‘ก้าวไกล’ ชี้ "อธิบดีกรมโรงงานฯ" ลอยแพลูกน้อง ขณะที่ ‘อัครเดช’ เชื่อลาออก เพราะกดดัน

พรรคก้าวไกล บอกอธิบดีกรมโรงงาน ลาออก เป็นการลอยแพลูกน้อง ด้าน กมธ.อุตสาหกรรม ตั้งข้อสงสัย “ไฟไหม้โรงงาน” ซ้ำซาก

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ประกาศลาออกจากราชการ ขณะเกิดเรื่อง ปมสารเคมี ว่า บรรทัดฐานความรับผิดชอบของไทย กับต่างชาติต่างกัน ในต่างประเทศ ถ้าเกิดเหตุขึ้น เขาจะแก้ไขปัญหาอย่างสุดความสามารถให้เสร็จก่อนที่จะลาออก วันนี้ พอเกิดเหตุปุ๊บ ลาออกปั๊บ เหมือนลอยแพลูกน้อง ทำให้การแก้ไขปัญหา ก็ไม่รู้เลยว่าจะไปทางไหน

ส่วนการตั้งข้อสังเกต ว่าลาออกเพื่อให้ความผิดพ้นตัวนั้น นายณัฐชา ย้ำว่า ลาออกไปแล้ว ความผิดก็สามารถตามกันไปได้ ถ้าเป็นการกระทำความผิดในห้วงเวลาที่มีตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบ และเข้าไปมีส่วนรู้เห็นในการกระทำครั้งนี้ ไม่ว่าจะลาออกไป หรือหนีไปที่ไหน ก็สามารถกลับมาถูกดำเนินคดีได้ เราเห็นข้าราชการหลายคนที่ลาออกไปแล้ว สุดท้ายก็มาเป็นคดีความ หลังจากนั้น 4-5 ปี มีการตัดสินคดีก็ต้องกลับมารับโทษอยู่ดี เพราะฉะนั้นการลาออกไม่ใช่คำตอบ

นอกจากนี้นายณัฐชา ยังตั้งข้อสังเกต ถึงไฟไหม้ซ้ำซาก โกดังเก็บสารเคมี อย่างล่าสุด ที่ จังหวัดอยุธยา ว่าเป็นไฟไหม้ เพื่อหลบเลี่ยงประเด็นอื่นหรือไม่ เช่น การถูกสั่งให้ย้ายสารเคมีแล้วไม่อยากเคลื่อนย้าย จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ จนอดคิดไม่ได้ว่าทุกครั้งทำไมต้องจบด้วยเพลิงไหม้

ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ ควรจะลงรายละเอียดเชิงลึก ไปถึงเจ้าของโรงงานเดียวกันที่อยู่ในหลายจังหวัด ว่ามีพฤติกรรมแก้ไขปัญหาแบบเดียวกันทั้งหมดหรือไม่ ไม่อย่างนั้น กลุ่มทุน ก็จะเอารัดเอาเปรียบ โดยการแก้ปัญหาแบบเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง

ขณะที่นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ในฐานะประธานกรรมาธิการการอุตสาหกรรม ของสภา พูดถึงกรณีที่อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่ได้แจ้งลาออกกลางที่ประชุมกรรมาธิการฯเมื่อวานนี้

บอกว่า ตนก็ตกใจที่ท่านลาออก เพราะประชุมกันตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงค่ำ ไม่มีวี่แววที่จะลาออก และได้ถามปลัดกระทรวงฯว่าได้ยับยั้งหรือไม่ แต่ปลัดกระทรวงฯ ก็มีท่าทีตกใจ บอกว่ายังไม่ทราบ ซึ่งส่วนตัว ยอมรับว่าเสียดาย ก็ย้ำไม่ได้ช่วยแก้ต่างให้ เพราะอธิบดีก็เป็นลูกหม้อ ทำงานดี

ซึ่งเมื่อวานนี้ "ท่านไม่ได้บอกเหตุผลอะไร แต่ตอนนี้เราก็พอทราบว่าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเยอะ ผมเชื่อว่าแรงกดดันมีอยู่แล้ว แต่ว่าแรงกดดันจากไหน ผมไม่ทราบ"

รวมถึงมองว่า ตอนนี้เป็นปัญหาที่หมักหมมมาหลายปี ก่อนที่ท่านเข้ามารับตำแหน่งอีก ฉะนั้นการจะแก้ไขปัญหานี้ได้ต้องบูรณาการหลายหน่วยงาน ซึ่งตนก็เคารพการตัดสินใจของท่าน แต่ก็เสียดายข้าราชการที่ทุ่มเททำงาน

นายอัครเดช ยังพูดถึงเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมี ล่าสุดเกิดขึ้นที่อำเภอภาชี อยุธยา ว่า ได้รับทราบว่าโรงงานที่อยุธยา กับ ที่จังหวัดระยอง มีความเชื่อมโยงกัน แต่เชื่อมโยงลักษณะไหนต้องรอวันที่ 15 พ.ค. ซึ่งจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุม จะว่าดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างไรได้บ้าง ไม่เช่นนั้นจะเกิดพฤติกรรมการเลียนแบบ

มีข้อมูลน่าสนใจ ที่คุณอัครเดช พูดถึง เรื่องการทิ้งกากอุตสาหกรรมหรือสารเคมี ตามกฎหมายจะมีไม่โทษทางอาญา มีแค่โทษปรับ ทำให้ผู้ประกอบการไม่เกรงกลัว ทางกรรมาธิการอุตสาหกรรม จึงได้ยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขให้โรงงานอุตสาหกรรม เพิ่มความผิดอาญา ให้จำคุก 5 ปี ปรับจาก 2 แสนบาทเป็น 1 ล้านบาท จึงเป็นข้อสังเกตได้ว่าเหตุไฟไหม้ เป็นการเลี่ยง ก่อนมีการใช้กฎหมายใหม่หรือไม่

นายอัครเดช บอกว่า "ตนได้บอกท่านนายกรัฐมนตรีไปแล้วว่ามันเป็นวาระแห่งชาติ ที่ต้องเข้ามาดูเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า"

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/7iVWYYVyxWg