เลือกตั้งและการเมือง
บอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต มีมติตั้งคณะอนุกก. ศึกษาความเห็นกฤษฎีกา-ป.ป.ช. ตีกรอบ 30 วัน
15 ก.พ. 2567
44 views
คณะกรรมการชุดใหญ่โครงการดิจิทัลวอลเล็ต มีมติตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาความเห็นของกฤษฎีกา และ ข้อเสนอแนะของป.ป.ช. ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะใช้มาตรการเงินกู้ หรือ งบปกติ ทั้งหมดต้องรอให้คณะกรรมการไปศึกษาเพื่อเสนอแนะกลับมา ภายในกรอบเวลา 30 วัน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยหลักๆ ที่ประชุมวันนี้ ยังไม่ตัดสินใจแนวทางการประกาศใช้โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่มีมติตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา และข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. โดยให้กรอบเวลาทำงาน 30 วัน ก่อนนำกลับมาเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่อีกครั้ง
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยังไม่สามารถกำหนดไทม์ไลน์ของโครงการได้ว่าจะช้าหรือเร็ว เพราะทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของคณะกรรมการชุดดังกล่าว
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า คณะกรรมการดิจิทัล ทุกคนเห็นด้วยกับรายชื่อคณะกรรมการที่ตั้งใหม่วันนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ระบุว่า เพิ่งเห็นข้อสังเกตจากกฤษฎีกาและป.ป.ช. ในรายละเอียดวันนี้ จึงต้องขอพิจารณาศึกษาในรายละเอียดก่อน ซึ่งนายเศรษฐาได้กล่าวในที่ประชุมว่า ยินดีรับฟังทุกข้อสังเกตการณ์และข้อเสนอแนะ
ขณะที่ระหว่างการประชุมที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนร่วมเสนอ ก็มีการถกเถียงกันในวงกว้าง ไม่ใช่แค่สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ธปท.และ สภาพัฒน์ ยังรวมถึงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ ที่มาให้ข้อมูลสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน โดยหลายข้อมูลเป็นข้อมูลลับที่เพิ่งถูกเปิดเผย ทำให้เกิดการนำไปศึกษากันต่อ เพื่อการพิจารณาไตร่ตรองให้ครบถ้วน เพราะเป็นนโยบายสำคัญ
ส่วนเรื่องงบประมาณ ก็ยังไม่ชัดเจน ว่าจะกลับไปใช้งบประมาณประจำปี หรือ ออก พ.ร.บ.กู้เงิน เพราะต้องรอข้อสรุปจากคณะอนุกรรมการชุดนี้เช่นกัน โดยวันนี้ในที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้ถกเถียงกันอย่างเต็มที่ กับทุกหน่วยงานที่มาให้ข้อมูล แต่ข้อมูล ป.ป.ช.เพิ่งมาถึงมือ ทำให้หลายคนมองว่าต้องไปศึกษา เพื่อไปไตร่ตรองให้ครบถ้วนก่อน ซึ่งนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าโครงการจะเดินต่อได้ โดยถ้าข้อสรุปออกมาว่าจำเป็นเร่งด่วน ก็จะมีคำตอบอธิบายกับประชาชน
ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายเศรษฐา ได้โพสต์ข้อความว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมติดตามโครงการดิจิตอลวอลเล็ต 10,000 บาท ครั้งแรกของปี ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหลักที่รัฐบาลมีจุดประสงค์ นำมากระตุ้นเศรษฐกิจและวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับประเทศไทยในอนาคต โดยรัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้วงเงินงบประมาณราว 5 แสนล้านบาท เพื่อทำโครงการนี้ให้สำเร็จ
แน่นอนว่า รัฐบาลจะดำเนินการโครงการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยจะปฏิบัติหน้าที่ และใช้อำนาจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งเปิดเผยทุกกระบวนการ อย่างรอบคอบและระมัดระวังในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชน ซึ่งที่สำคัญ รัฐบาลจะไม่ลืมรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐอย่างเคร่งครัด