สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 10 มี.ค.65 ขอช่วยกันประหยัดพลังงาน-แห่ขายทองแน่นเยาวราช-คลิปแตงโมตกเรือ

โดย thichaphat_d

10 มี.ค. 2565

291 views

-กล้องวงจรปิดเผยภาพขณะที่แตงโม พลัดตกเรือ ในภาพแสดงช่วงเวลา 22 นาฬิกา 33 นาที 48 วินาที เร็วกว่าเวลาจริง 3 นาที ตามคลิปภาพ เรือไม่จอดเมื่อแตงโมตกในทันที แต่ขับไปข้างหน้า แล้วจึงวนกลับมา ในภาพสังเกตุเห็นเรือวนอยู่ 18 รอบ สอดคล้อง GPS ที่บันทึกไว้

อีกคลิป เห็นเรือขนส่งสินค้า หรือเรือขนทราย ขับสวนเรือสปีดโบ๊ท สอดคล้องกับผลชันสูตรศพ พบทรายในปอด ขณะที่รายงานข่าว ผลการสอบสวน ยังยืนยัน แตงโมปัสสวะท้ายเรือจริง ส่วนคนบนเรือไม่อยู่ขณะเกิดเหตุเพราะกลัวเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์

-แม่แตงโม เครียดเดินหนีสื่อวุ่น ขู่โดดบันไดหนี สุดท้ายความดันขึ้น นั่งดมยาหน้าห้องสอบสวน ลั่นไม่แคร์ ทนายถูกแฉวีรกรรมฉาว ย้ำทักคนมีอดีต ยกพ่อแตงโม ก็เคยล้มละลายทำไมไม่ไปขุด ยันยังให้อภัยโรเบิร์ต แม้มีข่าวยอมรับขับเรือกระชาก จนเป็นเหตุแตงโมร่วงลงจากเรือ ย้ำให้อภัยคนละเรื่องกันกับคดี ด้านปอ - โรเบิร์ต โผล่เข้าวัด นั่งสมาธิ อุทิศส่วนกุศลให้แตงโม ที่วัดพระปฐมเจดีย์

-ทนายกฤษณะ เผยอาสาเป็นทนายให้แม่แตงโมเอง ไม่ได้ถูกตำรวจส่งให้มาทำคดี ลั่นทำทุกอย่างที่ให้เกิดประโยชน์กับแตงโมให้มากที่สุด รับเคยต้องคดีฉ้อโกง ร่ำไห้ขอโอกาส เตรียมเดินหน้าหาเงินใช้เจ้าหนี้ทุกคน แต่เป็นการผ่อนชำระ

-ลูกสาวโวย พ่อรักษาโควิดถูกส่งไปโรงพยาบาลดังเมืองปทุม แล้วอาการทรุด พอไปหากลับไม่พบพ่อ เจอคนอื่นอยู่แทน เชื่อพ่อเสียชีวิตไปแล้ว แต่ถูกส่งศพผิดให้อีกครอบครัวและถูกฌาปนกิจร่างไปแล้ว เตรียมปรึกษาทนายเอาผิดโรงพยาบาลเยียวยาการสลับตัว

รพ.แถลงยอมรับผู้ป่วยทั้ง 2 มีอาการใกล้เคียงกันและย้ายในเวลาใกล้เคียงกัน คาดอาจมีการสลับชื่อผู้ป่วย แต่ยืนยันทั้ง 2 รายยังได้รับการรักษาตามอาการของแต่ละคน ระหว่างนั้นหอผู้ป่วย

-เร่งล่าตัวตาเลิศ ชายวัย 60 หึงโหด ยิงอดีตภรรยา และแฟนใหม่ ดับ 2 ศพ คาบ้านพัก พยานเผยนาทีสลด มือยิงพยายามขอคืนดี แต่ฝ่ายหญิงปัดไร้เยื้อใย ทำบันดาลโทสะ รัวกระสุน ตำรวจแกะรอยจากวงจรปิด พร้อมประสานลูกชายเกลี่ยกล่อมพ่อให้มอบตัว

-เยาวราชแทบแตก คนแห่ต่อคิวยาวเหยียดขายทอง หลังสงครามรัสเซีย – ยูเครน ทำราคาทองคำ ปรับทีเดียว 900 บาท พุ่งแตะบาทละ 32,000 บาท ก่อนราคาผันผวนขึ้นลงถึง 14 รอบ ปิดตลาดที่ปรับขึ้น 300 บาท ทองแท่งขายออกบาทละ 31,400 บาท

