สังคม

ตร.ออกระงับเหตุ ชายป่วยจิตเวชอาละวาด โดนแย่งพวงมาลัยทำรถคว่ำ ร.ต.อ.ดับสลดก่อนเกษียณไม่กี่เดือน

โดย passamon_a

22 เม.ย. 2567

677 views

ตำรวจออกระงับเหตุผู้ป่วยจิตเวชอาละวาด โดนแย่งพวงมาลัยรถ จนรถตำรวจคว่ำ ทำตำรวจดับสลด 1 บาดเจ็บ 4  


เมื่อวันที่ 21 เม.ย.67 ตำรวจ สภ.ผาขาว จ.เลย ได้รับแจ้งเหตุชายป่วยจิตเวชมีอาการคลุ้มคลั่ง ที่บ้านหนองตานา ต.ท่าช้างคล้อง อ.ผาขาว จ.เลย  


ร.ต.อ.เวหา ฉายสิงห์ รองสารวัตรปราบปราม สภ.ผาขาว นำกำลังตำรวจอีก 3 นาย เดินทางไประงับเหตุ โดยได้พูดเกลี้ยกล่อมจนผู้ป่วยอาการสงบลง จึงนำตัวขึ้นรถกระบะ 4 ประตูของตำรวจ เพื่อจะนำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่ สภ.ผาขาว โดยให้ผู้ป่วยนั่งที่เบาะหลังของรถ โดยไม่ได้สวมกุญแจมือ และมีญาตินั่งมาด้วย 1 คน เมื่อมาถึงบริเวณถนนหนองตานา-โนนสมบูรณ์ ผู้ป่วยเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีก โดยพุ่งตัวข้ามมาที่เบาะหน้า แล้วแย่งพวงมาลัยรถ จนรถพลิกคว่ำตกข้างทาง


ชาวบ้านที่ขับรถผ่านมาเห็นเหตุการณ์ ได้โทรแจ้งตำรวจและกู้ภัยมาช่วยเหลือ เนื่องจากมีคนติดในซากรถ เมื่อเจ้าหน้าที่นำเครื่องตัดถ่างมาช่วยนำคนที่ติดในรถออกมาได้ พบว่ามีตำรวจ 3 นาย และญาติของผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บ รวม 4 คน ส่วน ร.ต.อ.เวหา ฉายสิงห์ เสียชีวิต ในขณะที่ผู้ป่วยปลอดภัย ไม่เป็นอะไร เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำผู้บาดเจ็บและผู้ป่วย ไปส่ง รพ.ผาขาว


พ.ต.อ.ธนเดช ระเวงวรรณ ผกก.สภ.ผาขาว เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านโนนสมบูรณ์ ว่า ลูกชายซึ่งป่วยจิตเวช มีอาการไม่ปกติ ขอให้ตำรวจช่วยไประงับเหตุ หลังจากได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปด้วยกัน 4 นาย ได้แก่ ร.ต.อ.เวหา ฉายสิงห์ รองสารวัตรปราบปราม ดาบตำรวจกฤษดา หาแก้ว ส.ต.ท.อานนท์ แหชัยภูมิ และ ส.ต.ต.สร้างสรรค์ นามวงษ์


พอไปถึงที่เกิดเหตุ แม่ของผู้ป่วยขอให้เจ้าหน้าที่พาลูกชายไปส่งโรงพยาบาลเพื่อรับยา จึงนำผู้ป่วยจิตเวชขึ้นรถมาด้วย โดย ส.ต.ต.สร้างสรรค์ ทำหน้าที่ขับรถ, ร.ต.อ.เวหา นั่งข้างคนขับ, ดาบตำรวจกฤษดา และส.ต.ท.อานนท์ นั่งเบาะหลังติดประตูซ้ายและขวา โดยให้ผู้ป่วยที่ไม่ได้สวมกุญแจมือกับญาติ นั่งตรงกลาง


ระหว่างทางก็มีการพูดคุยกันปกติ อยู่ดี ๆ ผู้ป่วยเกิดคลุ้มคลั่งและแย่งพวงมาลัยรถ จนรถพลิกคว่ำ ซึ่งในเวลาต่อมา ได้นำผู้ป่วยจิตเวชไปตรวจหาสารยาเสพติด แต่ไม่พบ และนำตัวไปฉีดยาที่โรงพยาบาลผาขาว เพื่อระงับอาการ


