื่อนนัดฉีดวัคซีน เข็มที่ 2 เร็วขึ้น จากนัดหมายเดิม 16 สัปดาห์ เลื่อนมาเป็น 12 สัปดาห์ ตามประกาศของคณะกรรมการโรคติดเชื้อแห่งชาติ

สำหรับท่านที่ฉีดวัคซีน แอสตราเซเนกา เข็มที่ 1 ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 7-18 มิถุนายน 2564 เป็นต้นมา สามารถตรวจสอบได้ตามภาพด้านล่าง

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/E1-ZYYKbM0I