-ราคามะนาว พุ่งไม่หยุด ขายปลีกทะลุ 7 บาท ที่ตลาดสดสตูลเผยลูกใหญ่ โลละ 120 บาท แพงสุดในรอบ 3 ปี แถมยอดขายลดเพราะคนหันไปใช้ มะขามเปียก ชี้ต้นเหตุแพง เพราะภัยแล้ง ทำผลผลิตมีน้อย แม่ค้าส้มตำ จ่อปรับราคาขาย เพราะแบกรับต้นทุนต่อไม่ไหว

-กำหนดเป้า 1 กรกฎาคม โควิดเป็นโรคประจำถิ่น รัฐมนตรีสาธารณสุข ชี้ต้องสร้างความมั่นใจให้ประชาชน ต่อให้ติดเชื้อ แต่เราติดอาวุธวัคซีน สวมหน้ากาก ก็จะไม่อันตราย ชี้ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ก็จะเปิดได้

เรื่องเล่าการเมือง

-เป็นปัญหาใหญ่ที่กระทบในหลายส่วนหลังราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรี ชี้ว่าเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นทั่วโลก และรัฐบาลเร่งหามาตรการให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด ขณะที่ช่วงหนึ่งถึงกับตัดพ้อ หลังถูกนำคำพูดไปบิดเบือน

ทั้งนี้ในการแถลงของ นายกรัฐมนตรี หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ยังพูดถึงราคาน้ำมันดีเซล ว่าจะตรึงราคาไว้ที่ไม่เกินลิตรละ 30 บาท จนกว่าจะตรึงไม่ได้ ซึ่งหากราคาสูงขึ้นอีกก็ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เนื่องจากในหลายประเทศก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน

พร้อมยอมรับว่า ขณะนี้งบประมาณที่มีอยู่จำกัด เพราะมีการนำไปใช้ในการแก้ไขสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 แต่ยืนยันว่า รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ในทุกมิติ และจะทำให้ดีที่สุด

ด้านนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาพูดถึงราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นว่า วันนี้ รัฐบาลต้องกล้ายอมรับความจริงกับประชาชน เพราะหากตรึงราคาจนเงินหมดและลอยตัวราคาน้ำมัน ก็จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ

จึงเสนอทางออก เปลี่ยนจากการอุ้มราคาน้ำมันแบบเหมารวมทั้งประเทศ มาเป็นการอุดหนุนค่าครองชีพโดยตรง เพื่อช่วยทั้งผู้ใช้เบนซินและดีเซล มุ่งเป้าคนรายได้น้อย และย้ำว่าการแก้ปัญหา คงไม่ใช่แค่การบอกให้ประชาชนประหยัดด้วยตัวเอง เพราะหากเป็นเช่นนั้น “ก็ไม่รู้ว่าจะมีรัฐบาลไว้ทำไม”

-ควันหลง งานเลี้ยงสังสรรค์ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับพรรคร่วมรัฐบาล มีการออกมาย้ำจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีการพูดคุยเรื่องการยุบสภา และทุกพรรคพร้อมประคองรัฐบาลในการเดินหน้าทำงาน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พูดถึงการร่วมรับประทานอาหารค่ำร่วมกับนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคการเมือง พรรคร่วมรัฐบาลที่ผ่านมา โดยยืนยัน ไม่มีการพูดถึงการยุบสภา และมองว่าเป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งไม่มีใครสามารถตอบได้ล่วงหน้า

พร้อมย้ำว่า พรรคร่วมรัฐบาล จะเดินหน้าทำงานร่วมกันให้ดีที่สุด เพื่อประคองรัฐบาล ให้มีเสถียรภาพในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน

ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พูดถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ประกาศในวงงานเลี้ยงสังสรรค์พรรคร่วมรัฐบาล ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้ 150 ที่นั่ง ว่า “ไม่ใช่ความฝันหรือและเกินความเป็นจริง เพราะประเมินจาก ส.ส.พรรค ที่ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง”

ส่วนปัญหาความขัดเเย้งของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย ที่จะไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีนั้น นายชัยวุฒิ เชื่อว่า พลเอก ประวิตร จะเป็นกาวใจจัดการปัญหาต่างๆได้

