ป.ป.ส. ชี้แจงทำไมกัญชายังผิดกฎหมาย

จากกรณีที่ นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนปลูกกัญชา 2 ต้น แล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ว่าไม่สามารถจับกุมได้ เพราะตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ที่มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2564 ไม่ได้ระบุว่า กัญชา เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 แล้ว



ล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น. นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้แถลงข่าวเพื่อชี้แจงถึงข้อกฎหมายดังกล่าว โดยระบุว่า เดิมที พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 7 ได้ระบุไว้ว่ายาเสพติดให้โทษมี 5 ประเภท โดยประเภท 5 เช่น กัญชา และพืชกระท่อม



ซึ่งการใช้คำว่า ”เช่น” หมายความว่าต้องมียาเสพติดตัวอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ใน พ.ร.บ.ฯ แต่จะถูกกำหนดไว้ในประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยมีเขียนต่อท้ายเอาไว้ชัดเจนว่า “ทั้งนี้ ตามที่รัฐมนตรีประกาศระบุชื่อยาเสพติดให้โทษตามมาตรา 8 (1)”



ส่วนในประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ที่มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2564 ในมาตรา 29 ได้ระบุไว้ว่า ยาเสพติดให้โทษมี 5 ประเภท เช่นเดิม แต่มีการแก้ไข ประเภท 5 ระบุว่า เช่น พืชฝิ่น และระบุต่อท้ายว่า “การระบุชื่อยาเสพติดให้โทษว่ายาเสพติดให้โทษชื่อใดอยู่ในประเภทใด และการเพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงชื่อหรือประเภทยาเสพติดให้โทษดังกล่าว ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ป.ป.ส. ประกาศกำหนด”



แต่ในปัจจุบัน ยังไม่มีประกาศของกระทรวงสาธารณสุขที่แก้ไขยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ว่ามีอะไรบ้าง ดังนั้น เมื่อดูตาม พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 มาตรา 8 ระบุไว้ว่า “ให้ยังคงใช้บังคับกฎหมายเดิมได้ต่อไป จนกว่าจะมีกฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศ ที่ออกใหม่”



อีกทั้งในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2563 ซึ่งเป็นประกาศล่าสุด ก็ยังระบุว่ากัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5



ดังนั้น จึงเท่ากับว่า กัญชายังคงเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ที่ผิดกฎหมายอยู่ หากใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 มาตรา 23 หรือกฎกระทรวง เรื่องการขออนุญาต และการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา พ.ศ.2564



นายวิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่เอาชื่อของกัญชาออกจากกฎหมายดังกล่าว เจตนารมณ์คือเพื่อที่ในอนาคต จะได้มีการปลดล็อกกัญชาได้ แต่ถ้าหากระบุเอาไว้ชัดเจนในกฎหมาย กระทรวงสาธารณสุขจะประกาศยกเลิกไม่ได้ ดังนั้น ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 จึงเป็นการเปิดช่องเอาไว้ให้สำหรับการปลดล็อคกัญชาออกจากยาเสพติดประเภท 5 ทั้งนี้ การปลดล็อคจะต้องขึ้นอยู่กับประกาศของกระทรวงสาธารณสุข



โดยสรุปคือ ขณะนี้ “กัญชา” ยังคงเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ที่ผิดกฎหมายอยู่ ซึ่งหากจะให้ถูกกฎหมาย ก็ต้องรอประกาศจากกระทรวงสาธารณสุข ส่วนการปลูกกัญชานั้น หากประชาชนจะปลูก ก็สามารถทำได้ แต่ต้องไปดำเนินการขออนุญาตตามกฎกระทรวง ดังนั้น ในกรณีที่เกิดขึ้นนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีอำนาจในการจับกุมตามกฎหมาย



ทั้งนี้ นายวิชัย ยังได้เปรียบเทียบกับกรณีของยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ด้วย โดยในประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 หรือแม้แต่ใน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ก็ระบุชื่อของยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ว่า “เช่น เฮโรอีน” เท่านั้น แต่ในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 1 พ.ศ. 2561 มีการกำหนดว่ายาบ้าและไอซ์เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมยาบ้าและไอซ์ได้ตามปกติ