'วิโรจน์' ซัดรองผอ.พศ.เอามาจากไหน พรรคไม่หนุนงบ อย่าพูดด้วยอคติ แล้วบอกรู้เท่าไม่ถึงการณ์

'วิโรจน์' ท้า รองผอ.พศ. โชว์หลักฐานพรรคไม่หนุนงบ อย่าพูดด้วยอคติ แล้วบอกรู้เท่าไม่ถึงการณ์



กลายประเด็นร้อนในโซเซียล หลัง กณิกนันต์​ ล้อสีทอง​ รองผอ.สำนักพุทธฯ พูดในวงเสวนาพระสงฆ์ จน วิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล กังขา พรรคได้คะแนนเยอะ ไม่อุดหนุนพระพุทธศาสนา พร้อมชี้พูดเพราะมีอคติส่วนตัว ด้านเจ้าตัวเครียด รับ ไม่มีเจตนาพาดพิง รู้เท่าไม่ถึงการณ์



หลังจากที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ซึ่งได้ดูคลิปนางกณิกนันต์​ ล้อสีทอง​ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือพศ.กล่าวไว้ ในงานเสวนา "เป็นอยู่คืออย่างเรียบง่าย ในโลกที่ซับซ้อน" จัดขึ้นที่วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ซึ่งป.ป.ช.ร่วมกับศูนย์การเผยแพร่พระพุทธศาสนาแห่งชาติจัดขึ้น และโพสต์ ในหัวข้อ "รองผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พูดอย่างนี้ สมควรหรือไม่"



พร้อมเขียนข้อความว่า "ประเด็นปัญหาที่ผมมีข้อสงสัย และต้องการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมาชี้แจง ก็คือ ช่วงนาทีที่ 1:44 - 1:48 ที่บรรยายโดย คุณกณิกนันต์ ล้อสีทอง รองผอ.พศ. " ได้ถามลูกถึงนโยบายพรรคการเมืองหนึ่ง เมื่อลูกตอบ คุณกณิกนันต์ก็โพล่งถามลูกว่า "ยังรักแม่อยู่ไหม" ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ "การสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม" แต่อย่างใด



คุณวิโรจน์ มองว่า คุณกณิกนันต์ ยังใช้อคติส่วนตัว พูดถึงหลานของตัวเองในทางที่ไม่ดี ในทำนองว่า "เป็นคนที่ไม่สนใจพ่อแม่ของตน" อีกด้วย โดยที่หลานของคุณกณิกนันต์ ไม่มีโอกาสได้ชี้แจงใดๆ เลย



คุณวิโรจน์ โพสต์ข้อความต่ออีกว่า คุณกณิกนันต์ ยังพูดต่อหน้าพระสงฆ์องค์เจ้าอีกด้วยว่า "พรรคการเมืองหนึ่งที่ได้คะแนนเยอะๆ ดูเหมือนจะมีนโยบายที่ไม่อุดหนุนองค์กรทางศาสนา ถ้าสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ถูกตัดงบประมาณ พระคุณเจ้าก็อย่าว่านะคะ"



คุณวิโรจน์ยังระบุว่า ทั้ง 2 ประเด็น จึงมีความจำเป็นต้องสอบถามไปยังสำนักงานพุทธฯ ว่า คุณกณิกนันต์ มีหลักฐานอะไรที่ทำให้เชื่อว่า "การสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม เป็นการทำให้เด็กไม่เห็นความสำคัญของผู้ปกครอง" และขอให้แสดงหลักฐานว่า นโยบายไหนของพรรคการเมืองใด ที่คุณกณิกนันต์อ้างถึง ที่สอนให้เด็กไม่เห็นความสำคัญของผู้ปกครอง



อีกประเด็นหนึ่ง ที่สำคัญมากๆ ก็คือ คุณกณิกนันต์มีหลักฐานอะไร ถึงได้เล่าต่อหน้าพระสงฆ์องค์เจ้าว่า จะมีพรรคการเมืองหนึ่ง ตัดงบประมาณของสำนักพุทธฯ



ประเด็นข้อสงสัยเหล่านี้ หากคุณกณิกนันต์ไม่สามารถหาหลักฐาน มายืนยันได้ ก็แสดงว่า กำลังเอาอคติส่วนตัว ที่มีต่อพรรคการเมืองหนึ่ง มาพูดความเท็จใส่ร้ายพรรคการเมืองนั้น ต่อหน้าพระสงฆ์ หรือไม่



การบรรยายในลักษณะนี้ของคุณกณิกนันต์ เข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ในมาตรา 82(9) ที่กำหนดให้ข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง หรือเปล่า



