สังคม

เปิดสภาพในโกดัง 'วินโพรเสส' หลังฝนตก สารเคมีไหลนองพื้น ชาวบ้านจี้จัดการด่วน

โดย panwilai_c

8 พ.ค. 2567

54 views

ข่าว 3 มิติ ยังเกาะติดประเด็นความคืบหน้าการพยายามแก้ปัญหากากสารเคมี บริษัทวิน โพรเสส จ.ระยอง ซึ่งแม้ว่าศาลจังหวัดระยอง จะอนุญาตให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม เร่งทำแผนแก้ปัญหา เพื่อให้ศาลอนุมัติใช้เงินของจำเลยประมาณ 4 ล้าน 9 แสนบาท แต่นั่นเป็นวงเงินที่น้อยมาก หากเทียบกับปัญหามลพิษที่สะสมมานาน ทีมข่าว 3 มิติ อยู่ในพื้นที่ในวันที่มีฝนตกหนักครั้งแรก นับจากเกิดเพลิงไหม้โรงงาน และมีข้อสังเกต ที่จะชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วน ในการนำกากสารเคมีเหล่านี้ออกจากโกดังนี้ เป็นอันดับแรก



ฝนตกหนักตั้งแต่เช้าตรู่ของเมื่อวาน ที่บ้านหนองพะวา ทำให้ความกังวลใจว่ากากสารเคมีในโกดัง บ.วินโพรเสส จะถูกน้ำฝนชะล้างนั้น เห็นชัดมากขึ้น



ถังสารเคมีในโกดังที่ไม่มีหลังคาแล้ว ทำให้น้ำเสียสารเคมีไหลระบาย ไม่ต่างจากเททิ้งลงบนพื้นดิน ในถังที่เป็นถัง IBC หรือถังเบาท์ ขนาด 1 พันลิตร รอบๆโกดังหลังที่ 3 มีจำนวนหนึ่งที่ถังถูกเพลิงไหม้พลาสติกเหลือครึ่งถัง และมีสารเคมีเหลืออยู่ ตอนนี้ถูกน้ำฝนชะล้างจนล้นและไหลลงพื้นดิน



ในโกดังหลังที่ 4 ที่ส่วนใหญ่มีถังขนาด 200 ลิตร จะเป็นว่ามีรอยล้อรถแบ็คโฮเหยียบแบนราบจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นเพื่อเข้าไปดับไฟใจกลางโกดัง แต่ก็แลกมากับการที่ถังเหล่านี้ถูกบดทับ และกากสารเคมีไหลละทักลงพื้น



นี่คือสัญญาณของปัญหาส่วนหนึ่งที่เกิดจากฝนตกหนัก หลังเพลิงไหม้ น้ำฝนในโกดังที่ชะล้างคราบกากสารเคมี ไหลไปตามรางระบายน้ำของโรงงาน ปลายทางของทางระบายน้ำฝนไปจบ ลงที่ 1 ที่เรียกกันว่าบ่อดำ เพราะมีน้ำกรดเข้มข้นสีดำ ขังอยู่ที่นี่



ตอนนี้บ่อดำ ถูกเสริมคันบ่อให้สูงขึ้นก็จริง แต่การคำนวนของเจ้าหน้าที่เชื่อว่าไม่เพียงพอที่จะรองรับน้ำฝนทั้งปีแน่ จึงขุดบ่อเพิ่มอีกบนพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ ลึกประมาณ 5 เมตร และแม้ว่าทางระบายน้ำฝนของโรงงาน ยังไม่ปล่อยลงบ่อนี้ แต่ปริมาณน้ำฝนสะสมและคราบน้ำสารเคมีที่ซึมจากใต้ดินก็ทำให้เริ่มมีน้ำบ้างแล้ว แม้ว่าน้ำสีดำนั้นจะน่ากังวลอย่างมาก เพราะมันคือกากสารเคมีที่ถูกฝังใต้ดินแล้วรั่วซึมออกมา



เจ้าหน้าที่คาดว่าบ่อดินน่าจะไม่เพียงพอ จึงมองหาสถานที่ขุดบ่อเพิ่ม และนายเทียบ สมานมิตร คือคนที่ถูกมองหา เพราะที่มีดินติดกับโรงงานนี้ จึงอยากใช้พื้นที่ของนายเทียบสร้างบ่อดินดักน้ำฝนและสารเคมีไม่ให้รั่วไหลไปถึงชุมชน



นายเทียบคือคนที่ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเห็นใจและเข้าใจเขามากที่สุดคนหนึ่ง เพราะเดือดร้อนจากโรงงานนี้มานับ 10 ปี จนต้นไม้ในสวนตายเพราะกรดเข้มข้น แม้จะเป็นโจทก์ที่ 1 ร่วมกับชาวบ้านอีก 14 คนฟ้องชนะโรงงานในคดีแพ่ง แต่ก็ยังไม่ได้เงินชดเชยใดๆ



วันนี้นายเทียบกำลังเผชิญความลำบากใจ เพราะหากเขายอมไม่ใช้ที่ดินขุดบ่อ ก็คงไม่มีบ่อดักน้ำสารเคมีไว้ป้องกันชุมชน หรือหากยอมให้ขุดบ่อ แล้วผลกระทบจากกลิ่น ที่เกิดขึ้นต่อชาวบ้าน ก็คงจะไม่พ้นตำหนิเขา



ข้อเรียกร้องของนายเทียบ ที่อยากให้ภาครัฐ หาวิธีบำบัดกลิ่น หรือลดผลกระทบที่จะตามมา จึงเป็นสิ่งที่รัฐต้องไม่มองข้าม



นอกจากข้อกังวลของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบโดยตรงแล้ว ทีมข่าวยังมีข้อสังเกตุว่าการแก้ปัญหาในพื้นที่วินโพรเสสตอนนี้ อาจเป็นความตั้งใจดีที่อยู่ภายใต้ความกดดัน เพราะเมื่อไม่มีงบย้ายกากสารเคมีออกไป จึงต้องขุดบ่อดักน้ำสารสารเคมี และดินที่ขุดก็ปนเปื้อนสารเคมีด้วย



และเมื่อคาดว่าบ่อรับน้ำไม่พอ ยังต้องไปหาพื้นที่เพิ่มจากผู้เดือดร้อนอยู่ก่อนแล้ว โดยยังไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาให้เก่าและใหม่ให้ผู้เดือดร้อนนั้นอย่างไร



นี่ยังไม่นับปัญหาการย้ายกากสารเคมี ที่เป็นต้นเหตุการปนเปื้อนออกจากโกดัง ซึ่งควรต้องดำเนินการเป็นอันดับแรกๆ แต่ตอนนี้มีเพียงเงินของจำเลยราว 4.9 ล้านบาท ที่ยังต้องทำแผนงานเสนอศาลเพื่อนำออกมาใช้เฉพาะหน้าเท่านั้น

คุณอาจสนใจ

Related News