สังคม

รวบแล้วเจ้าของอู่มหาภัย รับนำรถลูกค้าไปจำนำเพียบ แต่สุดท้ายหมุนเงินไม่ทัน

6 ธ.ค. 2568

316 views

รวบแล้วเจ้าของอู่มหาภัยย่านกระทุ่มแบน สารภาพลอบนำรถลูกค้าไปจำนำ อ้างมีหัวหน้าเก่าเป็นนายทุน พร้อมขยายผลนำรถยนต์คืนผู้เสียหายนับสิบคัน

วันที่ 6 ธันวาคม 2568 ที่ สภ.กระทุ่มแบน พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.ภ.7 , พล.ต.ต.ธีระเดช อธิคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ,พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร,พ.ต.อ.พศพงศ์ มณฑา ผกก.สภ.กระทุ่มแบน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน ร่วมแถลงข่าวการจับกุม ดำเนินการติดตามตัว นายนพดล หรือ บิ๊ก อายุ 39 ปี พร้อมของกลางรถยนต์จำนวนสิบคัน ในข้อหายักยอกทรัพย์ทรัพย์ผู้อื่น ตามที่ปรากฎข่าวสารผ่านสื่อโทรทัศน์รายการโหนกระแส เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 นำเสนอข่าวกรณี อู่มหาภัย ผู้เสียหายร้องเอารถไปทำสี สุดท้ายถูกเชิดรถหนี

จากการตรวจสอบพบอู่ดังกล่าว ตั้งอยู่ที่ ซ.เพชรเกษม ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยลงข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กรับทำสี เคาะ ปะผุ งานประกันชั้น 1 และ 2+ ซึ่งมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก โดยจากการโฆษณาผ่านเพจดังกล่าว ทำให้ผู้เสียหายเข้าใจว่าอู่สามารถซ่อมได้ในราคาถูกและคุณภาพดี แต่เมื่อนำรถเข้าไปช่อมที่ซ่อมกล่าวปรากฎว่าอู่รถไม่สามารถทำการซ่อมแชมรถได้ตามที่กล่าวอ้างไว้ อีกทั้งกลุ่มผู้เสียหายได้ทำการติดตามทวงถาม กลับไม่พบรถของตนจอดอยู่ในอู่ดังกล่าว จึงได้เข้ามาแจ้งความดำเนินคดี

จากการสืบสวนและตรวจสอบข้อมูลพบว่า อู่ดังกล่าว มีนายบิ๊ก เป็นเจ้าของอู่รับทำสี โดยร่วมกับนายสนธยา และจากการสืบสวนทราบว่าเฟซบุ๊กของอู่ มีนายสนธยา เป็นผู้ใช้งาน ในการประชาสัมพันธ์และถามตอบหาลูกค้ามาใช้บริการที่อู่ โดยมีการรับโอนเงินค่าช่อมรถผ่านบัญชีพร้อมเพย์ ชื่อ นางสาวฐษา ซึ่งมีความสัมพันธ์เป็นภรรยาของตัว นายสนธยา เอง

จนเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน ได้ทำการติดตามเชิญตัว นายบิ๊ก มาทำการซักถามในเหตุดังกล่าว เบื้องต้น นายบิ๊ก ให้การยอมรับว่า ตนเป็นเจ้าของอู่ดังกล่าวจริง โดยมี นายสนธยา เป็นนายทุน เปิดอู่ดังกล่าวให้ โดยก่อนหน้านั้นตัว นายบิ๊ก เคยทำงานเป็นลูกน้องขับรถเคลมประกันให้กับตัว นายสนธยา ซึ่งทำอาชีพรับเคลมรถอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว

จนกระทั่งต่อมาได้มาเปิดอู่ดังกล่าว ในการติดต่อรับลูกค้า และเมื่อมีลูกค้านำรถเข้ามาซ่อมในครั้งแรกนั้น นายสนธยา เป็นผู้นำรถของลูกค้าออกไปจำนำ โดยที่ นายบิ๊ก ให้การว่าตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว จนกระทั่งต่อมาถึงได้ทราบเรื่อง จึงได้บอกให้ติดตามรถดังกล่าวกลับมาคืนลูกค้า

แต่ต่อมา นายสนธยา ได้ชวน นายบิ๊ก ขับรถไปเป็นเพื่อน ซึ่งเมื่อไปถึงพบว่าเป็นการนำรถไปจำนำ และ นายสนธยา ได้แบ่งเงินส่วนแบ่งให้ หลังจากนั้นพวกตนทั้งสองจึงได้ร่วมกันทำเรื่อยมา ในการนำรถลูกค้าไปจำนำ โดยใช้วิธีเมื่อมีรถคันใหม่มาที่อู่ก็เอารถคันดังกล่าวไปไถ่รถคันเก่าคืนมา จนกระทั่งพวกตนหมุนเวียนจำนวนเงินดังกล่าวไม่ทัน จึงทำให้รถจำนวนมากค้างอยู่ที่ผู้รับจำนำ จนเกิดเป็นเหตุข่าวดังกล่าว

ส่วนทางด้านผู้เสียหายบอกว่าตนดีใจที่ได้เจอรถตนเอง และเสียใจที่ต้องเอาไปซ่อมอีกเพราะอะไหล่ไม่ครบ โดยได้จ่ายเงินให้กับทางอู่ไปก่อนด้วยจำนวนหนึ่ง ซึ่งที่มาทำอู่นี้เพราะมีคนแนะนำว่าราคาไม่แพง ซึ่งตนต้องยอมรับสภาพและยินดีที่ได้รถคืนมา

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามรถกลับมาได้เป็นจำนวนสิบคันแล้ว และกำลังติดตามรถยนต์ในส่วนส่วนที่เหลือต่อไป เพื่อนำส่งคืนให้กับผู้เสียหาย ก่อนจะดำเนินการตามกฏหมายต่อไป


แท็กที่เกี่ยวข้อง  โหนกระแส ,อู่มหาภัย

คุณอาจสนใจ

Related News