เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 1 ก.พ.65 วิเคราะห์ พปชร.แพ้เลือกตั้งซ่อม-กดยืนยันสิทธิคนละครึ่งเฟส4-เริ่มฉีดไฟเซอร์เด็ก

-วุ่นกลางงานศพ เสี่ยเกาลัดเมืองกาญจน์ ตกรถตาย ญาติโวยลั่นวัด ด่าสาวคนสนิทเป็นต้นเหตุทำเสี่ยตาย หลังกล้องหน้ารถเผยจงใจทิ้งเสี่ย ไม่ยอมช่วยจนเสียชีวิต ขณะที่ครอบครัว แคลงใจจัดฉากฆาตรกรรมหรือไม่ เตรียมแจ้งความเอาผิดสาวคนสนิทแล้ว

-เปิดหลักฐานใหม่ เสี่ยเมืองจันท์ มือยิงฆ่า 4 ศพ วงจรปิดจับภาพ บุกยิงศพที่ 3 แค้นยืมเงินไม่จ่าย ทำให้แม่ต้องมารับผิดชอบแทน ขณะที่ตำรวจกว่า 50 นาย คุมตัวทำแผน คุ้มกันเข้มหวั่นถูกประชาทัณฑ์ ผู้ต้องหาลั่นคุมตัวเองไม่อยู่ ทั้งหมดสมควรตาย อ้างถูกหยามจนไม่มีที่ยืน

-พ่อค้าลูกชิ้นร้องทนาย ถูกตำรวจ 6 นายรุมทำร้ายจนแขนหัก หลังถูกเรียกตรวจและจับตรวจฉี่ เจ้าตัวอ้าง ให้ความร่วมมือไม่ได้หลบหนี หรือต่อสู้แต่กลับถูกแจ้งข้อหาขัดคำสั่ง และต่อสู้เจ้าพนักงาน ขณะที่ตำรวจแจง สงสัยโจรกรรมรถ พอตรวจค้นพบป้ายทะเบียนชำรุด พร้อมเปิดคลิปโต้ พยายามบิดรถหนี และขัดขืนจนทำให้แขนหัก ยันไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ และไม่ได้ทำร้ายร่างกาย

-กองทัพเรือ แถลงแล้ว ไม่พบคราบน้ำมันที่ชายหาด ชี้อาจมีเล็ดลอดบ้าง แต่ส่วนน้อย ส่งกำลังเฝ้าระวังเต็มที่ ส่วนเกาะเสม็ด มีเพียงเขม่าน้ำมันเป็นฟิลม์บางๆ และฝุ่นเขม่าสีดำลอยมาติดชายหาดอ่าวพร้าว ขณะที่ห้องพักถูกยกเลิกแล้ว 70 % ส่วนที่หาดแม่รำพึง สุดเงียบเหงา หลังเจอคราบน้ำมันดิบ แม่ค้าริมหาด ตัดพ้อไม่มีใครเหลียวแล หวังพึ่งปาฏิหาริย์ ยกปลัดขิกหลวงพ่อรวย ช่วยคลายความเดือดร้อน

-สาธารณสุข คิกออฟฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กอายุ 5-11 ปี ประเดิมฉีดไฟเซอร์ ที่แรกสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ ด้าน สธ. เห็นชอบฉีดซิโนแวคเด็ก 3-17 ปี ยันปลอดภัย ฉีดได้ทันทีหลังขึ้นทะเบียน อย.

-เปิดแล้วแอปเป๋าตัง กดยืนยันรับสิทธิ คนละครึ่ง เฟส 4 เริ่มใช้จ่ายได้ทันที ส่วนคนใหม่ 1 ล้านสิทธิ์ รอสมัครเข้าโครงการ 10 กุมภาพันธ์ ใช้จ่ายได้วันที่ 17 ย้ำทั้ง 2 กลุ่มเก่าและใหม่ ต้องใช้จ่ายครั้งแรก ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ไม่เช่นนั้น จะถูกตัดสิทธิทันที

-กบง.เคาะปรับลดสูตรผสมไบโอดีเซลจาก B7 เหลือเป็น B5 เพื่อพยุงราคาน้ำมันดีเซล ไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร เริ่ม 5 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม นี้ แต่ต้องรอ คณะกรรมการนโยบายน้ำมันปาล์มแห่งชาติ เห็นชอบก่อน จึงจะสามารถประกาศได้ ขณะที่ชาวสวนปาล์มโวยไม่หารือก่อน คาดกดปาล์มราคาตก นัดถกเตรียมกำหนดท่าทีเคลื่อนไหว

