เลือกตั้งและการเมือง

สรุปยอดสมัครสว.5 วันรวม 48,117 คน – ศาลปกครองสั่งเพิกถอนระเบียบกกต.ไฟเขียวผู้สมัคร สว.แนะนำตัวออกสื่อ

โดย petchpawee_k

25 พ.ค. 2567

93 views

กกต.เผยยอดสมัคร สว. ทั่วประเทศรวม 4.8 หมื่นคน หลังเปิดรับสมัคร 5 วัน วันสุดท้ายสมัครมากสุด 1.3 หมื่นคน “ ศรีสะเกษ” ยอดสมัครมากสุด 2,764 คน น้อยสุด “น่าน” 98 คน ขณะที่ ศาลปกครองสั่งเพิกถอนระเบียบกกต. ไฟเขียวผู้สมัครสว.แนะนำตัวออกสื่อได้

วันที่ 25 พ.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา 2567 หรือ สว. ตั้งแต่วันที่ 20-24 พ.ค.2567 รวม 5 วัน มีผู้สมัครรวม 48,117 คน โดยแบ่งเป็นวันแรกมีผู้สมัคร 4,642 คน วันที่สองมีผู้สมัคร 6,607 คน วันที่สามมีผู้สมัคร 9,434 คน วันที่สี่มีผู้สมัคร 13,486 คน และวันที่ห้ามีผู้สมัคร 13,948 คน

จังหวัดที่มีผู้สมัครมากที่สุด คือจังหวัดศรีสะเกษ 2,764 คน อันดับที่สอง คือกรุงเทพมหานคร 2,489 คน อันดับที่สามเชียงใหม่ 2,000 คน อันดับที่สี่บุรีรัมย์ 1,836 คน และอันดับที่ห้านครศรีธรรมราช 1,798 คน

ส่วนจังหวัดที่มีผู้สมัครน้อยที่สุด คือ จังหวัดน่าน 98 คน อันดับสอง ตาก 102 คน อันดับสาม สมุทรสงคราม 128 คน อันดับสี่ พังงา 134 คน และอันดับห้า อุตรดิตถ์และนครพนม จังหวัดละ 150 คน

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยว่า  ผู้ที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามการตรวจสอบเบื้องต้นที่มีเอกสารครบและรับสมัครไว้ก่อนจำนวน 48,117 คน โดยผู้อำนวยการเลือกตั้งระดับอำเภอจะได้ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามโดยละเอียดครั้งหนึ่ง ว่าจะประกาศเป็นผู้สมัครหรือไม่ภายใน 5 วัน หรือภายในวันที่ 29 พ.ค.นี้

ส่วนผู้สมัครที่ตรวจในเบื้องต้นในสถานที่รับสมัครแล้ว แต่ไม่มีคุณสมบัติ และมีลักษณะต้องห้ามจึงไม่รับสมัครไว้ 109 คน โดยยังมีหลายอำเภอที่ไม่มีผู้สมัครครบทุกกลุ่ม ในเบื้องต้นมี 7 อำเภอไม่มีผู้สมัคร และมีอำเภอที่มีผู้สมัครเพียงกลุ่มเดียว 7 อำเภอ

กรณีบางอำเภอที่มีการสมัครเพียงกลุ่มเดียวหรือไม่มีผู้สมัครเลยหรือสมัครไม่ครบทุกกลุ่ม จะไม่กระทบการเลือกตามไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้ เนื่องจากกฎหมายได้เขียนรองรับไว้แล้วในมาตรา 19 และมาตรา 40 ที่ระบุว่าการเลือกระดับอำเภอให้กระทำได้แม้จะไม่มีผู้สมัครครบทุกกลุ่ม และกลุ่มใดไม่มีผู้สมัครให้งดการดำเนินการให้มีการเลือกในกลุ่มนั้นและไม่มีผลกระทบต่อการเลือกในกลุ่มอื่น และในเขตอำเภอใดมีผู้สมัครไม่เกินห้ากลุ่มไม่ต้องจัดให้มีการแบ่งสาย

เลขาธิการ กกต. ยังเปิดเผยว่าสำนักงาน กกต. และอำนวยความสะดวกให้สามารถติดตามรายชื่อผู้สมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภาระดับอำเภอ รวมถึงผู้ได้รับเลือกในระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับประเทศ ผ่านแอปพลิเคชั่น Smart Vote ตั้งแต่เวลา 22.00 น. ของวันนี้เป็นต้นไป

