เลือกตั้งและการเมือง

นักกิจกรรมร่วมไว้อาลัย 'บุ้ง' ลั่นไม่ควรมีใครเสียชีวิตจากกระบวนการยุติธรรม

โดย panwilai_c

14 พ.ค. 2567

26 views

ความเคลื่อนไหวหลังการเสียชีวิตของนางสาวเนติพร หรือ บุ้ง ทะลุวัง ซึ่งเสียชีวิต เพราะอดอาหารประท้วง เพื่อเรียกร้องให้ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ในขณะที่เธอถูกคุมขังในเรือนจำ โดยค่ำที่ผ่านมา มีนักกิจกรรม ไปร่วมกันจุดเทียน และวางดอกไม้ไว้อาลัย ทั้งที่ศาล อาญากรุงเทพใต้ และศาลอาญารัชดา และมีการนัดทำกิจกรรมนี้อีกหลายแห่งบางจังหวัด ขณะที่กรมราชทัณฑ์ชี้แจงขั้นตอนรักษา พร้อมระบุว่า บุ้ง ทะลุวัง ปฏิเสธการดื่มเกลือแร่และวิตามินบำรุงเลือด จนอาการทรุดลงและเสียชีวิต

ประชาชนส่วนหนึ่งไปร่วมกิจกรรมที่ด้านหลังศาลอาญา กรุงเทพใต้ เพื่อไว้อาลัยการเสียชีวิตของนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง โดยกิจกรรมเริ่มเวลา 17 นาฬิกา มีการชูรูปภาพไว้อาลัย และการปราศรัยของแกนนำกลุ่ม จากนั้นเวลา 19 นาฬิา 12 นาที กลุ่มผู้ร่วมกิจกรรมได้จุดเทียนและวางดอกไม้เพื่อไว้อาลัย สลับการปราศรัย และดนตรีรวมกิจกรรมที่ทำร่วมกัน 1 ชั่วโมง 12 นาที ก่อนจะแยกสลายไป

นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือสายน้ำ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและเป็นเพื่อนของบุ้ง ทะลุวัง ระบุว่าเขาและเพื่อนๆที่มาร่วมกิจกรรม เรียกร้องว่าไม่ควรมีใคร ต้องเสียชีวิตจากกระบวนการยุติธรรม และตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าสาเหตุที่เสียชีวิตคืออะไรแน่ แต่หนึ่งในนั้นเหตุผลนั้นคือการถูกคุมขัง และไม่ได้รับการประกันตัว ทั้งที่เป็นสิทธิ์พื้นฐาน ที่ทุกคนต้องได้รับการประกันตัว เพราะยังไม่มีการตัดสินว่ากระทำผิด

โดยเขาเห็นว่า บุ้ง เป็นหนึ่งคนที่ควรได้รับการประกันตัว และการที่เธอไม่ได้รับการประกันตัว ทำให้เธอเลือก วิธีอดอาหารเพื่อประท้วง สำหรับการจัดกิจกรรมเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา มีตำรวจนครบาลยานนาวา มาเฝ้าสังเกตการณ์และดูแลความเรียบร้อย กระทั่งกิจกรรมผ่านไปด้วยดี

ส่วนที่หน้าศาลอาญารัชดา ก็มีการจัดกิจกรรมไว้อาลัยเช่นกัน โดยมีการจุดเทียนปักเรียงเป็นชื่อบุ้ง จากนั้นมีการอ่านแถลงการณ์โดยส่วนหนึ่งอ้างอิงสิ่งที่ บุ้ง ทะลุงวัง ประกาศอดอาหารเพื่อเรียกร้อง 2 เรื่อง คือปฎิรูปกระบวนการยุติธรรม และไม่มีคนเห็นต่างทางการเมืองถูกคุมขังอีก ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังเหลือผู้ถูกคุมขังในคดีการเมือง 44 คน นอกจากในเขตกรุงเทพฯแล้ว ยังมีกิจกรรมจุดเทียนวางดอกไม้ เพื่อไว้อาลัยต่อบุ้ง ทะลุวัง เช่นที่เชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา เป็นต้น

สำหรับการเสียชีวิตของบุ้ง ทะลุวัง นั้น กรมราชทัณฑ์ออกเอกสารี้แจงว่า ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ รายงานว่าบุ้ง มีอาการหัวใจหยุดเต้นฉับพลันในเช้าวันนี้ ทีมแพทย์ได้กู้ชีพและนวดหัวใจ จากนั้นส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งทีมแพทย์ทั้งสองแห่ง ได้ช่วยกันกู้ชีพผู้ป่วย ตั้งแต่เวลา 6 นาฬิกา 20 นาที ถึงเวลา 11 นาฬิกา 22 นาที แต่ร่างการไม่ตอบสนองต่อการรักษา และสิ้นใจเมื่อเวลา 11 นาฬิกา 22 นาที

เอกสารของกรมราชทัณฑ์ ระบุว่าหลังจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ รับตัวจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 บุ้ง รับประทานอาหาร และน้ำ ตามปกติ แต่ยังมีอาการขาอ่อนแรงและบวมเล็กน้อย ผลเลือดมีภาวะโลหิตจางเล็กน้อย เกลือแร่ต่ำ และบุ้ง ทะลุวัง ปฏิเสธการรับประทานเกลือแร่และวิตามินบำรุงเลือด จนเกิดอาการดังกล่าว