-สุดมักง่าย กลับรถกลางแยกไฟแดง ชนหญิงวัย 49 ปี ขณะเดินข้ามทางม้าลายตัวติดใต้ท้องรถ เผยคนขับเป็นชายชาวต่างชาติยกมือไหว้ขอโทษจ่ายค่ายา 3 พันบาท อ้างมองไม่เห็น “รีบพาแฟนไปโรงพยาบาล”


เรื่องเล่าการเมือง

-เรื่องที่มีการพูดถึงมากขึ้นหลังการเลือกตั้งซ่อมที่หลักสี่ คือ เรื่องผู้ว่าฯกทม. ว่าสรุปแล้วจะมีการเลือกตั้งในปีนี้หรือไม่ เมื่อวานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันเหมือนนายกฯ ว่า จะมีเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมนี้

โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้มาตอบกระทู้ถามของ ส.ว. วันชัย สอนศิริ ในที่ประชุมวุฒิสภา

ส.ว.วันชัย ระบุว่า ที่ต้องสอบถามเรื่องนี้ เพราะแม้แต่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีพาณิชย์ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ยังตั้งข้อสงสัยเรื่องนี้ว่ามีลับลมคมในหรือไม่ ซึ่งตนเห็นว่า กทม.สามารถจัดการเลือกตั้งได้ เพราะดูจากการเลือกตั้งซ่อมส.ส.หลักสี่-จตุจักร ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และ คนกทม.รวมทั้งพรรคการเมืองต่างๆก็ต้องการให้มีการเลือกตั้ง จึงต้องถามว่ารัฐบาลรออะไร

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ยื้อเวลาในการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับต่างๆมาตามขั้นตอน ส่วนการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.ทางมหาดไทยและ กกต.ก็ได้หารือร่วมกันอย่างต่อเนื่อง

พร้อมกันนี้ พล.อ.อนุพงษ์ก็ได้เปิดเผยถึงไทม์ไลน์การเลือกตั้งผู้ว่า กทม.ว่า หลังวันที่ 18 ก.พ. กกต.กับกระทรวงมหาดไทยจะหารือร่วมกันเรื่องประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพื่อเสนอให้ครม.พิจารณา ซึ่งคาดว่าจะเสนอ ครม.ได้ช่วงต้นเดือนมีนาคม /จากนั้นจะกำหนดให้มีการเลือกตั้งภายใน 60 วัน ซึ่งน่าจะอยู่ประมาณเดือน พ.ค.

สรุปแคนดิเดตผู้สมัครผู้ว่า กทม.อีกครั้ง ที่เปิดตัวมาแล้วตอนนี้ก็มี 4 คน แล้ว คือ

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ / น.ส.รสนา โตสิตระกูล ลงในนามอิสระ

ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ สังกัดพรรคประชาธิปัตย์

และล่าสุดที่เปิดตัวมาคือนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จากพรรคก้าวไกล

ส่วน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯคนปัจจุบัน ยังไม่ได้ประกาศชัดๆว่าจะลง แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าท่านมีการเตรียมการเพื่อลงชิงตำแหน่งแล้ว

-ความเคลื่อนไหว ของพรรคพลังประชารัฐหลังจากแพ้การเลือกตั้งซ่อม ทำให้เมื่อวานนี้ บรรดาแกนนำต่างเก็บตัวเงียบ เลี่ยงที่จะพบกับสื่อมวลชน

มีเพียงนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคลัง ในฐานะรักษาการเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวแสดงความยินดีกับ นายสุรชาติ เทียนทอง ว่าที่ ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อม กทม. เขต9 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

โดยนายสันติกล่าวว่า ตนเองเคารพเสียงของประชาชน แม้การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคพลังประชารัฐจะไม่ได้รับชัยชนะ แต่พรรคก็จะเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนต่อไป

และจะเอาปัญหาที่เกิดขึ้นมาศึกษา พร้อมกับลงไปสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ว่าประชาชนต้องการอะไร พรรคจะปรับปรุงอย่างไร เพื่อจะทำให้พรรคกลับไปนั่งในใจของประชาชนอีกครั้ง

นายสันติ ยังยืนยันด้วยว่าความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับความนิยม ที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ทุ่มเททำงานให้ประชาชนมาอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องใครแพ้ใครชนะนั้นเป็นเรื่องการแข่งขันกันของพรรคการเมือง ซึ่งก็ยอมรับว่าพรรคยังต้องปรับปรุงสร้างผลงานให้ตรงความต้องการประชาชนมากขึ้น

-ผู้ชนะจากการเลือกตั้งซ่อม เมื่อวานมีการไปขอบคุณประชาชนในพื้นที่ และจี้ให้นายกฯรีบตัดสินใจยุบสภา เมื่อวาน พรรคเพื่อไทย โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคนำนายสุรชาติ เทียนทอง ว่าที่ ส.ส.ของพรรค ขึ้นรถแห่ขอบคุณประชาชนในพื้นที่