นายแสวงชี้แจงด้วยว่าจำนวนผู้สมัครอาจจะน้อยกว่าที่ประมาณการไว้ อาจเนื่องจากกำหนดคุณสมบัติไว้สูง และ ผู้สมัคร ไม่สามารถ หาคนรับรองประสบการณ์ได้ และการจัดตั้งเป็นหมู่เป็นคณะบริหารจัดการได้ยาก เนื่องจากระบบได้ออกแบบป้องกันไว้ทั้งการจัดตั้งและการฮั้ว ในระดับหนึ่ง รวมทั้งขาดแรงจูงใจในการสมัครที่ระบบการเลือกมีความซับซ้อนหลายชั้น มั่นใจว่าจำนวนผู้สมัครในครั้งนี้ กกต.สามารถบริหารจัดการในการเลือกและควบคุมทำให้การเลือกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พร้อมชี้แจงเพิ่มเติม กรณีคำพิพากษาของศาลปกครองกลางเกี่ยวกับระเบียบ กกต. ว่าด้วยการแนะนำตัวของผู้สมัคร สว.ทางสำนักงานได้ตรวจสอบคำพิพากษาและกฎหมายเบื้องต้น ซึ่งระเบียบดังกล่าวนั้นยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ ส่วนเรื่องการยื่นอุทธรณ์ให้รอการบังคับคดีไว้จนกว่าคดีถึงที่สุดนั้นเรื่องนี้สำนักงานไม่ได้นิ่งนอนใจ จะมีการประมวลข้อกฎหมายความเห็นและเสนอไปยังที่ประชุมใหญ่ กกต. ในวันจันทร์และอังคารนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นแนวทางกับผู้สมัครและสื่อมวลชนต่อไป

----------------------------------

วานนี้ (วันที่ 24 พ.ค. 67)  ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนระเบียบ กกต. ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 2567 ในส่วนข้อ 3 ข้อ 7 ทั้งฉบับแรก และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 8 เฉพาะฉบับแรก ที่บังคับใช้ในช่วง 27 เม.ย. 67 - 15 พ.ค. 67 และข้อ 11 (2) และ (3) โดยให้ผลย้อนหลังนับตั้งแต่ระเบียบดังกล่าว มีผลบังคับใช้ทั้งสองฉบับ ในคดีที่ นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย บรรณาธิการสำนักข่าวประชาไท ยื่นฟ้อง กกต. และคดีที่นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และพวก รวม 6 ราย ยื่นฟ้อง กกต. และ ประธาน กกต.ร้องขอให้เพิกถอนระเบียบกกต. ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 2567 เนื่องจากเห็นว่า ระเบียบดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทำให้ขาดการมีส่วนร่วมประชาชนตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้


โดยศาล ให้เหตุผลว่า รัฐธรรมนูญมีเจตนารมณ์ให้ สว.เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยมีหน้าที่สำคัญหลายประการ และมีหน้าที่ให้ความเห็นชอบกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ และมีผลบังคับใช้กับทุกคนในราชอาณาจักรไทย ดังนั้น การทำหน้าที่ของ สว.ย่อมมีผลกระทบต่อประชาชนชาวไทย จึงควรให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ แม้ว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.2561 กำหนดให้ผู้สมัครคัดเลือกกันเอง ไม่ได้ให้ประชาชนมีสิทธิเลือก สว.แต่รัฐธรรมนูญได้มีการรับรองเสรีภาพของบุคคลในการแสดงความคิดเห็นการพูด การเห็น การคิด การเขียน การโฆษณา การสื่อความหมายอื่นๆ


การที่ กกต.ออกระเบียบดังกล่าวด้วยการจำกัดข้อมูลประวัติและประสบการณ์ของผู้สมัคร รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้สมัครสว.สามารถแนะนำตัวเฉพาะกับผู้สมัครสว.ด้วยกันเท่านั้น และการห้ามผู้สมัครในสายอาชีพสื่อมวลชน และศิลปินนักแสดง ใช้ความสามารถในวิชาชีพของตัวเองเพื่อประโยชน์ในการแนะนำนั้น  จึงเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้สมัครสว.เกินกว่าเหตุ และถือว่าไม่เป็นการรักษาความมั่นคงของรัฐ หรือความคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของบุคคล หรือเพื่อรักษาศีลธรรมอันดีของประชาชน ระเบียบพิพาทนี้จึงไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/ZRQOQy-gSbM

คุณอาจสนใจ

Related News