เปิดปฏิบัติการกวาดล้างหนี้นอกระบบ ทวงหนี้โหด จ่อชงใช้กม.ยึดทรัพย์ ตัดวงจร

ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบได้เปิดปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มเจ้าหนี้นอกระบบที่ใช้วิธีการทวงหนี้โดยข่มขู่ทำร้ายร่างกายอีก อีกทั้งเตรียมเสนอให้รัฐบาล ใช้กฎหมายมูลฐานเกี่ยวกับการยึดทรัพย์ของผู้กระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบในอนาคต



แก๊งทวงหนี้โหด ยังคงข่มขู่และทำร้ายลูกหนี้ ถ้าหากไม่จ่ายดอกเบี้ยตามจำนวนที่กำหนด แม้ภาครัฐจะมีนโยบายให้กู้ในระบบแต่ลูกหนี้ส่วนใหญ่ไม่มีหลักค้ำประกัน จึงต้องพึ่งการกู้นอกระบบ ทำให้ปัญหาการทวงหนี้โหดยังมีให้เห็นเสมอ ปฏิบัติการปูพรมปราบปรามเงินกู้นอกระบบ ของศูนย์ ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ



ในส่วนของ ตำรวจสอบสวนกลาง โดยตำรวจ ปอศ รวบผู้กระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเข้าค้นห้องพักย่านหลักสี่ คิดดอกลอย ไม่มีการตัดเงินต้น อีกทั้งยังให้นำรถจักรยานยนต์มาจำนำ โดยพบรถจยย นับ 10 คัน จับนายชินภพ อายุ 46 ปี



ส่วนอีกจุด ตร ปอศ เข้าค้น ย่านนวมินทร์ จับแก๊งโปรยใบปลิวเกลื่อนเมือง และแก๊งหมวกกันน็อค จับนายพิเชษฐ์อายุ 25 ปี และ นายธีรภัทร อายุ 19 ปี พบใบปลิวนับ1 หมื่นแผ่น โดยปล่อยกู้ดอกเบี้ย ร้อยละ 40 ต่อ 28 วัน คิดเป็นอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 520 ต่อปี โดยหากลูกหนี้ชำระหนี้ไม่ตรงกำหนด จะมีพฤติการณ์ทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายหลังสืบสวนทราบว่า มีการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นกระบวนการ ทั้งกลุ่มโปรยใบปลิว หาลูกค้า กลุ่มคัดกรองลูกหนี้ กลุ่มทำสัญญาเงินกู้ และกลุ่มทวงหนี้ โดยมีชายชฉกรรจ์ทำหน้าที่เก็บเงินในทุกวัน



ขณะที่ พระนครศรีอยุธยาจับ นายฉัตรมงคลอายุ 41 ปีและนางน้ำฝน อายุ 43 ปี ซึ่งเมื่อลูกหนี้เริ่มผ่อนชำระดอกเบี้ยไม่ตรงกำหนด และไม่ครบจำนวน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสูง กลุ่มผู้กระทำความผิดจะส่งข้อความทวงหนี้ทางแอปพลิเคชันและบุกไปทำร้ายร่างกาย หลังรัฐบาลประกาศวาระแห่งชาติ ศูนย์ ป้องกันปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ได้เปิดปฏิบัติการ กวาดล้าง 3 ครั้งทั่วประเทศ



โดยเน้นเจ้าหนี้ที่เป็น เครือข่าย คุกคามข่มขู่ ใช้กำลังประทุษร้าย ในระยะเวลา3 เดือนจับผู้ต้องหาได้2296 คน ที่เป็นหนี้สินกว่า 114 ล้านบาท ยึดของกลางได้ 63 ล้านบาท



และหากเป็น แอปเงินกู้ จะเน้นไปที่แอปที่หลอกให้โอนค่าธรรมเนียมต่างๆไปยังบัญชีม้า หรือบัญชีนิติบุคคล แต่ไม่ให้กู้จริง ซึ่งทางศูนย์ปราบปรามหนี้นอกระบบ จะได้เสนอต่อรัฐบาล ให้ความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบเป็นความผิดมูลฐานเพื่อให้ผู้กระทำผิดถูกยึดทรัพย์เป็นการตัดวงจรไม่ให้กลับมาทำผิดซ้ำอีก