ทั้งนี้ ร.ต.อ.เวหา จะเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ แต่มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อน ปัจจุบัน ร.ต.อ.เวหา มีบ้านพักอยู่ที่บ้านโนนป่าซาง ต.โนนป่าซาง อ.ผาขาว โดยอาศัยอยู่กับภรรยา ที่ทำงานเป็นครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.โนนป่าซาง และมีบุตรสาว 2 คน ทำงานอยู่ต่างประเทศ


ด.ต.วีระ พิมเขตร ผบ.หมู่ปราบปราม เพื่อนของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ร.ต.อ.เวหา เป็นนักเรียนตำรวจ นพต.รุ่น 17 โรงเรียนพลตำรวจขอนแก่น จะเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 ก.ย.67 แต่มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเสียก่อน ผู้กองเวหาเป็นคนที่ทำงานเก่ง และเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ก่อนหน้านี้เคยมาพูดให้ฟังว่าหลังสงกรานต์จะขอไปทำหน้าที่สิบเวร เพราะว่าจะเกษียณแล้ว พอทราบข่าวว่าผู้กองเวหาเสียชีวิต ตนเสียใจมาก เพราะสนิทกันมาก ห้องอยู่ติดกัน มาทำงานก็เจอกันทุกวัน คุยกันทุกวัน เคยเห็นผู้กองเลี้ยงหลานตัวเล็ก ๆ ฝาแฝด 2 คน แต่วานนี้ ก่อนเกิดเหตุ ไม่ได้เจอหน้ากัน มาทราบข่าวก็ตอนเสียชีวิตแล้ว ทำให้รู้สึกใจหาย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถกระบะตราโล่คันเกิดเหตุที่พังยับเยิน เจ้าหน้าที่ได้นำมาเก็บไว้ที่ สภ.ผาขาว ส่วนร่างของ ร.ต.อ.เวหา สายสิงห์ ทางครอบครัวได้รับร่างออกจาก รพ.ผาขาว นำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านโนนป่าซ่าง อ.ผาขาว จ.เลย โดยมีญาติและเพื่อนตำรวจมาร่วมงานจำนวนมาก บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า รวมทั้ง นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย, กาชาด จ.เลย และหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ก็มาแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้กองเวหาด้วย  


นางอัมภาภรณ์ สายสิงห์ อายุ 51 ปี ภรรายของ ร.ต.อ.เวหา ฉายสิงห์ เล่าว่า ตนเจอสามีครั้งสุดท้ายตอนประมาณ 11.00 น. วันที่ 21 เม.ย.67 ก่อนจะออกไปทำงาน ตนถามว่าได้กินข้าวหรือยัง แต่สามีบอกว่า จะออกไปทำงานก่อน เพราะลูกน้องขับรถมารอแล้ว เสร็จงานแล้วค่อยกลับมากินข้าว ตนสังเกตเห็นว่าสามีแต่งเครื่องแบบเต็มยศ และใส่เสื้อเกราะ ซึ่งปกติจะแต่งครึ่งท่อน ตนก็ยังหยอกล้อไปว่า วันนี้แต่งซะเต็มยศ หล่อเลย แต่สามีไม่ได้ตอบอะไร จนกระทั่งช่วงเที่ยง ๆ มีคนโทรมาแจ้งว่า สามีประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิตแล้ว พอได้ยินตนได้แต่ขาสั่น ทำอะไรไม่ถูก ส่วนเรื่องพิธีศพ จะสวดอภิธรรมกี่วันนั้น ตนต้องรอปรึกษากับญาติ ๆ และคนในครอบครัวก่อน


ด้าน นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดเผยว่า มาร่วมพิธีศพและแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้กองเวหา โดยในวันนี้ (22 เม.ย.67) ตนจะดำเนินการขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และขอพระราชทานเพลิงศพให้แก่ผู้กองเวหา ส่วนการช่วยเหลือครอบครัว ก็จะดำเนินการตามสิทธิอย่างเต็มที่ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครคาดคิดและไม่อยากให้เกิด นับว่าเป็นการสูญเสียบุคลากรที่ทำประโยชน์เพื่อประชาชน และเป็นข้าราชการที่ประพฤติดี ปฏิบัติหน้าที่ดีมาตลอด


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/EROg4bucv3U

คุณอาจสนใจ

Related News