สรุปข่าว
เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 17 มิ.ย.65 จับตาชัชชาติพบบิ๊กตู่-กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม-อัจฉริยะไม่ให้ราคา ส.ส.เต้
โดย thichaphat_d
17 มิ.ย. 2565
50 views
-อนุทิน เซ็นลงนามประกาศกระทรวงสาธารณสุขให้กัญชา เป็นสมุนไพรควบคุม ห้ามใช้-ห้ามขาย ใน 3 กลุ่ม เยาวชน-หญิงตั้งครรภ์-ให้นมบุตร / วิษณุ บอกเป็นเรื่องดีโรงเรียนออกกฎคุมกัญชา-กัญชง
-สลากดิจิทัลพ่นพิษ ทำผู้ค้าโอด ขายไม่ออก หวยเหลือเต็มแผง ตัดใจขายต่ำกว่าทุน บางรายโบกมือราเลิกขาย แบกไม่ไหว ส่วนแอปฯ เป๋าตังล่มหลังหวยออกร่วมชั่วโมง คาดคนแห่เข้าไปเช็คผลรางวัลสลากดิจิทัลงวดแรก
-แซนรับทราบข้อหาหมิ่นประมาทหนิง ปณิตา เตรียมฟ้องกลับแจ้งความเท็จ เพราะไม่เคยเอ่ยแม้แต่ครั้งเดียว แนะควรเลือกทนายที่รอบคอบกว่านี้ ให้จับตาหลัง 23 มิ.ย. มีคนเข้าข่ายถูกฟ้องกลับอีก 3-4 คน คดีแตงโม ฝากถึงลุง ที่เป็นหัวหน้าชมรม ทำไมจิตใจคับแคบ ท้ามีหลักฐานให้รีบเปิดมา
-อัจฉริยะ ไม่ให้ราคามงคลกิตติ์ หลังมีหนังสือปลดที่ปรึกษาพรรคไทยศรีวิไลย์ เปรียบเป็นแค่กระดาษเช็ดก้น ส่วนคดีแตงโม ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณแม่เท่านั้น มั่นใจหลักฐานที่ยื่นไปชนะคดีแน่นอน ออกโรงเตือนอัยการดาว อย่าล้ำเส้น พูดชี้นำสังคม ถ้าไม่หยุดจันทร์หน้าจะไปร้องอัยการสูงสุดให้ตั้งกรรมการสอบ
-อัยการดาว ไม่ซีเรียส ถูกอัจฉริยะติง ชี้ออกมาพูดให้ความรู้ประชาชนข้อกฎหมาย ไม่ได้ปิดบังอะไร สัมภาษณ์สื่อทุกครั้งขออนุญาตตามระเบียบถูกต้อง ย้ำทุกคนมีสิทธิ์มาร้องเรียน เราเป็นข้าราชการต้องปฏิบัติตามหน้าที่
-ทนายเดชา เดินหน้าแจง กรรมาธิการ ป.ป.ช. คิกออฟถอดถอน มงคลกิตติ์ ออกจาก ส.ส. พร้อมส่งคลิปเสียงชี้เป็นมาเฟีย ส่วนแก๊งเต้ – อัจฉริยะ แพแตก เป็นไปตามคาด หักเหลี่ยมเฉือนคม เปรียบเป็นคณะตลก กังวลสุดท้ายแม่แตงโม เดินเกมผิดถูกฟ้องกลับ ด้านมงคลกิตติ์ โพสต์ถอนตัว 100% เปิดทางอัจฉริยะ ดูแลแม่แตงโม
-พ่อน้องตาต้าเปิดใจ ลูกชายเคยเล่าโดนแฟนใหม่แม่ทำร้าย เชื่ออดีตภรรยารู้เห็น เพื่อนบ้านแฉ ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้บ่อย ตามเนื้อตัวมีบาดแผลถูกทำร้าย รอง ผบช.น. เผยแม่เด็กรู้ว่าลูกโดนทำร้ายแต่ไม่กล้าพูด
-รวบหนุ่มลิทัวเนีย ฆ่าแฟนสาวสองหนีจากสุรินทร์ จนมุมที่พัทยา แกะรอยพบโอนเงินผู้ตายเข้าบัญชีตัวเองหลังก่อเหตุ แต่ยังให้การภาคเสธ รับแค่มีปากเสียงเท่านั้น ด้านแม่สาวสองไม่ให้อภัย เชื่อปมหึงหวง ชนวนเหตุสังหาร
เรื่องเล่าการเมือง
-ไฮไลท์การเมือง ที่หลายคนจับตา วันนี้จะมีการประชุมศบค.ใหญ่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะประชุมร่วมกับ นายกรัฐมนตรี หลังรับตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.
