เมียช้ำ! ผัวแอบคบเพื่อนร่วมงาน ทิ้งลูก 2 คนไม่ส่งเสีย จับได้อ้างแค่ไปนอนที่บ้านด้วย แต่ไม่มีอะไรกัน

เมียช้ำ ร้องขอความเป็นธรรม ผัวแอบคบกับเพื่อนร่วมงาน อ้างแค่ไปนอนที่บ้านด้วยกัน แต่ไม่มีอะไรกัน ซ้ำหลังจับได้ยังทำร้ายร่างกายและเอาเงินเลี้ยงหญิงชู้ แต่ทิ้งลูก 2 คน ไม่ส่งเสียเลี้ยงดู แถมให้บอกลูกว่า "พ่อโดนรถชนตายไปแล้ว"

คุณหนูนา ชาวอำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ร้องเพจโหนกระแส ว่า เธอคบหากับสามีมา 8 ปี ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย หลังเรียนจบ ทำงาน ก็ได้หมั้นหมายกันในปี 2561 และวางแผนกันไว้ว่าจะแต่งงานในปี 2563 แต่เธอเกิดตั้งท้องลูกสาวคนแรกและคลอดลูกสาวในปี 2563

เธอและสามีจึงคุยกันว่า จดทะเบียนสมรสกันก่อนในปี 2564 และ เลื่อนงานแต่งออกไปเป็นปี 2565 ระหว่างนั้น สามีย้ายไปทำงานในสาขาต่างอำเภอ ดาวน์รถยนต์มา 1 คัน แต่เงินเดือนของสามีไม่พอใช้ เมื่อส่งค่างวดรถแล้วเหลือเงินไม่มาก เธอต้องคอยส่งค่าน้ำมันให้ทุกอาทิตย์

ต่อมา ใกล้บ้านมีร้านค้าขายส่งเปิดใหม่ เธอจึงบอกให้สามีมาสมัครงาน เพื่อจะได้กลับมาอยู่บ้าน มาอยู่กับลูกกับเมีย สามีจึงได้กลับมาอยู่บ้าน

เมื่อเธอถามถึงเรื่องการแต่งงาน ฝั่งสามีก็ขอเลื่อนไปเป็นปี 2566 จากนั้นเธอตั้งท้องลูกคนที่ 2 ญาติพี่น้องฝั่งเธอจึงไปคุยกับพ่อสามี ได้รับคำตอบว่าขอเลื่อนอีก เป็นปี 2568 เธอเลยตัดสินใจลดค่าสินสอดจาก 2 แสน ทอง 2 บาท เหลือ 1 แสน ทอง 1 บาท และขอให้แต่งในปี 2566 เลย โดยมีการกำหนดแต่งในเดือน กุมภาพันธุ์ 2566 แทน แต่ในวันแต่งงาน สามีนำมาวางแต่เงินสด ไม่มีทอง เธอก็ขอยืมเพื่อนมาวางโดยไม่ให้แม่รู้

หลังแต่งงานกันได้ไม่ถึงเดือน เธอไปเจอว่าสามีคุยแชทในกลุ่มกับที่ทำงานโดยใช้สรรพนามเรียก น้องผู้หญิงคนหนึ่งว่า 'เมีย' เธอจึงได้สอบถามจากทั้งคู่ แต่สามีอ้างว่า เป็นการเรียกหยอกเล่น ๆ กันเฉย ๆ

ส่วนน้องผู้หญิงก็ยืนยันกับเธอว่า ไม่ได้มีอะไร เธอจึงเตือนไปว่า ไม่ควรหยอก เล่นกันแบบนี้ ต้องให้เกียรติเมียเขาด้วย

น้องผู้หญิงคนนั้น ยังแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการให้เธอแอดเฟซบุ๊กไปเพื่อดูความเคลื่อนไหว แต่ไม่นาน น้องผู้หญิงคนนี้ก็ลบเธอออกจากการเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก เธอก็เอะใจ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร และไม่มีการไปตามเช็ก

จนวันหนึ่ง เพื่อนมาเล่าให้ฟังว่า เพื่อนของเธอไปซื้อของที่ร้านค้าส่งที่สามีทำงาน พนักงานคนหนึ่งพูดกับน้องผู้หญิงว่า "ไปบอกผู้ชายของเธอมายกของ" ให้หน่อย ปรากฏว่าผู้ชายที่เดินออกมาคือ "สามีของเธอ" ซึ่งทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในที่ทำงานอย่างเปิดเผย เหมือนเป็นผัวเมียกัน

กระทั่ง เดือน กรกฎาคม เธอคลอดลูกคนที่ 2 เป็นลูกชาย สามีไม่เคยลางานมาช่วยเธอดูแลลูกเลย ซ้ำยังกลับบ้านดึก อ้างว่าเลิกงานดึกบ้าง ผู้จัดการร้านพาไปเลี้ยงบ้าง

