สังคม

ตร.ปราบเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ คิดดอกเบี้ยเกินกำหนด-ทวงหนี้โหด

โดย parichat_p

6 เม.ย. 2567

113 views

ตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจไซเบอร์ ปราบปรามเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ ทั้งชาวไทยและชาวอินเดีย ที่ปล่อยเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่เกินกำหนด และเจ้าหนี้บางรายใช้วิธีการทวงหนี้โหด ทำร้ายร่างกาย และข่มขู่


การร้องเรียนของลูกหนี้ ที่ถูกทำร้ายจากแก๊งทวงหนี้โหด เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน แม้จะจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยครบ เงินต้นก็ไม่ลด เงินที่หามาได้หมดไปกับค่าดอกเบี้ย และส่วนใหญ่คนไทยก็เป็นหนี้นอกระบบกันเป็นจำนวนมากในทุกชุมชน


ล่าสุดตำรวจสอบสวนกลาง พบลูกหนี้เข้าร้องเรียนต่อ พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จึงประสานตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรทางเศรษฐกิจ เข้าตรวจค้นบ้านพัก 2 หลังในจ.สมุทรสาครและ ราชบุรี มีนายสายฟ้า อายุ 29 ปี มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ น.ส.เบล ปล่อยเงินกู้ผ่านทางเฟซบุ๊ก


จากเงินต้นกู้เพียง 4,000 บาท ดอกเบี้ยเดือนละ 2,000 บาท แต่ในที่สุดชำระหนี้ไปกว่า 12,000 บาท ก็ยังไม่จบ ต้องชำระดอกเบียวันละ 250 บาท กระทั่งจ่ายเป็นเงิน 4 หมื่นบาท จากเงินต้น 6,500บาท และยังถูกโพสต์ประจานผ่านเพสบุ๊ค โดยนส.เบลยอมรับว่าปล่อยเงินกู้แบบรายวันและรายเดือนจริง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไป แจ้งข้อกล่าวหาปล่อยเงินกู้เงินอัตรากฎหมายกำหนด


ขณะที่ก่อนหน้านี้ ตำรวจกองกำกับการ 6 กองปราบปรามเข้าตรวจค้น แก๊งหญิงเบื่อปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด มี นายสมพงษ์ เป็นหัวหน้า มีลักษณะบุคลิกเป็นเพศทางเลือก ทำหน้าที่เป็นนายทุน และปล่อยให้เงินกู้ให้ลูกค้า แก๊งหญิงเบื่อนี้มีแนวทางการเก็บเงินที่แปลกใหม่โดยลูกค้าต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเงินกู้เป็นจำนวน 30 ครั้ง ต่อเนื่องเป็นเวลา 30 วัน กล่าวคือ หากลูกค้ามีการกู้ยืมเงิน จำนวน 10,000 บาท จะต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยครั้งละ 400 บาท ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 30 วัน รวมเป็นเงินต้นและดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย คือ 12,000 บาท หากส่งเงินไม่ต่อเนื่อง 30 วัน จะถูกบังคับให้เริ่มชำระใหม่ โดยนายสมพงษ์จะตัดยอดไว้ จำนวน 2,000 บาท แล้วคืนเงินที่เหลือให้กับลูกหนี้ เพื่อเริ่มชำระเงินใหม่ นายสมพงษ์จึงมีเงินหมุนเวียนในบัญชีถึง 20 ล้านบาท


ขณะที่ล่าสุดวันนี้ตำรวจไซเบอร์ เข้าตรวจค้นบ้านของป๋าแอล ที่ย่านตาขาว จ.ตรัง หลังจากพบว่าปล่อยเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยเกินกำหนด แต่กลุ่มญาติของป่าแอลไม่เข้าใจว่าใครไปแจ้งให้เข้าค้น


ในที่สุดเจ้าหน้าที่แสดงหมายศาลและอธิบายเหตุผล จึงเข้าตรวจค้นได้ โดยพบนายสิทธิกร อายุ 36 ปี หรือป๋าแอล พร้อมตรวจค้นโทรศัพท์พบป๋าแอล พบเพจเฟสบุ๊ค มีการสนทนา ปล่อยเงินกู้ 2 เพจ จริง โดยเพจแรกเป็นชื่อของป๋าแอล และอีกเพจเป็นชื่อ นส.อัญชลี มีข้อความคุยกับลูกหนี้ พร้อมทั้งมีสลิปโอนเงิน จากกรสอบถามนายสิทธิกร บอกว่าได้คุยกับลูกค้าเงินกู้ด้วยตัวเอง รับว่าปล่อยเงินกู้ดอกร้อยละ 20 ต่อเดือน เงินหมุนเวียนหลายล้านบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ให้ผู้อื่นกู้เงินโดยไม่ได้รับอนุญาต


ส่วนการรับจำนำรถยนต์ ยังมีผู้เดือดร้อนหนี้นอกระบบ นำรถติดไฟแนนซ์ไปจำนำต่อเนื่อง ตร.หน่วยปฏิบัติการพิเศษสืบตำรวจภูธรภาค 8 นำ หมายศาลจังหวัดทุ่งสง เข้าตรวจค้นที่บ้านหลังหนึ่งในอำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช จากการตรวจค้นพบเอกสารการรับจำนำรถยนต์ และรถยนต์จำนวน 15 คัน ตรวจสอบแล้ว มีป้ายทะเบียนถูกต้อง จับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน ตั้งโรงรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาต และให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด

คุณอาจสนใจ

Related News