เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 7 ก.ค.65 สภามีมติใช้สูตร 500-กองทัพหนูบุกแฟลตดินแดง-ล่ามือแทงหญิงชราวัย 75

-กองปราบลงพื้นที่ชะอำ ล่าคนร้ายแทงหญิงชราวัย 75 ปี ดับคาบ้าน เชื่อเป็นคนในพื้นที่ ผลชันสูตรพบ 32 แผล ชี้ ผู้ตายปกป้องไม่ให้คนร้ายเข้าบ้าน เพราะมีคนป่วยติดเตียง ด้านลูกสาว รับหลับลึกเพราะทานยาตามแพทย์สั่ง ตื่นมาตอนเที่ยงเห็นศพแม่ที่บ้าน เชื่อ คนร้ายอาจเป็นพวกเมายา หรือ คนงานที่แม่เคยจ้างมาตัดหญ้า ลั่นแค่เงินไม่กี่พันมาพรากชีวิตแม่ทำไม

-อนุทิน ฟาดสื่อปมวิจารณ์ “ปลดล็อกกัญชาเสรี” นำเสนอข่าวโดยขาดความรู้ และขาดความรับผิดชอบต่อสังคม ได้แต่สังเวชใจ ปกติเห็นแต่คนโง่แล้วอวดฉลาด แต่นี่โง่แล้วอวดโง่ คิดซะว่า เป็นเวรเป็นกรรม ทำอะไรไม่ได้ เพียงแค่แผ่เมตตา

-อาเด็ก 5 ขวบที่แขนหัก ปิดห้องเจรจา 4 ชั่วโมง กับครูประจำชั้น จบด้วยดีโรงเรียนยอมชดเชย 3 หมื่นบาท ด้านครูวอนสังคมเข้าใจ เด็กไม่ได้แขนหักงอเป็นรูปตัว L เหมือนในภาพข่าว ด้านอาเด็ก ขอโทษที่ให้ข้อมูลผิดพลาด ยันจะให้หลานกลับไปเรียนที่เดิม เพราะมั่นใจในศักยภาพโรงเรียน

-ชาวแฟลตดินแดง ผวา! กองทัพหนูบุก จนไม่กล้าเดินผ่าน ไต่สายไฟเข้าห้องกัดสิ่งของ-เสื้อผ้า ต้องระดมแก้ปัญหากันเอง ทั้งวางยาเบื่อ – ปล่อยงูเหลือม แต่ก็ยังไม่หมด จนถ่ายคลิปลงโซเชียล ด้าน ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ขอหารือการเคหะฯ แก้ปัญหา ชี้ ต้นเหตุเพราะปัญหาการจัดการขยะ

-หลานเบิกเงินสด แสนสาม มาไว้ที่บ้าน แต่เงินหายไร้ร่องรอย จนไปถามหมอดูและพระ ยันตรงกันเงินไม่หาย แต่อยู่ในบ่อน้ำ เปิดฝาดูพบแบงก์พันลอยเกลื่อน ต้องให้กู้ภัยมาช่วยงม ที่แท้เป็นฝีมือ น้าสาววัย 57 ที่ป่วยจิตเวช แอบเอาเงินมาทิ้งไว้ที่นี่

-ระเบียงทาวน์โฮมย่านแจ้งวัฒนะถล่ม ทับสาว 18 บาดเจ็บ รวมถึงรถเก๋งที่จอดอยู่ได้รับความเสียหาย เจ้าของบ้านเผย ต่อเติมมากว่า 10 ปี ไม่เคยมีปัญหา แต่ไม่มั่นใจผู้รับเหมาทำตามมาตรฐานหรือไม่ แต่พร้อมเยียวยาคนเจ็บที่เป็นเพื่อนลูกสาว

-หนุ่มขอนแก่น โอด 3 เดือน ถูกโจรขึ้นบ้าน 7 ครั้ง ขโมยแม้กระทั่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และ ไม้ช็อตยุง ทั้งที่บ้านอยู่ห่างจาก สภ.แค่ 1 กิโลเท่านั้น ตอนนี้หมดศรัทธากับตำรวจมาก เพราะเคยจับโจรได้คาหนังคาเขา ส่งโรงพักแต่ถูกปล่อยตัวให้มาเคลียร์กับตนเพื่อถอนแจ้งความ