และสุดท้ายสิ่งที่สำนักพุทธ ต้องไตร่ตรอง ก็คือ การบรรยายในลักษณะนี้ ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของสำนักพุทธฯ อย่างไร ซึ่งคุณวิโรจน์ "ขออนุญาตแท็กถึงคุณแพรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร และ อ.จตุรงค์ จตุรงค์ จงอาษา ครับผม"



ด้านนายอินทพร จั่นเอี่ยม รักษาการ ผอ.สำนักพุทธฯ ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ได้พูดคุยสั้นๆกับคุณกณิกนันต์แล้ว เจ้าตัวยอมรับว่า ไม่ได้เจตนา แสดงความเห็นพาดพิง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และตอนนี้คุณกณิกนันต์ ก็เครียดมาก พร้อมชี้แจงว่า เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทั้งนี้สำนักพุทธฯเป็นองค์กรมีความเป็นกลาง และก็พร้อมทำตามนโยบายรัฐบาล ไม่ว่าพรรคการเมืองไหน ส่วนที่โซเซียลส่งข้อความถึงสำนักพุทธฯในหลายๆเรื่อง ก็พร้อมน้อมรับฟัง



ก่อนหน้านี้ มีรายงาน ว่าสำนักพุทธฯจะออกหนังสือชี้แจงต่อการบรรยายของคุณกณิกนันต์ ในช่วงบ่าย โดยจะไม่มีการแถลงข่าว แต่ต่อมาก็ได้บอกผู้สื่อข่าวว่า ขอระงับการออกหนังสือไว้ก่อน แล้วจะแจ้งให้สื่อทราบทันที หากดำเนินการอย่างไร



ขณะที่เจ้าตัว คุณกณิกนันต์ วันนี้ก็มาทำงานที่ สำนักงานพศ.พุทธมณฑล ตามปกติ โดยทางทีมหน้าห้อง บอกว่า หากจะให้สัมภาษณ์จะแจ้งสื่อให้รับทราบ



ล่าสุดคุณวิโรจน์ ให้สัมภาษณ์ ก็ย้อนถาม รองผอ.สำนักพุทธ ว่าไม่มีเจตนา หรือ มีอคติ พร้อมจี้ถามว่าไปเอาข้อมูลที่กล่าวอ้างมาจากไหน



โดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลัง นางกณิกนันต์ ล้อสีทอง รองผู้อำนวยการ สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมาชี้แจงว่า ไม่มีเจตนาพาดพิงพรรคก้าวไกล ว่าไม่สนับสนุนพระพุทธศาสนา ก็ย้อนถามกลับ ว่า ไม่มีเจตนาหรือเป็นอคติ ซึ่งส่วนตัวมองว่าเจตนาหรือไม่เจตนา ไม่ใช่สาระสำคัญ



แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า การพูดถึง พรรคการเมืองทำให้เด็กไม่ให้ความสำคัญกับผู้ปกครอง ไม่สนใจพ่อแม่ ตนอยากรู้ว่าไปเอานโยบายจากพรรคไหนมา และ เชื่อว่าคนระดับรอง ผอ. สำนักพุทธฯ คงไม่โกหกหรือจินตนาการในเชิงลบ แล้วออกมาพูดต่อหน้าพระสงฆ์ เพราะการบรรยายในเสวนาครั้งนี้เป็นการบรรยายให้พระสงฆ์ฟัง จึงเชื่อว่าคงไม่พูดปดตามหลักศีลห้า



นายวิโรจน์ ระบุว่า แม้การให้ความเห็นจะเป็นสิทธิ์ แต่ตน อยากรู้ถึงที่มาที่ไปในการนำเรื่องนี้มาพูด หรือนำมาจากการนำเสนอข่าว จากสำนักข่าวใดเป็นพิเศษหรือไม่ เพราะสมมุติหากเป็นข่าวเท็จ ก็จะได้เตือนหรือเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอื่นว่า อย่าไปเสพข่าวจากแหล่งข่าวนั้น



นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อหรือไม่ นายวิโรจน์ เชื่อว่า "เรื่องนี้ รอง ผอ. สำนักพุทธฯ คงตระหนักรู้แล้ว หลังยอมรับว่าไม่มีเจตนา และจะเป็นเรื่องที่ดีมาก หากไปเตือนเพื่อนในกลุ่มไลน์ว่า เรื่องที่นำมาเล่าเป็นเรื่องเท็จ และอย่านำไปเล่าต่อ ซึ่งจะถือเป็นคุณูปการอย่างมาก"

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/mEdBDBq-7JI