เลือกตั้งและการเมือง

'ทะลุวัง' - 'ศปปส.' แจงหลังปะทะกันวุ่น กลางสยาม สองฝ่ายโร่แจ้งความ

โดย passamon_a

11 ก.พ. 2567

149 views

เมื่อวันที่ 10 ก.พ.67 ที่บริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าสยาม ภายหลังกลุ่มทะลุวัง และนักกิจกรรมอิสระ นำโดย น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ จัดกิจกรรมโพลขบวนเสด็จฯ ซึ่งขณะเดียวกัน กลุ่มศูนย์รวมประชาชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. นัดรวมกลุ่มแสดงความไม่พอใจกับกิจกรรมดังกล่าว จนมีการตะโกนต่อว่ากัน


โดยก่อนการปะทะ ทางนางสาวทานตะวันได้พยายามชี้แจงถึงกรณีในคลิปวิดีโอที่มีการบีบแตรรถยนต์ แต่ยังอธิบายและชี้แจงไม่เสร็จก็มีกลุ่มของ ศปปส. เดินเข้ามาประชิด พร้อมมีการตะโกนต่อว่าด่าทอ และกลุ่ม ศปปส. ได้ตะโกนไล่ให้กลุ่มของนักกิจกรรมออกจากพื้นที่ และมีการกระทบกระทั่งกันเป็นระยะของทั้ง 2 กลุ่ม กว่า 20 นาที โดยบางจังหวะนางสาวตะวันถูกชกเข้าที่ใบหน้าด้วย


โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าได้นำแผงเหล็กมากั้นพร้อมประกาศห้ามใช้พื้นที่ของห้าง จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้ปะทะกันที่บริเวณทางเชื่อมรถไฟฟ้าก่อนจะมีการรุกล้ำเข้าไปด้านในของสถานีรถไฟฟ้า


จากนั้นตำรวจ สน.ปทุมวัน และตำรวจนอกเครื่องแบบ พยายามเข้าห้ามปราม และแยกทั้ง 2 กลุ่มออกออกจากกัน แต่ไม่เป็นผล ทำให้เจ้าหน้าของสถานีรถไฟฟ้าตัดสินใจปิดประตู ทางเชื่อมห้างสรรพสินค้าทางเข้าประตู 4 และประตู 3 ขณะที่บรรยากาศโดยรอบนักท่องเที่ยวและประชาชนต่างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และวิ่งหนีหลบการชกต่อยดังกล่าว


ขณะเดียวกันมีผู้นำคลิปลงไปโพสต์ใน x โดยเป็นคลิปสั้น ๆ ในคลิปจะเห็นชายเสื้อขาววิ่งมา แล้วล้มลง ก่อนจะถูกรุมเตะซ้ำอย่างแรง โดยคลิปนี้ระบุข้อความว่า "น่ากลัวมาก กลัวโดนลูกหลงสุดๆ # สยาม"


ทั้งนี้ มีรายการว่า น.ส.ทานตะวัน จะเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่ม ศปปส. ที่ สน.ปทุมวัน ขณะที่ตัวแทนกลุ่ม ศปปส. ได้ชี้แจงกับสื่อว่า ตนไม่เห็นด้วยกับกลุ่มนี้ และถูกทำร้ายร่างกายก่อน


จากนั้นประมาณ 13.00 น. นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และมวลชน เดินทางมารวมตัวที่หน้า สน.ปทุมวัน และได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ แต่ระหว่างนั้นก็เกิดเหตุชุลมุนขึ้นเล็กน้อย เพราะมีมวลชนเข้าไปหวิดปะทะกับตำรวจนอกเครื่องแบบ เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นกลุ่ม ศปปส. แต่มีตำรวจและมวลชนเข้าไปห้ามปรามได้ทัน


หลังจากนั้น กลุ่ม ศปปส. ก็เดินทางเข้ามาที่ สน.ปทุมวัน เช่นกัน ทำให้ตำรวจจะต้องแยกทั้ง 2 กลุ่มออกจากกัน ให้กลุ่มทะลุวัง เข้าไปอยู่ใน สน. และให้กลุ่ม ศปปส. อยู่บริเวณด้านหน้า สน. เพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากัน มีการนำแผงเหล็กมาปิดหน้าทางเข้าออก สน. และตรึงกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยไว้