ทั้งนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยอมรับว่าตื่นเต้น ที่จะเข้าทำเนียบรัฐบาล ไปประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ในฐานะผู้ว่าฯกทม.เพราะไม่ได้เข้ามาแล้ว 7-8 ปี
ซึ่งจะได้เจอกับนายกรัฐมนตรี แต่บอกว่า ไม่ได้เจอกันครั้งแรก เพราะเคยเจอในงานพระราชพิธีมาก่อนแล้วแบบห่าง ๆ และหากท่านเรียกก็จะรายงานเพื่อดูว่าจะมีข้อสั่งการอย่างไร
นอกจากประเด็นสถานการณ์โควิด-19 แล้ว ยังมีประเด็นอื่นที่จะพูดคุยกับนายกฯด้วยหรือไม่ นายชัชชาติ ระบุว่า คงไม่มีประเด็นอะไรเพิ่มเติม แต่หากท่านนายกฯ จะแจ้งอะไร ก็พยายามตอบตามที่ถาม เพราะ “เราเป็นผู้น้อย เป็นแค่ผู้ว่าฯกทม. ส่วนท่านเป็นหัวหน้าของประเทศ” ไปฟังเสียงบางช่วง
-ขณะที่นายกรัฐมนตรี ต้องบอกว่าช่วงนี้ลุยทำงานหนัก ก่อนหน้านี้ลงพื้นที่จังหวัดสกลนคร ส่วนเมื่อวานก็ไปเปิดงานถึง 2 ที่ และกลับไปประชุมต่อที่ทำเนียบรัฐบาล จนช่วงหนึ่งระหว่างการปาฐกถา ท่านนายกฯ บอกว่า “ถ้าเปรียบเป็นคอมพิวเตอร์ ป่านนี้คงแฮงค์ไปแล้ว”
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้ปาฐกถาพิเศษในงาน Thailand 5G Summit 2022 ช่วงหนึ่ง ก็บอกว่า ตนไม่สามารถทำให้ใครรักได้ทุกคน แต่พยายามทำทุกอย่างเต็มที่ เพราะเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ยังพูดแซวผู้สื่อข่าว ว่า ทุกวันนี้จ้องหน้าตนทุกเช้า เขาจะรู้หมดว่าตนมีอารมณ์ และความรู้สึกอย่างไร ไวยิ่งกว่า 5G ซึ่งตนพยายามทำให้ดีที่สุด ก่อนท่านนายกฯ จะบอกว่า "ถ้าตนเปรียบเป็นคอมพิวเตอร์ ป่านนี้ก็แฮงค์ไปแล้ว เพราะผมรับปัญหาไว้เยอะเลย" และบางช่วงยอมรับว่า “เบลอ พูดมากไปจนลืม”
-ประเด็นต่อเนื่อง หลังจากฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรีอีก 10 คน เมื่อวานท่านนายกฯยังไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ แต่มีความเห็นจากรัฐมนตรีท่านอื่น ที่แสดงท่าทีว่าไม่ได้กังวลกับญัตติอภิปรายของฝ่ายค้าน
คนแรก คือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หนึ่งในพี่น้อง 3 ป. ระบุว่าที่ผ่านมาก็ทำงานไปตามกรอบกฎหมาย จึงไม่ต้องคิดมาก และข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านก็จะคล้าย ๆ กับการอภิปรายทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ก็จะเตรียมข้อมูลทุกเรื่องไว้ชี้แจง
เช่นเดียวกับรัฐมนตรีดีอีเอส นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ที่บอกว่าไม่ตกใจที่จะถูกอภิปราย แถมพูดถึงญัตติของฝ่ายค้านเขียนด้วยข้อความที่ดุเดือด ว่า เป็น สีสัน เพื่อโหมโรง แต่ต้องรอดูเนื้อหา เพราะหนังบางเรื่อง ชื่ออาจจะดูเป็นหนังบู๊ แต่ออกมาแล้วอาจจะเป็นหนังเศร้า
-หลังจากฝ่ายค้านเปิดรายชื่อรัฐมนตรีที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจออกมา ก็มีคำถามตามมาว่า ทำไมไม่มีชื่อรัฐมนตรีบางคน โดยเฉพาะนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกฯและรัฐมนตรีพลังงาน
ที่พรรคเพื่อไทยเมื่อวาน ตัวเเทนเเท็กซี่ วินจักรยานยนต์ ไรเดอร์ส่งอาหารเเละเเมสเซนเจอร์ ได้มายื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องปัญหาราคาพลังงาน คือ น้ำมันและค่าแก๊ส ที่สูงขึ้นจนกระทบรายได้ เเละตั้งคำถามว่าเหตุใดนายสุพัฒน์พงษ์ ไม่ถูกอภิปรายด้วย
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มารับหนังสือร้องเรียนและ ชี้แจงว่า เเม้ไม่มีชื่อรัฐมนตรีพลังงานในญัตติอภิปราย แต่จะถูกอภิปรายรวมอยู่ในญัตติเดียวกับนายกรัฐมนตรี เพราะนายกฯ คือ ประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานเเห่งชาติ ต้องเด็ดหัวในครั้งเดียว ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าพรรคไม่ได้ละเลยรัฐมนตรีพลังงาน
ขณะที่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เตือนรัฐมนตรีที่ไม่มีชื่อในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่าอย่าเพิ่งตีปีก เพราะการอภิปรายของฝ่ายค้านในครั้งนี้ จะเริ่มต้นที่นายกรัฐมนตรีแล้วโยงไปที่รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ฉะนั้นแม้จะไม่มีชื่อในญัตติก็ต้องเตรียมตัวไว้ให้ดี
-ควันหลงจากการที่สภามีมติรับหลักการร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมของพรรคก้าวไกล ที่มี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลถึง 51 คน โหวตสนับสนุน รวมทั้ง ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยเกือบทั้งพรรค แต่มีประเด็นที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรค
เมื่อวาน ร้อยเอกธรรมนัส แถลงชี้แจง กรณีที่โพสต์เฟซบุ๊กว่าได้ร่วมโหวตสนับสนุน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม แต่ในเอกสารบันทึกการลงคะแนนของ ส.ส.ของสภาผู้แทนฯ ไม่มีข้อมูลว่าร้อยเอกธรรมนัส ได้โหวตด้วย ขณะที่ ส.ส. 13 คน ของพรรคเศรษฐกิจไทย ลงมติเห็นด้วย / และอีก 2 คน ลงมติไม่เห็นด้วย
โดยร้อยเอกธรรมนัส ชี้แจงว่า ในวันพิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ตนมาประชุมตั้งแต่เช้า และได้หารือเรื่องการลงมติร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม และ ร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับ ส.ส.ของพรรค และมีแนวทางว่าพรรคจะโหวตหนุนทั้ง 4 ร่าง
แต่ช่วงบ่ายตนมีภารกิจข้างนอก จึงออกไปและกลับมาโหวตร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 4 ฉบับไม่ทัน แต่มาทันช่วงที่โหวตว่าจะสนับสนุนให้ใช้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับไหนเป็นหลัก ซึ่งตนก็ได้โหวตสนับสนุนร่างของพรรคก้าวไกล
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/9LMafal0wYo
แท็กที่เกี่ยวข้อง เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง ,เรื่องเล่าการเมือง ,ข่าวการเมือง ,สรุปข่าว
