เลือกตั้งและการเมือง

ประธาน กกต. ปัดมีใบสั่งยื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบก้าวไกล ชี้หลักฐานสำคัญคือคำวินิจฉัยศาล

โดย nutda_t

13 มี.ค. 2567

195 views

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เปิดเผยว่าที่ประชุม กกต. เห็นควรให้ส่งเรื่องก้าวไกล ล้มล้างการปกครองไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกระบวนการพิจารณาเรื่องนี้ ที่ประชุมกกต. ได้ให้สำนักงานกกต.ศึกษาวิเคราะห์ตั้งแต่ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 31 มกราคม ซึ่งเป็นการศึกษาพิจารณาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด จนกระทั่งถึงวันที่ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการเมื่อ 29 กุมภาพันธ์ และเราก็ใช้เวลาในการพิจารณาเพิ่มเติม และข้อเสนอแนะ จนเป็นที่มาของผลการประชุมกกต.เมื่อวานนี้

ส่วนจะสามารถยืนยันกรอบระยะเวลาได้หรือไม่ หลังพรรคก้าวไกลตั้งคำถามว่าเร็วเกินไปที่จะตัดสิน นายอิทธิพร ยืนยันว่า เรื่องนี้เป็นการดำเนินการโดยใช้อำนาจหน้าที่ตามมาตรา 92 ซึ่งใช้คำว่าเมื่อคณะกรรมการกกต. มีหลักฐานอันควรเชื่อว่า มีพรรคใดกระทำการอันควรจะเป็นการล้มล้างการปกครอง ให้เสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ซึ่งเรามีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมา ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม และทางการออกมาวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ก็ใช้เวลาพอสมควร สิ่งที่เป็นหลักฐานอันเชื่อได้ว่า ก็คือคำวินิจฉัยของศาลนั่นเอง มีรายละเอียด ข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน มีเอกสารประกอบ มีคำไต่สวน มีถ้อยคำของผู้ที่เกี่ยวข้อง ฉะนั้นเราจึงมีเหตุผลที่เชื่อได้ว่า ควรส่งศาลรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ เมื่อ กกต.มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคก้าวไกล โดยทั่วไปจะใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ ในการจัดทำคำร้องเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเสร็จเมื่อไหร่เราก็ยื่นเมื่อนั้น

ส่วนที่โซเชียลตั้งข้อครหาว่า กกต. มีใบสั่งนั้น นายอิทธิพร ชี้แจงว่า ที่ทำงานมาก็ทำตามกฎหมาย คนที่จะสั่งให้เราปฏิบัติหน้าที่ คือกฎหมายที่เขียนเอาไว้ หากมองตามรัฐธรรมนูญ ก็คือ เราเป็นองค์กรอิสระหนึ่ง ที่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายและหลักนิติธรรม เพราะฉะนั้นหากไม่ทำตามกฏหมาย ก็ถือว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่

ส่วนหลังจากนี้จะมีคิวพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ ประธานกกต. กล่าวว่าไม่อยากเรียกว่า เป็นคิว หากมีการเสนอเรื่อง และพิจารณาว่า พรรคการเมืองหรือผู้บริหารพรรคการเมืองใด กระทำการ อันอาจจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวข้องอันจะนำไปสู่การ ต้องยื่นศาลที่เกี่ยวข้อง เราก็ดำเนินการตามนั้น ไม่ได้มีเฉพาะเจาะจงอะไร

ส่วนความคืบคดียุบพรรคภูมิใจไทย กรณีรับเงินบริจาค บริษัท บุรีเจริญ คอนตรัคชั่น นั้น ประธาน กกต.กล่าวว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบของเท็จจริงและรวบรวบพยานหลักฐาน ของเลขาฯ กกต. ซึ่งเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง ยังไม่ถึงขั้นที่จะสรุปความเห็นและนำเข้าสู่ที่ประชุม กกต.

ส่วนกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ระบุว่าโทษของการยุบพรรคก้าวไกล อาจร้ายแรงถึงขั้นถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต ประธาน กกต.กล่าวว่า ตามมาตรา 92 แล้ว หาก กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค กกต.สามารถยื่นให้ศาลพิจารณาเพิกถอนสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ โดยตามกฎหมายแล้วศาลจะสั่งห้ามตั้งพรรคใหม่ ห้ามเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองอื่น ซึ่งตามกฎหมาย ศาลจะสั่งห้ามไม่ให้เกิน 10 ปี นั่นเป็นโทษสูงสุด ส่วนกกต.จะดำเนินคดีอาญากับพรรคก้าวไกลด้วยหรือไม่ ต้องพิจารณาว่าการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายอื่นด้วยหรือไม่

แท็กที่เกี่ยวข้อง  กกต ,พรรคก้าวไกล

คุณอาจสนใจ

Related News