โดย นายอานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำกลุ่ม ศปปส. ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า กลุ่ม ศปปส. ไปเพื่อสังเกตการณ์ และไม่ได้อยากใช้ความรุนแรง แต่ไม่เห็นด้วยกับการทำกิจกรรมของกลุ่มทะลุวัง ที่มาทำโพลเกี่ยวขบวนเสด็จ และยังจงใจมาจัดกิจกรรมที่สยามพารากอนหลายรอบ โดยเฉพาะวันนี้เพราะพวกกลุ่มทะลุวังรู้ว่าอยู่ใกล้วังสระปทุม และจะมีขบวนเสด็จ จึงมองว่าการกระทำของกลุ่มนี้เป็นการท้าทายกฎหมาย และยืนยันว่า ศปปส. ไม่ได้มีอาวุธหรือมีไม้มา แต่เกิดเหตุการณ์ชุลมุนที่ทำให้มวลชนของกลุ่มตนเองได้รับบาดเจ็บจากการถูกตี และถูกต่อย รวม 3 คน รวมตนเองที่ถูกตีปากด้วย ซึ่งหลังจากนี้ก็คงจะดำเนินคดีด้วยเช่นกัน เพราะทางกลุ่มทะลุวังได้ดำเนินคดีกับพวกตนเองก่อน


จากนั้นนายอานนท์ก็นำมวลชนแยกย้ายออกจาก สน.ปทุมวัน พาผู้บาดเจ็บไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ก่อนเข้าแจ้งความที่ สน.บางรักแทน เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ โดยพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวันจะส่งเจ้าหน้าที่ไปรับแจ้งความ


ส่วนด้านนางสาวทานตะวัน กับพวก หลังแจ้งความเสร็จแล้ว ก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมกล่าวคำขอโทษ สำหรับเหตุการณ์ในคลิปที่ปรากฏในโซเชียล ที่ขับรถด้วยความเร็ว อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนคนอื่น แต่ก็ขอยืนยันว่าประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถามและแสดงออก แต่การที่ตนเองจัดทำโพลในครั้งก่อน กลับถูกดำเนินคดี ม.112 และยังถูกตอบโต้ด้วยความรุนแรงในวันนี้


ซึ่งเหตุการณ์ในวันนี้ ยืนยันว่านายอานนท์ เข้ามาล็อคคอเพื่อน ทำให้เพื่อนที่เหลือต้องเข้าไปให้การช่วยเหลือ และป้องกันตัว แต่กลับถูกกลุ่มคู่กรณีเข้ามาทำร้าย ทั้งที่เจตนาในวันนี้ไม่ต้องการสร้างความรุนแรง แต่ตนเองกลับถูกต่อยที่บริเวณโหนกแก้มซ้าย และถูกกระชากผม ส่วนเพื่อนอีก 12 คน มีบาดแผลที่ใบหู เบ้าตา และแขนซ้น บางรายถูกตบแว่นหัก ซึ่งคลิปจากสื่อหลาย ๆ ช่องเป็นหลักฐานยืนยันได้ และหากกลุ่มของตนเองเป็นฝ่ายเริ่มก่อนจริง เหตุใดสื่ออิสระฝั่งตนเอง 2 คนที่มาทำข่าวยังถูกทำร้ายไปด้วย ทั้งที่ไม่เป็นคู่ขัดแย้ง


และที่อีกฝ่ายอ้างว่า ตนเองเลือกจัดกิจกรรมในวันนี้ เพราะมีเจตนาแอบแฝง รู้กำหนดการขบวนเสด็จนั้น นางสาวทานตะวัน ยืนยันว่าตนเองไม่ทราบกำหนดการใด ๆ แต่วางแผนตามกำหนดการของตนเอง และกิจกรรมที่จัดขึ้นก็เป็นอิสระมาตั้งแต่ต้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล อีกทั้งนายพิธาก็ไม่ได้เป็นนายประกันของตนเองมานานแล้ว เพราะตนเองถูกถอนประกันปีที่แล้ว


อย่างไรก็ตาม นอกจากมวลชนทั้ง 2 กลุ่มที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว ยังมีรายงานว่าสิบตำรวจโทวิภพ ทองประเทือง ผู้บังคับหมู่กลุ่มงานสืบสวน กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ได้รับบาดเจ็บบริเวณคิ้วข้างขวาแตกด้วย


https://youtu.be/86PnTArDW8U

คุณอาจสนใจ

Related News