เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 12 ต.ค.65 วาระแห่งชาติแก้ยาเสพติด-แม่น้ำท่าจีนทะลัก-ส่งวิญญาณเหยื่อกราดยิงสู่สวรรค์

-นายกรัฐมนตรีนำ ครม. ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ ผู้วายชนม์จากเหตุโศกนาฏกรรมสังหารหมู่ ครอบครัวสุดอาลัย กอดรูปอำลาครั้งสุดท้าย ขณะที่ชาวบ้านเนืองแน่น ร่วมส่งดวงวิญญาณไปสู่สุขคติ

-อธิบดีกรมสุขภาพจิต ระดมทีมดูแลผู้สูญเสียอย่างใกล้ชิด เผยมีผู้ต้องเยียวยาเพิ่มเป็น 260 คน คาดต้องใช้เวลา 2 สัปดาห์ ถึง 3 เดือน พร้อมเผยแพร่คลิป แม่ผู้ก่อเหตุกล่าวขอโทษผู้สูญเสีย ยังไม่สามารถไปร่วมงานได้ หากสภาพจิตใจพร้อมกว่านี้ อยากไปขอโทษทุกครอบครัว

-ฝนกระหน่ำต่อเนื่อง แม่น้ำท่าจีนทะลักท่วมถนนบรมราชชนนี ทั้งสองฝั่ง รถยนต์เล็กสัญจรไม่ได้ ขณะที่ตัวเมืองนครปฐมอ่วม น้ำท่วมหลายจุด ด้าน กทม. เตือนประชาชนนอกคันกั้นน้ำ ริมเจ้าพระยา ยกของขึ้นที่สูง หลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม  และ น้ำทะเลหนุนสูง

-ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่คดีหนุ่มวัย 23 ปี ถูกเผาร่างเสียชีวิตในโรงเรียน พบมีความเชื่อมโยงระหว่างไฟแช็คในที่เกิดเหตุ กับปั๊มน้ำมันหยอดเหรียญที่ผู้ตายเดินไปหา ครอบครัวเผยป่วยซึมเศร้า ตำรวจเร่งไขปมปริศนา ฆ่าตัวตายหรือถูกฆาตกรรม

-เพื่อนบ้านสุดผวา ชายคลั่งอาละวาด ใช้ปืนปลอมบุกทุบกระจกรถยนต์ จนเสียหาย สุดท้ายตำรวจจับได้ ศาลพิพากษาจำคุก 1 เดือน แต่ชาวบ้านยังหวาดกลัว หากพ้นโทษอยากให้ญาติรับตัวไปอยู่ที่อื่น ที่ผ่านมาก่อเหตุโวยวาย ด่าทอ คุกคาม อยู่กันอย่างหวาดวิตกมาเป็นปี จนอยากขายบ้าน ย้ายหนีไปที่อื่น


เรื่องเล่าการเมือง

-สืบเนื่องจากเหตุโศกนาฏกรรมที่หนองบัวลำภู เมื่อวานนายกรัฐมนตรี สั่งตั้งคณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้เข้มงวดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเรียกประชุมกำหนดมาตรการเร่งด่วนวันนี้

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าในการประชุม ครม. เมื่อวาน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้เน้นการปราบปราบยาเสพติดและกำหนดให้ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ เหตุการณ์ที่ จ. หนองบัวลำภู ทำให้รัฐบาลยิ่งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องเร่งบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ในการป้องกัน ปราบปราบยาเสพติดให้เข้มงวดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

จึงสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นชุดหนึ่ง โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีรองนายกฯทุกท่าน และ รัฐมนตรีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เป็นกรรมการ เพื่อขับเคลื่อนการแก้ปัญหายาเสพติด

และเวลา 09.30 น. วันนี้ นายกฯจะเป็นประธานการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในเรื่องปัญหายาเสพติด การครอบครองอาวุธปืน การบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด


-อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการปราบปรามยาเสพติดและการควบคุมอาวุธปืน ซึ่งสืบเนื่องมาจากกรณีเหตุการณ์ที่หนองบัวลำภู และบอกว่ารัฐบาลควรเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้าน ไม่ใช่ 2 แสน

นายทักษิณ กล่าวว่า กรณีเรือนักท่องเที่ยวจีนล่มที่ จ.ภูเก็ต รัฐบาลจ่ายชดเชยให้ผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านบาท แต่กลับให้ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่หนองบัวลำภูเพียงรายละ 2 แสนบาท นายทักษิณใช้คำว่า "มันน่าเกลียด" และบอกว่า ควรจะให้ครอบครัวเหยื่อรายละ 1 ล้านบาท

ส่วนเรื่องยาเสพติด อดีตนายกฯ ทักษิณ กล่าวว่า สาเหตุหนึ่งของปัญหายาเสพติดเกิดจากเรื่องการซื้อขายตำแหน่งงาน ทำให้ตำรวจวิ่งเต้นหาเงินมาซื้อขายตำแหน่ง จึงต้องไปหากินกับ บ่อน ซ่อง หวย และยาเสพติด สมัยที่ตนเองเป็นนายกฯมีการให้รางวัลนำจับเรื่อง ยาเสพติด แล้วนำมาเผาทำลาย แต่สมัยนี้ไม่เห็นว่ามีการเผาทำลายยาเสพติด จึงตั้งข้อสังเกตมีการเวียนเทียนกลับมาหรือไม่

นายทักษิณได้เล่าถึงวิธีการจัดการกับปัญหายาเสพติด และบอกว่า วันนี้ที่นายกฯจะมีการประชุมสามารถนำวิธีการของตนไปใช้ได้ หรือจะให้ตนไปช่วยก็ได้ มั่นใจทำได้ภายใน 6 เดือน และวิจารณ์การพูดของทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์



-ความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ หลังมีข่าวว่า ส.ส.หลายคน เตรียมย้ายออก ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เมื่อวานนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมาสยบ

พล.อ.ประวิตร ยืนยัน ว่า ไม่มี ไม่มีใครออกสักคน มีแต่ข่าวที่สื่อมวลชนเขียนกันไปเอง ผู้สื่อข่าวพยายามถามย้ำ ว่าพรรคพลังประชารัฐยังเหนียวแน่นใช่หรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร หันกลับมาตอบ ยืนยันว่า “เหนียวแน่นอยู่แล้ว"

แน่นอนว่า ส.ส.กลุ่มใหญ่ที่ถูกจับตา คือ กลุ่มสามมิตร ซึ่ง 2 แกนนำคนสำคัญ ประสานเสียง ยืนยันว่า กลุ่มสามมิตร ยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ

โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พูดชัดเจนว่า สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

เช่นเดียวกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ที่มองว่าเงื่อนไขการอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้อีก 2 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะไม่มีปัญหา และ สามารถไปต่อได้

นอกจากนี้ มีรายงานบรรยากาศหลังการประชุมว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้สวมกอดกับ พล.อ.ประวิตร แล้วบอกว่า "ไม่ไปไหนหรอก มีเรื่องให้ง้อได้ทุกวัน" ก็คาดกันว่าคำพูดดังกล่าว สืบเนื่องจากมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไปร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค



-มีรายงานว่าในการประชุม ครม.เมื่อวาน นายกฯ ได้แฉว่า งบประมาณที่อนุมัติให้ไปช่วยเหลือเกษตรกรยาสูบ จำนวน 50 ล้านบาท ไม่ถึงมือชาวบ้าน จึงขอให้ พล.อ.ประวิตร ไปช่วยตรวจสอบว่าเงินหายไปไหน