ขณะที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ก็ออกแถลงการณ์ชี้แจงการเข้ารับการรักษาของบุ้ง เมื่อเวลา 9 นาฬิกา 30 นาที ด้วยอาการหมดสติไม่มีสัญญาณชีพ โดย

เบื้องต้นแพทย์ประเมินพบว่า ผู้ป่วยไม่มีสัญญาณชีพ ระบบประสาทไม่ตอบสนอง ไม่พบคลื่นไฟฟ้าหัวใจ จึงทำCPR อย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานทางการแพทย์ แต่ร่างกายไม่ตอบ สนองและสิ้นใจ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต ต้องรอการชันสูตรตามขั้นตอนกฎหมาย

มีรายงานว่า บุ้ง เขียนพินัยกรรมไว้ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ หลังจากเข้าทัณฑสถานหญิงกลางได้ 1 สัปดาห์ ซึ่งระบุเจตนาเรื่องจัดการจัดการทรัพย์สินว่า หากตนเสียชีวิต ให้ยกทรัพย์สิน เงินสด เงินฝาก และแมวชื่อ โซ จำนวน 1 ตัว ขอมอบให้ หยก เพียงผู้เดียวทรัพย์สินอื่น เหนือเหนือจากที่ระบุไว้ในข้อ 1. รวมถึงที่ดิน สิทธิเรียกร้อง และสิทธิตามมรดก ยกให้พี่สาวเพียงผู้เดียว และหลังจากเสียชีวิตแล้ว ขอมอบให้ทนายความของตน เป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมนี้ และให้มีอำนาจหน้าที่ตาม กฎหมายทุกประการ

นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีก 2 ฉบับ ที่บุ้งทำ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ คือหนังสือเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุข ที่เป็นไปเพียงเพื่อยืดการตายในวาระสุดท้ายของชีวิต หรือเพื่อยุติการทรมานจากการเจ็บป่วย รวมทั้งหนังสือแสดงเจตนาขอบริจาคร่างกายภายหลังเสียชีวิตแล้วให้กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อศึกษาและวิจัย เพื่อนำร่างไปใช้ทำประโยชน์

หลังการเสียชีวิตของนางสาวเนติพร หรือบุ้ง ทะลุวัง พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่าการเสียชีวิตของผู้ที่อยู่ระหว่างควบคุมของราชทัณฑ์ หรือเป็นการควบคุมของเจ้าพนักงาน ถือเป็นการเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ ต้องมีการชันสูตรพลิกศพโดยผู้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีหลักว่าจะต้องทำให้ เสร็จภายใน7วัน

พันตำรวจเอกทวี ยังระบุว่าในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและรัฐบาลทุกคน ขอแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิต และจากนี้ต้องมีการชันสูตรพลิกศพ โดยสหวิชาชีพที่เป็นคนกลางให้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา

พันตำรวจเอกทวี ระบุด้วยว่าได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบตั้งแต่ช่วงแรกที่นำตัวบุ้งไปยังโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กำชับว่าให้รักษาให้ดีที่สุดและช่วยเหลือให้ดีที่สุด และภายหลังจากทราบว่าเสียชีวิต ได้มีการรายงานอีกครั้ง นายกรัฐมนตรีก็บอกว่า ต้องทำทุกอย่างตรงไปตรงมา เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีคดี 3 คดี คือ คดีละเมิดอำนาจศาล ซึ่งได้ลงโทษจบไปแล้ว อีกคดีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ถอนประกัน และยังมีอีกคดีหนึ่งที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคือฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งเรือนจำต้องทำตามคำสั่งศาล

ผู้สื่อข่าวถามถึงอาการของนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ "ตะวัน" พันตำรวจเอกทวี ระบุว่าจะเข้าไปเยี่ยมด้วยตัวเอง เพราะตอนนี้ได้รับรายงานเพียงอย่างเดียว และถ้าไม่เห็นด้วยตา ก็ไม่อยากจะพูดอะไรเพิ่มเติม

ขณะที่เฟซบุ๊กพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความต่อการเสียชีวิตบุ้ง ทะลุวัง โดยระบุว่า พรรคก้าวไกลขอแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของคุณเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง นักกิจกรรมทางการเมืองกลุ่มทะลุวัง โดยพรรคยืนยันหลักการว่าในสังคมประชาธิปไตย สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนต้องได้รับการรับรอง ไม่ควรมีใครต้องติดคุกเพียงเพราะเห็นต่างทางการเมือง ไม่ควรมีใครถูกปฏิเสธสิทธิในการได้รับประกันตัว ซึ่งเป็นสิทธิที่รัฐธรรมนูญให้การรับรอง เพียงเพราะเห็นต่างทางการเมือง และไม่ควรมีใครถูกผลักให้ต้องต่อสู้ด้วยวิธีการที่เสี่ยงเป็นอันตรายต่อชีวิต

ข้อความในเฟซบุ๊ก นี่เป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัย เพื่อหาทางออกต่อความขัดแย้งทางการเมืองในอดีตและที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคืนสิทธิประกันตัวแก่ผู้ต้องหาหรือจำเลยคดีการเมืองที่อยู่ระหว่างต่อสู้คดี การเร่งพิจารณากระบวนการนิรโทษกรรมคดีที่มีมูลเหตุทางการเมือง และฟื้นความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมสำหรับประชาชนทุกคน

คุณอาจสนใจ