'ทนายแม่แตงโม' ยื่น กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา ขอช่วยติดตามการทำคดี

ทนายความแม่ 'แตงโม นิดา' ยื่น กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา ขอช่วยติดตามการทำคดีแตงโม


วันนี้ (8 มี.ค. 65) ที่อาคารรัฐสภานายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความของ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน หรือคุณแม่ของ ดาราสาวแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ พร้อม น.ส.ภานุฎา ศิระยุทธโยธิน ลูกพี่ลูกน้องของดาราสาวแตงโม เดินทางเข้ายื่นรายละเอียดเพิ่มเติม ต่อนายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เพื่อขอความเป็นธรรม ขอให้ร่วมติดตามตรวจสอบการทำคดีการพลัดตกเรือเสียชีวิตของ แตงโม นิดา

โดยนายกฤษณะ ระบุว่า การมายื่นครั้งนี้เพื่อทำให้ข้อสงสัยต่างๆให้เกิดความกระจ่าง และร่วมสืบหาข้อเท็จจริงเพราะความหวังแม้จะมีน้อยแต่ความยุติธรรมต้องมีในสังคม ย้ำว่าคดีนี้ในทางคดี คุณแม่ภนิดามีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวในการแต่งตั้งทนายความ ส่วนตัวเคารพ ในการตัดสินใจ ของคุณแม่ที่ต้องการให้ตนทำคดีผู้เดียว แต่ตนก็เปิดขว้าง ให้ทนายความคนอื่น เข้ามาร่วมค้นหาหลักฐาน ในฐานะที่ปรึกษา ได้ ไม่ได้ปิดกั้น เช่นเดียวกับเรื่องผ่าพิสูจน์ศพครั้งที่สอง เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณแม่ แต่ตอนนี้ขอให้ทางกรรมาธิการ ดำเนินการตรวจพิสูจน์ จากข้อมูลที่มีอยู่ก่อน ส่วนการตัดสินใจจะผ่าพิสูจน์หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับคุณแม่



ส่วนกรณี ที่นายดายศ เดชจบ พี่ชายของแตงโม ถอนตัวไม่ร่วมหาความจริงกับ ทนายษิทรานั้น นายกฤษณะ กล่าวว่า เมื่อค่ำวานนี้นายดายศได้พูดคุยเคลียร์ใจกับคุณแม่ของแตงโมแล้วโดยมีตนเป็นกาวใจ ซึ่งพี่ชายแตงโมระบุจะให้ตนเป็นผู้ทำคดีช่วยคุณแม่อย่างเต็มที่ เพื่อให้การทำคดีมีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนพี่ชายจะขอถอยออกมาหนึ่งก้าว และทุกคนมีความตั้งใจจะช่วยทำเพื่อแตงโม

นายกฤษณะ ยังระบุว่าหนังสือที่คุณแม่ของแตงโมได้เขียนเรื่องการตั้งทนายความของคดีว่าจะต้องเป็นนายกฤษณะแต่เพียงผู้เดียวนั้น ว่าไม่ได้จะสื่อสารถึงนายษิทรา แต่มีจุดประสงค์คือต้องการแจ้งให้กับสื่อมวลชนได้รับทราบตามจุดประสงค์ของแม่แตงโม ย้ำว่าไม่ได้น้องการสื่อถึงทนายษิทรา และส่วนตัวตนยังศรัทธาและเคารพทนายษิทรา แต่ทั้งนี้ทนายษิทรายังสามารถให้ความเห็นในฐานะที่ปรึกษา ได้ และตนก็ยินดีหากทนายษิทราจะเข้ามาสนับสนุนข้อมูลในฐานะประชาขนทั่วไป และขอขอบคุณทนายษิทราที่มีความตั้งใจจริง ในฐานะทนายความสถาบันเดียวกัน