นายสุรชาติ บอกว่า การทำงานในสภาหลังจากนี้จะให้ความสำคัญการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน ย้ำว่า จะทำงานอย่างสร้างสรรค์ปราศจากอคติ ไม่คิดล้มล้างหรือทำลายใคร เพียงแค่ต้องการจะสะท้อนปัญหาให้ได้รับการแก้ไข

ขณะที่ นพ.ชลน่าน หัวหน้าพรรค บอกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อน มาจากการทำงานของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการที่ไม่สามารถนำประชาชนออกจากวิกฤตได้ และยังทำงานแบบยิ่งซ้ำเติมวิกฤต ทำให้ผลเลือกตั้งครัั้งนี้ถือเป็นการลงโทษจากประชาชน

ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุด คือ นายกรัฐมนตรีควรพิจารณาตัวเองคืนอำนาจให้กับประชาชน ยุบสภา

-ผลจากการเลือกตั้งซ่อม มีมุมมองของนักวิชาการ ที่ออกมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุความพ่ายแพ้ของพรรคพลังประชารัฐ ที่สะท้อนถึงทิศทางการเมืองหลังจากนี้

รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มองว่า ผลเลือกตั้งที่เกิดขึ้นกับพรรคพลังประชารัฐ มีหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยที่ ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ทำคะแนนในพื้นมาอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยที่เกิดจากปัญหาความชอบธรรมของรัฐบาล ประสิทธิภาพในการบริหารงานของรัฐบาล ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ ปัญหาการตัดคะแนนกันเองของพรรคที่สนับสนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และที่ สำคัญ อ.ยุทธพร มองว่า บทบาทของ 3 ป. เวลานี้ ขายไม่ออกแล้ว ทำให้เห็นชัดว่าแม้แต่หน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ของทหารเองบางหน่วย ยังแพ้ให้กับพรรคก้าวไกล

อ.ยุทธพร ยังบอกด้วยว่า การเมืองหลังจากนี้ จะส่งผลต่อการกดดันนายกรัฐมนตรีเพิ่มมากขึ้นทั้งกรณีกลุ่มก้อนของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่แยกตัวออกไป รวมถึงกลุ่มต่างๆภายในพรรคที่อาจจะมีการทบทวน บทบาทหลังจากนี้

ซึ่งทั้งหมดจะส่งผลให้พรรคพลังประชารัฐ มีโอกาสที่ขนาดของพรรคจะเล็กลง และถ้ามีการยุบสภาตอนนี้ ก็อาจจะไม่ได้เห็นพรรคพลังประชารัฐลงเลือกตั้งอีก ก็เป็นไปได้

เช่นเดียว กับ อ. สติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า ที่วิเคราะห์ว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะทำให้พรรคพลังประชารัฐต้องสังคายนาภายในครั้งใหญ่ เพราะถ้าพรรคไม่ปรับตัว พรรคก็จะมีขาดเล็กลง ถึงขั้นที่อาจจะมีพรรคการเมืองอื่น เสนอชื่อพลเอกประยุทธ์ แทน ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ส่วนผลกระทบต่อรัฐบาลนั้น มองว่าคะแนนที่ออกมาสะท้อนถึงความไม่พอใจต่อรัฐบาลในระดับหนึ่ง แต่ไม่ถึงกับทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้

-ความคืบหน้าเรื่องการแก้ไขปัญหาให้กลุ่มพีมูฟ เมื่อวานมีการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาฯ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมการฯ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า พล.อ.ประวิตร จะนำข้อสรุปจากการหารือกันกับกลุ่มพีมูฟ รายงานเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบในวันนี้ เพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้แก้ไขปัญหาต่อไป โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมายและพิจารณาเป็นรายประเด็นไป

ขณะที่ พีมูฟ ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า แม้ในการประชุมจะพูดคุยกันครบทั้ง 15 ข้อเรียกร้อง โดยฝ่ายรัฐ รับจะนำเข้า ครม.ทั้งหมด แต่มีเพียงข้อเรียกร้องเดียวที่มีแนวทางการดำเนินการที่ชัดเจน คือข้อเรียกร้องว่าด้วยการยกระดับแนวทางการจัดการที่ดินและทรัพยากรในรูปแบบโฉนดชุมชน ส่วนข้อเสนออื่นๆยังไม่ชัดเจน

ทั้งนี้พีมูฟ จะขอรอดูหลังการประชุม ครม. และประกาศจุดยืนว่าจะยังติดตามทวงสิทธิของประชาชนต่อไป

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/hGXZOIoYgJU