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของ ร.อ.ธรรมนัส ล่าสุดได้ปล่อยคลิปเปิดตัวพรรคเศรษฐกิจไทยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในช่วงการลงพื้นที่คลองเตยก่อนหน้านี้ โดยสะท้อนว่านี่คือ สังคมคนกรุงเทพฯ ที่ยังลำบาก รอความช่วยเหลือจากภาครัฐ และตอกย้ำปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ยังมีอยู่มาก ซึ่งเป็นเป้าหมายของพรรค ที่จะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่มั่นคง เพราะคนเหล่านี้คือรากฐานของประเทศไทย

-กรณี ของ นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจาก ส.ส.เนื่องจากขาดคุณสมบัติ ล่าสุด กกต. มีมติดำเนินคดีอาญาเพิ่มเติมด้วย ตามมาตรา 151 ของกฎหมายเลือกตั้ง กรณีรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติ แต่ยังฝ่าฝืนมาสมัครรับเลือกตั้ง เป็น ส.ส. หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2564 ว่าขาดคุณสมบัติ เนื่องจากเคยถูกจำคุกในคดีฉ้อโกงเมื่อ 26 ปีก่อน

ซึ่งความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง นั้นมีโทษ จำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ ถึง 2 แสนบาท และตัดสิทธิเลือกตั้ง 20 ปีกระบวนการหลังจากนี้ จะส่งเรื่องให้ สำนักงาน กกต. ประจำกรุงเทพมหานคร ไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนตามกระบวนการต่อไป

สำหรับคดี นี้นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้มีการยื่นร้องขอให้เอาผิดนายอุตตม สาวนายน ในฐานะหัวพรรคพลังประชารัฐ ในขณะนั้น เพราะเป็นผู้ลงนามรับรอง การรับสมัครของนายสิระ ซึ่งเรื่องนี้ยังอยู่ในชั้นการตรวจสอบของ สำนักงาน กกต.

ด้านนายสิระ เจนจาคะ ยืนยันว่าไม่หนักใจพร้อมต่อสู้คดีไปตามกระบวนการ โดยกล่าวว่าหากตนเองมีความผิด หัวหน้าพรรคที่ลงนามรับรองก็จะต้องมีความผิด ด้วย

-ความคืบหน้าการพิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวานนี้กรรมาธิการพิจารณาเนื้อหาเป็นวันแรกได้ข้อสรุปแล้ว 3 มาตรา

การประชุม กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวานนี้ เป็นการหารือในเนื้อหานัดแรก

ซึ่งนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ เปิดเผยว่าที่ประชุมได้พิจารณาไปถึงมาตราที่3 มีการปรับแก้ในส่วนของคำนิยาม โดยเพิ่มคำนิยาม ของคำว่า ส.ส.เลือกตั้งแบบแบ่งเขต และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ให้มีความชัดเจน

นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขมาตรา 3 ให้สอดคล้องกับคำนิยาม โดยกำหนดให้การเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นั้น ประชาชนสามารถเลือกได้เพียงพรรคเดียว ใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง หลังจากในร่างกฎหมายที่คณะรัฐมนตรีเสนอ ไม่ได้ระบุข้อความดังกล่าวไว้อาจทำให้เกิดความสับสน

ส่วนประเด็นการคำนวณจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และข้อถกเถียงเรื่องเบอร์หาเสียง ว่าจะใช้ พรรคเดียวเบอร์เดียว หรือ พรรคเดียวหลายเบอร์นั้น คาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีการพิจารณา

ด้าน นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมาธิการ กล่าวว่า การพิจารณาร่างกฎหมายเลือกตั้งครั้งนี้ มีประเด็นเป็นที่ถกเถียงและเห็นต่างกันได้ แต่ทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าจะสามารถควบคุมการประชุมได้ เพราะทุกฝ่ายมีวุฒิภาวะ และเชื่อว่าร่างกฎหมายที่พิจารณาจะได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภา อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามการประชุมกรรมาธิการ เมื่อวานนี้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมด้วยโดยมีการแจ้งลาป่วย หลังจากไม่ได้รับเลือกให้เป็นประธานกรรมาธิการ นอกจากนี้นายไพบูลย์ยังขอถอนตัว จากการถูกเสนอชื่อให้เป็นรองประธานกรรมาธิการด้วย



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/YsbCSN12fTw

คุณอาจสนใจ

Related News