-พลเมืองดี เข้าช่วย นักเรียนหญิงวัย 17 จะกระโดดสะพานลอยหน้า ม.บูรพา พบเอกสารป่วยเป็นโรคซึมเศร้า คุณยายเผย หลานป่วยมานาน รักษาตัวและทานยา อยู่ สาเหตุที่เครียดน่าจะมาจากแมวที่เลี้ยงไว้ติดโรคตาย 9 ตัว



เรื่องเล่าการเมือง

-ประเด็นใหญ่ทางการเมือง คือ เรื่องการพิจารณาร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง เมื่อวานที่ประชุมรัฐสภามีมติให้ใช้สูตรคำนวณหา ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยใช้สูตรหาร 500 ซึ่งเป็นไปตามที่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการสูตรนี้

โดยที่ประชุมใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมงในการอภิปรายเรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งหลักๆ มี 2 สูตร คือ

สูตรหาร 100 กับสูตรหาร 500

ถ้าหาร 100 หมายถึงเอาคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ของทุกพรรครวมกันหารด้วย 100 ได้เป็นคะแนนต่อ ส.ส. 1 คน จากนั้นเอาไปหารคะแนนที่พรรคได้ ก็จะได้เป็นจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ของพรรคนั้น อันนี้เป็นสูตรตามร่างของคณะกรรมาธิการเสียงข้างมาก

และสูตรหาร 500 ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วจะได้ออกมาเป็น "ส.ส.พึงมี" ก่อน จากนั้นต้องไปดูว่าพรรคนั้นได้ ส.ส.เขตแล้วกี่คน ลบกันก็จะได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นสูตรของนายแพทย์ระวี มาศฉมาดล ส.ส.พรรคพลังธรรมใหม่ และกรรมาธิการเสียงข้างน้อย

แต่สุดท้ายที่ประชุมมีมติด้วยเสียงข้างมากไม่เห็นด้วยกับสูตรหาร 100 และเห็นด้วยกับสูตรหาร 500 ของนายแพทย์ระวี

ก่อนที่จะมีการลงมติ พรรคเพื่อไทยพยายามท้วงติงว่า สูตรหาร 500 เป็นข้อเสนอที่ขัดกับหลักการที่ที่ประชุมรับไว้ในวาระที่ 1 โดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า จะเป็นการออกกฎหมายที่ขัดหลักการ และขัดรัฐธรรมนูญ สมัยก่อนมีการกล่าวหาว่าเป็นเผด็จการรัฐสภา แต่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่ใช่เผด็จการรัฐสภา แต่เป็นสภาเผด็จการ

ขณะที่ พลอากาศตรีเฉลิมชัย เครืองาม ส.ว. ซึ่งเป็นกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ยืนยันว่าไม่ผิดหลักการเพราะไม่มีร่างของพรรคใดที่ยืนยันชัดเจนว่าจะใช้สูตร 100 หรือ 500 ส่วนที่กังวลว่าจะขัดรัฐธรรมนูญนั้น สามารถให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้

ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นกรรมาธิการเสียงข้างมาก ได้ยืนยันในสูตรหาร 100 โดยบอกว่าหากเป็นสูตร 500 จะขัดกับมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญที่แก้ไขใหม่ และไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชนผู้ใช้สิทธิ

ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ระบุว่า เดิมพรรคก้าวไกลไม่ได้เห็นด้วยกับสูตรหาร 100 แต่ในเมื่อมีการแก้รัฐธรรมนูญไปแล้วพรรคก็ต้องยอมรับ และพยายามคิดสูตรที่จะดีที่สุด ซึ่งมีรายละเอียดเพิ่มในการหาร 100 แต่พรรคการเมืองที่เคยสนับสนุนให้แก้รัฐธรรมนูญ วันนี้พอคะแนนตกกลับจะย้อนไปเอาสูตรหาร 500