สุดท้ายคุณหนูนา ก็จับได้คาหนังคาเขาว่า สามีไปกิน ไปนอนอยู่ที่บ้านน้องผู้หญิงคนนั้น เห็นตำตารถสามีจอดอยู่หน้าบ้านผู้หญิงคนนั้น และมีรองเท้าของสามีถอดอยู่หน้าประตูบ้าน เธอจึงไปเคาะเรียกอยู่นานแต่ไม่มีใครเปิดประตู จนแม่ของน้องผู้หญิงมาเปิดประตู พร้อมถามว่าเป็นเธอเป็นใคร เธอก็บอกว่าเป็นเมียของผู้ชายที่นอนในบ้านแม่นั่นแหละ

พอสามีเห็นเข้า กลับกระชากแขนเธอให้กลับบ้าน โดยอ้างว่า มานอนบ้านผู้หญิงเพราะเมา กลับบ้านไม่ได้ รับสายไม่ได้ ซึ่งในวันที่จับได้ เธอร้องได้จนแทบเสียสติ

คุณหนูนา บอกว่า ที่ช้ำใจที่สุดคือ สามีบอกให้เธอไปขอโทษแม่น้องผู้หญิงคนนั้น เพราะสามีไปกินข้าวบ้านเขาทุกวัน ทั้งยังขู่ว่าถ้าคุณหนูนาไปเอาเรื่องที่ร้าน ร้านจะไล่สามีออกเพราะมีกฎเรื่องชู้สาว

หลังจากนั้น สามีก็ทักไปหาน้องผู้หญิงคนนั้น เพื่อขอโทษ แต่ไม่ขอโทษคุณหนูนา คนที่เป็นเมียสักคำ ซ้ำยังลงมือทำร้ายร่างกายเธออีก

คุณหนูนา บอกอีกว่า มีครั้งหนึ่ง เธอเคยไปเคลียร์ที่บ้านน้องผู้หญิง แม่ของเขายกมือไหว้ขอโทษ บอกว่าไม่รู้ว่าผู้ชายมีลูกมีเมียแล้ว และรับปากว่าจะให้ลูกสาวเลิกยุ่งกับสามีเธอ

ระหว่างนั้นเธอกับสามีก็มีเรื่องระหองระแหงกันมาเรื่อย ๆ สามีบอกด้วยว่า ลูกคนเล็กไม่ใช่ลูกของเขา ตนก็งงว่าแล้วจะเป็นลูกใคร?

สุดท้ายก็ได้แยกกันอยู่ โดยเธอขอหย่ากับสามีหลายครั้ง สามีก็ไม่ยอมหย่า ลูกสาวคนโตที่ติดพ่อมากก็ร้องหาพ่อตลอด แต่สามีให้เธอบอกกับลูกว่า "พ่อโดนรถชนตายไปแล้ว" ช่วงที่แยกกันอยู่สามีไม่เคยเหลียวแลสนใจลูกทั้งสองคนเลย ปล่อยให้อยู่อย่างอด ๆ อยาก ๆ แต่กลับซื้อข้าวซื้อน้ำไปให้ผู้หญิงคนนั้นตลอด โดยที่ไม่แคร์สายตาคนอื่น

คุณหนูนา บอกว่า วันหนึ่งเธอบังเอิญเจอน้องผู้หญิงคนนั้น จึงตั้งใจเข้าไปเคลียร์ เขายังยืนยันว่า ไม่ได้คบกับสามีเธอแล้ว แต่บังเอิญสามีเธอวิดีโอคอลมาหาน้องผู้หญิงคนนั้นพอดี ด้วยความบันดาลโทสะ เธอจึงตบปากน้องผู้หญิงที่โกหก น้องผู้หญิงก็ตบหน้าเธอ กลายเป็นการทะเลาะวิวาท มีการโทรเรียกตำรวจและสามีเธอก็ตามมา

ในวันนั้นสามีและน้องผู้หญิง ก็ยอมรับครั้งแรกว่า "คบกันจริง ไปนอนด้วยกัน แต่ไม่ได้มีอะไรกัน" สามีบอกว่าจะยอมหย่า แต่เธอตัดสินใจแล้วว่าจะยื่นฟ้องทั้งคู่ โดยจะฟ้องชู้ และฟ้องหย่าสามีให้รับผิดชอบค่าเลี้ยงดูลูก

ตอนนี้แม้ทั้งคู่จะมาขอโทษหรือไกล่เกลี่ยอะไรเธอก็คงไม่ยอม เพราะหากทั้งคู่รู้สึกผิดจริง ๆ คงขอโทษ ยุติความสัมพันธ์ไปนานแล้ว และตนก็ต้องการปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง และทวงสิทธิ์ให้กับลูกทั้ง 2 คน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/SaLJIN-0JjQ