นายกฤษณะ ยังอธิบายถึงกรณีการยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดกว่านายดายศจะสามารถยื่นเป็นผู้จัดการมรดกได้ด้วยหรือไม่ หรือมีเพียงแม่แตงโมเท่านั้น ว่า ในเชิงกฎหมายผู้เสียหายทางนิตินัยคือผู้เสียหายโดยตรงที่สามารถเข้ามาเกี่ยวข้องในคดีได้ ในเชิงคดีอาญาจะมีเพียงคุณแม่เพียงผู้เดียวรวมถึงคดีแพ่งด้วย ส่วนคดีมรดกนั้นนายดายศสามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวได้



ด้าน น.ส.ภานุฎา ศิระยุทธโยธิน ลูกพี่ลูกน้องของคุณแตงโม กล่าวว่าสภาพจิตใจของคุณแม่ตอนนี้ยังมีความกังวลถึงเรื่องคดี ทำให้เริ่มมีอาการป่วย ไม่สบาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความเครียดจากการสูญเสียลูกสาวไปอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้ตอนนี้ต้องพักผ่อน โดยมีครอบครัวช่วยกันให้กำลังใจดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนประเด็นดราม่าต่างๆ ในโซเชียลมีเดีย นั้นสามารถตัดออกไปได้ เพราะคุณแม่ไม่ได้เสพสื่อเหล่านี้



น.ส.ภานุฎา ย้ำว่าข้อสงสัยของครอบครัว ที่ต้องการคำตอบและมาร้องต่อกรรมาธิการครั้งนี้ คือต้องการรู้สาเหตุจริงๆ ในการเสียชีวิต ของคุณแตงโม ว่าจริงๆ แล้วเกิดจากอะไรกันแน่ ซึ่งกรรมาธิการก็เป็นอีกความหวัง ในการหาคำตอบครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากความไม่ไว้วางใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่มองว่าหากมี ผู้ที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญเข้ามาร่วม ก็น่าจะเป็นประโยชน์ในการทำคดี และทำให้คดีจบไวขึ้น คุณแตงโมจะได้ไปสู่สุคติ อย่างไม่ต้องกังวล



ส่วนที่ทนายความหรือฝ่ายต่างๆออกมาแสดงความเห็น กับเรื่องที่เกิดขึ้น ทางครอบครัว ไม่ได้มองว่ายิ่งทำให้คดียุ่งยากขึ้น แต่ต้องขอบคุณ ทุกคนเพราะสิ่งที่ทุกคนแสดงความเห็นออกมา ซื้อเห็นต่อความรักและหวังดีต่อคุณแตงโม



ขณะที่ นายสมชาย กล่าวว่า การให้กรรมาธิการฯ เข้ามาร่วมตรวจสอบความถูกต้องในการทำคดีนี้ เนื่องจากทางข้อมูลต้องการข้อมูลที่ตรงไปตรงมา เนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งกรรมาธิการมีหน้าที่เรียกข้อมูลหาก ข้อมูลมีความชัดเจนครอบครัวก็อาจจะไม่ต้องขอให้ผ่าศพรอบสอง ยื่นยันว่า ที่ผ่านมา กรรมาธิการของสภามีส่วนในการตรวจสอบคดีสำคัญๆลักษณะนี้มาแล้ว ทำให้คดีมีความชัดเจนไม่ต้องผ่าศพพิสูจน์ซ้ำ เชื่อว่าการดำเนินการครั้งนี้จะช่วยให้ความไม่ชัดเจนต่างๆยุติได้ เพราะคดีนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาอยู่ด้วย มาติดตามการทำคดีด้วยตัวเอง



ส่วนข้อสงสัยเรื่องบาดแผลต่างๆและการหาสาเหตุในทางนิติวิทยาศาสตร์ สามารถพิสูจน์ได้ โดยกรรมาธิการฯต้องเรียกเจ้าหน้าที่ที่ตรวจพิสูจน์มาให้ความเห็น แต่หากไม่ชัดเจนก็อาจจะต้องมีการผ่าพิสูจน์ซ้ำ ซึ่งอาจจะกระทบทำให้จะต้องเลื่อนพิธีศพออกไป