สั่งถอนประกัน จำคุก 1 เดือน 'บุ้ง' ฐานละเมิดศาล พร้อมออกหมายจับ 'หยก'

ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถอนประกัน "บุ้ง ทะลุวัง" เหตุผิดเงื่อนไข พ่นสีลงบนธงประจำพระองค์ แถมโดนละเมิดอำนาจศาลจำคุกอีก 1 เดือน พร้อมออกหมายจับ "หยก" ให้มาฟังคำพิพากษา ส่วน "ตะวัน" รอดเพราะพฤติการณ์ยังไม่เข้าข่าย



วันนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ นางสาว เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ "บุ้ง ทะลุวัง" และนางสาว ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ "ตะวัน" แกนนำกลุ่มทะลุวัง จำเลยในคดีมาตรา 112 จากกรณีจำเลยได้ทำโพลล์สำรวจความเห็นเรื่องขบวนเสด็จเมื่อปี 2565 ได้เดินทางมาฟังคำสั่ง กรณีที่พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้งสอง เพราะทำผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาล จากการชุมนุมขับไล่นาย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สมาชิกวุฒิสภา บริเวณด้านหน้ากระทรวงวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 66 ที่ผ่านมา และศาลอาญากรุงเทพใต้นัดฟังคำสั่งในคดี "บุ้ง" ละเมิดอำนาจศาล จากเหตุวิวาทกับตำรวจศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 66 ด้วย



โดยมีทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และกลุ่มมวลชนนำดอกทานตะวัน และดอกกุหลาบ มามอบให้ทั้งคู่ และกอดให้กำลังใจ



"ตะวัน" บอกว่า วันนี้ไม่ได้คาดหวังอะไรกับกระบวนการยุติธรรมของไทย เพราะที่ผ่านมาเจออะไรหลายๆ อย่าง การที่บอกว่าตนเป็นเด็กก้าวร้าว ออกมาตะโกนโหวกเหวกโวยวาย ทั้งที่เธอแค่ออกมาแสดงความคิดเห็น จนตัวเองต้องเข้าเรือนจำ พอตนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ก็ต้องอยู่บ้านตลอด แค่จะออกไปซื้อข้าวปากซอยก็ต้องขออนุญาตศาล และเธอต้องการยืนยันว่า ผู้ต้องหาควรมีสิทธิได้รับการประกันตัว



"บุ้ง" ก็พูดในทำนองเดียวกันว่า ไม่เคยคาดหวังกับกระบวนการยุติธรรมของไทย เพราะเธอเป็นลูกผู้พิพากษา เติบโตมาในศาล จึงเห็นความไม่ปกติ ความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่ออกมาเรียกร้อง ดังนั้น จึงอยากให้มองที่เนื้อหามากกว่า อย่าติดภาพว่าพวกเธอก้าวร้าว เพราะพวกเธอไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่อยากทำให้ประเทศดีขึ้น

และสิ่งที่เรียกร้องมาตลอด คือ การปฏิรูปสถาบันฯ และปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ถ้าวันนี้ผลการตัดสินออกมา จากการที่ตนไปแสดงออกเพื่อเรียกร้องถอดถอน สว. แล้วต้องถูกถอนประกัน ก็เท่ากับว่าเป็นการปกป้องผู้มีอำนาจในประเทศ แต่ทำร้ายประชาชนตัวเล็กๆ



จากนั้นราว 1 ชั่วโมงครึ่ง นางสาว กุณฑิกา นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยคำตัดสินศาลอาญากรุงเทพใต้ว่า คดี มาตรา 112 จากกรณีที่ บุ้ง และ ตะวัน ทำโพลล์ขบวนเสด็จ ศาลมีความเห็นว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าว เป็นการขับไล่สมาลิกวุฒิสภา ซึ่งไม่ได้ทำให้เสื่อมเสียต่อสถาบันฯ จึงไม่ถือว่าผิดเงื่อนไขประกันตัว แต่ในกิจกรรมดังกล่าว "บุ้ง" ไปพ่นสีที่ธงที่มีสัญลักษณ์ประจำพระองค์ ซึ่งอาจจะทำให้สถาบันฯ เสื่อมเสีย แต่ "ตะวัน" ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพฤติการณ์นี้ จึงพิจารณาเพิกถอนประกัน "บุ้ง" เพียงคนเดียว และได้ออกหมายขัง นำตัวส่งทัณฑสถานหญิงกลางทันที