ทั้งนี้มีรายงานว่า ในช่วงท้ายของการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวาน นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เสนอนายกรัฐมนตรีว่า น้ำท่วมครั้งนี้มีประชาชนเดือดร้อนมาก อยากให้นายกฯ สั่งการให้คณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ ช่วยเหลือประชาชน หากขาดส่วนไหนจะได้ช่วยเขา จะได้ทำให้ประชาชนรู้สึกดี

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวตอบว่า รัฐมนตรีเขารู้หน้าที่รับผิดชอบอยู่แล้ว แต่เวลาลงพื้นที่ให้รับเรื่องมา อย่าเพิ่งรับปาก ให้มาดูงบประมาณก่อน อย่างเมื่อวันที่ตนลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ มีเกษตรกรยาสูบมาของบประมาณ 50 ล้านบาท แต่พอตนไปตรวจสอบพบว่า มีการเบิกจ่ายไปแล้ว แต่เงินตรงนั้นไม่ไปถึงชาวบ้าน จึงขอให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไปตรวจสอบว่าเงินหายไปไหน

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กำชับรัฐมนตรีให้ช่วยเปิดไลน์ดูข้อมูลที่หน่วยงานรายงานสถานการณ์น้ำของแต่ละวันเข้ามาด้วย เพื่อให้ได้รู้ถึงสถานการณ์น้ำแต่ละวัน และบอกว่าตนเองอ่านรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำอย่างละเอียดทุกวัน



-เรื่องแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยที่นอกจากคาดว่าจะมีชื่อของ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร แล้ว อีกชื่อที่มีกระแสข่าวมาคือ นายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจชื่อดัง

เมื่อวาน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่น้ำท่วม จ.อยุธยา ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จะมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ว่า ตอนนี้ไม่ต้องระบุชื่อ แต่พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกคนที่เป็นคนเก่ง มีความรู้ความสามารถ ขอให้เป็นคนเก่ง ใครก็ได้

ส่วนอีกประเด็นที่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย คือกรณีกระแสข่าวเรื่องดีลลับดึงร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า มาอยู่พรรคเพื่อไทย เมื่อคืนอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ดีลกับร้อยเอกธรรมนัส ตนไม่เกี่ยว ไม่มีหน้าที่ไปดีล แม้จะรู้จักมักคุ้นกับร้อยเอกธรรมนัสเพราะเป็นคนเหนือ เคยอยู่พรรคเพื่อไทยมาก่อน เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นน้อง แต่ทุกอย่างเป็นเรื่องของพรรค ระบบพรรค กระบวนการ กติกาของพรรค

และบอกว่า "เคยพูดไว้ว่าศิษย์เก่าพรรคไทยรักไทยมีเยอะในวงการเมือง ถ้าคนไหนออกไป ไม่เป็นปฏิปักษ์กับพรรค และอยากกลับมาก็ไม่น่าเสียหายอะไร แต่คนที่ออกไปเป็นปฏิปักษ์กับพรรคก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง"



-ภายหลังการประชุม ผบ.เหล่าทัพครั้งแรก หลังมี ผบ.เหล่าทัพ - ผบ.ตร.ชุดใหม่ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของกองทัพต่อสถานการณ์การเมือง ซึ่งมีแนวโน้มว่าหลังจบการประชุมเอเปก รัฐบาลอาจยุบสภา แล้วมีการเลือกตั้งใหม่ โดยระบุว่า กองทัพเป็นเครื่องมือของรัฐบาล และปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายของกระทรวงกลาโหมและรัฐบาล แต่ยืนยันว่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง

เมื่อถามว่าวันนี้ ผบ.เหล่าทัพ อยู่กันครบ สามารถให้ความสบายใจในปีหน้าได้หรือไม่ หากมีการเปลี่ยนขั้วการเมือง และมีการชุมนุม บทบาทของกองทัพเป็นอย่างไร และคำถามสำคัญ คือ ให้ความเชื่อมั่นได้หรือไม่จะไม่มีการปฏิวัติ

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Xm9ZHVxhdj4