และแสดงความกังวลที่สุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ตัดสินว่าจะใช้สูตรไหน รวมทั้งถ้ากฎหมายลูกเสร็จไม่ทันสภาครบวาระ 4 ปี พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะออก พ.ร.ก. มาให้ใช้แทน

ทั้งนี้มีการวิเคราะห์กันว่า สูตรหารด้วย 500 นี้ จะส่งผลกระทบกับพรรคเพื่อไทยโดยตรง อาจจะทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเลยเหมือนกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา

และนอกจากสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแล้ว อีกประเด็นสำคัญในการพิจารณาเมื่อวาน คือเรื่องหมายเลขผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ใช้ต่างเบอร์กัน ไม่ใช่ระบบเบอร์เดียวทั่วประเทศ


-ในการประชุมรัฐสภาเมื่อวาน นอกจากเนื้อหาที่มีความเข้มข้นแล้ว บรรยากาศของที่ประชุมก็เข้มข้นด้วย โดยเฉพาะช่วงที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภาทำหน้าที่ประธานที่ประชุม

โดยช่วงที่นายพรเพชร ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม มักจะถูกสมาชิกทั้ง ส.ส.และ ส.ว. ประท้วงจนเกิดความวุ่นวายขั้นเสนอเปลี่ยนประธานที่ประชุม

หลังจากโดยประท้วงหนักถึงขั้นให้เปลี่ยนประธานที่ประชุม นายพรเพชร ก็ได้กล่าวว่า แม้ท่านจะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ยึดมั่นในสถาบันนิติบัญญัติ และแม้จะโดนด้อยค่า ก็ให้อภัย

อย่างไรก็ตาม ต่อมานายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ ที่เสนอให้เปลี่ยนประธานที่ประชุม ได้ขอถอนคำพูด ก่อนที่ต่อมานายชวน หลีกภัย จะได้กล่าวเตือนการใช้ถ้อยคำของสมาชิก และต้องให้เกียรติผู้ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม



-นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงกรณีที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตั้งคำถามถึงผลงานใน1เดือนที่ผ่านมา ว่ามีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง เมื่อเทียบการทำงานของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

โดยนายชัชชาติ ยืนยันว่างานของผู้ว่าฯ กับนายกรัฐมนตรีนั้น แตกต่างกัน เพราะงานของผู้ว่าฯ เป็นงานระดับท้องถิ่น ขณะที่นายกรัฐมนตรีทำงานระดับประเทศ มีภาระมากมาย และรัฐบาลเองก็มีผลงานเยอะอยู่แล้ว

ส่วนการที่นายสุชาติพูดพาดพิงนั้น นายชัชชาติบอกว่า ส่วนเคารพความเห็น และขอฝากคนที่สนับสนุนอย่าไปต่อว่า

ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น หลังเกิดกระแสดราม่าก็ ได้โพสต์ชี้แจง ยืนยันว่า ตนเองเคารพนายชัชชาติ ในฐานะรุ่นพี่ทางการเมือง ไม่เคยเกลียด ไม่เคยโกรธ และไม่มีอคติส่วนตัว เจอกันพร้อมยกมือไหว้อย่างสง่าผ่าเผย

ส่วนสิ่งที่พูดออกไปนั้น ยืนยันว่าได้กลั่นกรองมาดีแล้ว พูดตามข้อเท็จจริงทุกอย่าง ย้ำว่าส่วนตัวชื่นชมนายชัชชาติ และยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ ไม่แบ่งพรรค แบ่งฝ่าย



-อดีต ส.ส.เทพไท เสนพงศ์ และน้องชาย ถูกนำตัวเข้าเรือนจำทันที หลังศาลฎีกามีคำสั่งให้จำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.

ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อวาน มีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีทุจริตการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557 โดยมีจำเลย คือ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และนายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งศาลมีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ คือ จำคุกจำเลยทั้งสองคน เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา พร้อมตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี

หลังมีคำพิพากษา นายเทพไทและนายมาโนช ได้ถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชในทันที

สำหรับคดีนี้ มีนายพิชัย บุญเกียรติ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช น้องชายนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/B5TIj5jzEwY