ส่วนคดีที่กล่าวหาว่า "บุ้ง" ที่ไปด่าตำรวจศาล และทะเลาะกันวุ่นวายที่หน้าศาล เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 66 ทนายความเองเพิ่งจะทราบวันนี้ (26ม.ค.) ว่ามีผู้ถูกกล่าวหา 2 คน คือ บุ้ง และหยก เพราะตามในหมายมีชื่อบุ้งคนเดียว ทำให้ "หยก" ไม่ได้มาศาลด้วย ศาลพิพากษาว่าทั้ง 2 คน มีความผิดจริง ฐานละเมิดอำนาจศาล ให้ลงโทษจำคุก 1 เดือน พร้อมออกหมายจับ "หยก" ให้มาฟังคำพิพากษา



ด้านตะวันบอกว่า ไม่ได้ดีใจที่ตัวเองรอด เพราะบุ้งก็ต้องเข้าคุก ซึ่ง บุ้ง บอกว่า ไม่ได้กังวล ไม่ได้รู้สึกกลัว ยืนยันจะยังคงสู้ต่อในสิ่งที่เรียกร้องมาโดยตลอด และยังเขียนข้อความในกระดาษฝากมาถึงมวลชนด้วย



โดยข้อความที่บุ้งเขียน ระบุว่า เป็นอีกครั้งที่กระบวนการยุติธรรมที่เรียกบุ้งว่าลูกหลานตุลาการมาตั้งแต่เล็ก ทำให้บุ้งผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ศาลเลือกปกป้องผู้มีอำนาจที่ปล้นอำนาจของประชาชนไป แต่กลับกระทืบลูกหลานของตัวเองเพื่อปกป้องคนไม่กี่กลุ่ม น่าละอายเหลือเกิน ในวันนี้ บุ้งยืนยันว่ากระบวนการยุติธรรมต้องถูกปฏิรูป ต้องไม่มีใครติดคุกเพียงเพราะเห็นต่าง และอย่าคิดว่าการจับบุ้งเข้าคุกครั้งนี้ จะทำให้บุ้งยอมถอย ศาลที่ควรเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน ต้องมีกระดูกสันหลังตั้งตรง และเลิกรับใช้พวกที่ทำรัฐประหารเสียที มิเช่นนั้น จบอย่าภูมิใจในตัวเองที่ได้นั่งอยู่บนหอคอยงาช้าง และคราบเลือดของประชาชน



หลังศาลตัดสินไม่กี่ชั่วโมง ในเฟซบุ๊กของส่วนตัวของหยก เยาวชนที่บุ้งดูแลอยู่ ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพที่ถ่ายคู่กับบุ้ง ว่า "วันนี้เราไม่ได้ไปศาล เมื่อคืนเรานอนดึกเราหลับๆตื่นๆเห็น พี่บุ้งกำลังจะไปศาล แล้วตื่นมาอีกที ช่วงเกือบ 10โมง เพราะเสียงสายโทรมา เขาโทรมาบอกเราว่า พี่บุ้งโดนถอนประกัน



เรารู้สึกเสียดายมาก ที่อย่างน้อยในตอนนั้น ที่เราสะลึมสะลือ เราไม่ได้บอกลาเขา ไม่ได้อะไรเลย จนสายต่อมาที่โทรมาคือ สายน้ำ เราได้คุยกับพี่บุ้ง แต่แค่แปปเดียว เราพูดอะไรแทบไม่ออก พี่บุ้งขอเราให้เราดูแลตัวเองให้ดี แค่นั้น เหมือนกับที่พี่บุ้งพูดมาตลอด เมื่อวานก็พูดก่อน จะมาถึงวันนี้



เราอยากรู้ อะไรที่ทำให้ไทยได้กล้าไปเสนอหน้าสมัครเป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ทั้งที่กฎหมายอาญามาตรา 112 ยังคงอยู่ มีโทษสูง มีคนติดคุกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ



ในโพสต์ หยกไม่ได้พูดถึงตัวเอง ที่ไม่ได้มาศาลตามนัดหมายวันนี้ ทำให้ศาลออกหมายจับ เพื่อให้มาฟังคำพิพากษาที่ให้ตักเตือน ซึ่งพฤติกรรม หยกวันนั้น ได้ปีนรั้วเข้าไปในศาล แต่เนื่องจากยังเป็นเยาวชน ศาลเลยให้ตักเตือน



ในโพสต์นี้ มีผู้เข้ามาแสดงความเห็น อาทิ เอาเวลาโพสต์ตอนนี้ไปศาลเถอะครับ หมายจับออกแล้ว ห่วงตัวเองก่อน โดนหมายจับแล้ว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/uRyPEY5Xsnw