'ประวิตร' ยันไม่เสียหน้า หลัง พปชร. ถูกคว่ำร่างแก้ รธน. ย้ำความสัมพันธ์ ส.ว.เหมือนเดิม

หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยืนยัน ไม่รู้สึกเสียหน้า ที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้รับความเห็นชอบในวาระที่ 1 โดยเฉพาะเสียงของสมาชิกวุฒิสภาที่ไม่สนับสนุนแม้แต่เสียงเดียว ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ขอบคุณทุกพรรคการเมืองและสมาชิกวุฒิสภา ที่ผ่านร่างแก้ไขระบบเลือกตั้ง เพียงร่างเดียว หวังว่าจะเป็นการเปิดทางสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เกิดขึ้นได้จริง

ผลการลงมติร่างรัฐธรรมนูญที่กลายเป็นเกมฉีกหน้ากันกลางรัฐสภา จากการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับพรรคพลังประชารัฐ ทั้งๆที่มีการคาดหมายแต่เดิมว่า อาจเป็นเพียงฉบับเดียวที่จะผ่านการพิจารณาจากที่ประชุมรัฐสภา แต่กลับไม่มีเสียงของ สมาชิกวุฒิสภา แม้แต่เสียงเดียวให้การสนับสนุน จึงถูกมองว่าทำให้พรรคพลังประชารัฐต้องเสียหน้าหรือไม่ แต่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ยืนยันว่า ไม่ใช่การเสียหน้า เพราะมีร่างของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอระบบเลือกตั้งเหมือนพรรคพลังประชารัฐ และไม่ทำให้มีปัญหาความสัมพันธ์กับสมาชิกวุฒิสภา

ขณะที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัหวน้าพรรคพลังประชารัฐ ผู้เสนอร่าง ก็ไม่รู้สึกเสียหน้า เพราะเห็นว่าเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกวุฒิสภา ที่จะไม่เห็นด้วยแม้ได้แสดงความพร้อมที่จะแก้ไขมาตรา 144 และ มาตรา 185 ตามที่เป็นห่วงในชั้นกรรมาธิการ แต่เมื่อ ส.ว.มีความเห็นมาเช่นนี้ ในส่วน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และส่วนตัว มีเอกสิทธิ์ในการลงมติเห็นชอบร่างปิดสวิตซ์ส.ว.ทั้ง 2 ฉบับของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ซึ่งไม่ใช่การเอาคืน และในการประชุมคณะกรรมาธิการนัดแรกวันอังคารที่ 29 มิถุนายนนี้ จะเสนอให้นำมาตราอื่น เรื่องระบบการเลือกตั้งที่พรรคพลังประชารัฐเสนอ ประกอบกับร่างของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีสองมาตราเท่านั้น และป้องกันไม่ให้เกิดความเห็นแย้งเรื่องวิธีการนับคะแนน

ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะเป็นเพียงร่างเดียวที่ผ่านความเห็นชอบ แต่อย่างน้อยการที่หนึ่งร่างของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ผ่านขั้นรับหลักการไปได้ในวาระที่ 1 และหวังว่าจะนำไปสู่ความเห็นชอบต่อไปในวาระที่ 3 ก็ถือเป็นการนับหนึ่งของการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้จริงแล้ว ถือเป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ที่อาจนำไปสู่การแก้ไขในประเด็นสำคัญอื่นๆได้

ขณะที่พรรคเพื่อไทย ผิดหวังการลงมติของสมาชิกวุฒิสภา ที่เทคะแนนให้ผ่านเพียงร่างเดียว ทั้งๆที่มีร่างอื่นที่ดีและเกิดประโยชน์กับประชาชนด้วย เช่นร่างเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพ และร่างระบบบัตรเลือกตั้งสองใบที่คล้ายคลึงกัน 3 ร่าง แต่กลับให้ผ่านร่างของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งๆที่เป็นร่างที่ไม่สมบูรณ์ จึงเป็นห่วงว่าจะเกิดปัญหาในภายหลัง และอาจไม่ผ่านในวาระที่ 3

สำหรับการลงคะแนนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ สมาชิกวุฒิสภา ในการลงมติร่างรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านในวาระที่ 1 ต้องมีเสียงเกิน 367 เสียง เกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา ซึ่งมีอยู่ 733 เสียง จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะจากการเทคะแนนของ ส.ส.เห็นชอบทั้ง 13 ฉบับ มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งทุกฉบับ แต่เงื่อนไขต้องมีเสียง ส.ว. 84 เสียง จึงถือว่าผ่านความเห็นชอบ ทำให้มีความเห็นจากหลายฝ่าย รวมถึง ไอลอว์ ที่ชี้ให้เห็นว่า หากไม่มี ส.ว.ร่วมลงมติ หรือมีเพียงสภาเดี่ยว ทั้ง 13 ร่าง ก็จะผ่านความเห็นชอบทุกร่าง

ขณะที่นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยืนยันจะเสนอให้รัฐสภาพิจารณาการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มี ส.ส.ร.และจะผลักดันให้ประชาชนเข้าชื่อ 5 หมื่นชื่อ เสนอไปยังคณะรัฐมนตรีจัดทำประชามติด้วย