เลือกตั้งและการเมือง
ศาลแพ่ง สั่ง "คปท.-ศปปส." เลิกชุมนุมภายใน 7 วัน ชี้ใช้สิทธิเกินสมควร ประชาชนเดือดร้อน
โดย nutda_t
17 ก.ค. 2567
1.6K views
คดีสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกการชุมนุม คดีของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ร่วมกับกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ที่จัดการชุมนุมค้างคืนที่บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ถนนพิษณุโลก แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร กับขอให้ศาลมีคำสั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุมรื้อถอนเต็นท์ที่ปิดทับช่องจราจรและป้ายรถโดยสารประจำทาง มีคำสั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดช่องทางการจราจรบนถนนพิษณุโลกเพิ่มหนึ่งช่องทาง จากที่ปิด 2 ช่องทาง กับให้กลุ่มผู้ชุมนุมหยุดกิจกรรมชุมนุมในวันที่ 29 กรกฎาคม 2567
พิเคราะห์พยานหลักฐานของผู้ร้องแล้วมีคำสั่งในวันนี้ว่า เห็นว่า การที่กลุ่มผู้ชุมนุม ผู้ถูกร้องทำการชุมนุมโดยกางเต็นท์และปลูกต้นไม้บนฟุตบาทและผิวจราจร
2 ช่องทาง ตลอดแนวบนถนนพิษณุโลก ตั้งแต่หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ถึงแยกพาณิชยการพระนคร ทำให้เหลือช่องจราจร 2 ช่องทาง ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ต่อเนื่องถึงปัจจุบันเป็นเวลานานกว่า 5 เดือน เป็นเหตุให้อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษา ได้รับความเดือดร้อนในการเข้าออกมหาวิทยาลัย กลุ่มผู้ชุมนุมยังปราศรัยเสียงดังรบกวน การเรียนการสอน ตั้งเต็นท์ปิดบังป้ายรถประจำทาง
ที่ผ่านมากว่า 10 ปี มีกลุ่มผู้ชุมนุมหลายกลุ่ม ทางมหาวิทยาลัยไม่มีปัญหา แต่ครั้งนี้นักศึกษาต้องขึ้นรถประจำทางกลางถนน ไม่ปลอดภัย มหาวิทยาลัยพยายามนัดเจรจา แต่กลุ่มผู้ชุมนุมหลีกเลี่ยงไม่มาพบ กลุ่มผู้ชุมนุมมีรถสุขาเคลื่อนที่ 2 คัน ส่งกลิ่นเหม็นเข้ามาภายในบริเวณมหาวิทยาลัยฯ ต่อมามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จึงมีหนังสือถึงผู้ร้อง ขอให้แก้ปัญหาจากการปักหลักชุมนุมตามหนังสือฉบับลงวันที่ 27 มิถุนายน 2567 บุคลากร นักศึกษาให้ข้อมูลผลกระทบจากการไม่มีป้ายรถประจำทาง ไม่มีที่หลบแดด หลบฝน และนักศึกษา 701 คน รวมตัวกันลงลายมีอชื่อเป็นผู้ได้รับเดือดร้อน เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการชุมนุมสาธารณะที่เป็นการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนและนักศึกษาที่จะใช้ถนนสาธารณะ ก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ประชาชนและนักศึกษา ที่จะใช้ที่สาธารณะได้รับความเดือดร้อน เกินที่พึงคาดหมายได้ว่าเป็นไปตามเหตุอันควร
ตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มาตรา 15 (2) และ 16 (1) ผู้ร้องในฐานะเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะได้แจ้งประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมผู้ถูกร้องแก้ไขรวมถึง 4 ครั้ง แต่เพิกเฉย ผู้ร้องชอบที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเลิกการชุมนุมได้ ตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มาตรา 21 วรรคสอง ตามพฤติการณ์ที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ชุมนุมบนฟุตบาทและถนนสาธารณะมานานกว่า 5 เดือน นับว่าผู้ชุมนุมได้ใช้เสรีภาพแสดงความคิดเห็นของตนอย่างเพียงพอแล้ว
เมื่อการชุมนุมได้ส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอนและความปลอดภัยในการเดินทางของนักศึกษา การชุมนุมนานไปกว่านี้ถือเป็นการเอาแต่ใช้สิทธิของกลุ่มตนเกินสมควรไปมาก โดยไม่คำนึงถึงความเดือนร้อนของประชาชนคนอื่น จึงเห็นควรมีคำสั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุมตามคำร้องเลิกการชุมนุมสาธารณะตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 จึงมีคำสั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุมตามคำร้อง เลิกการชุมนุมสาธารณะภายในเวลา 7 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งเป็นต้นไป