รวบแหม่มคาซัค แอบค้าประเวณีออนไลน์ ค่าบริการครั้งละ 10,000 เจอรายชื่อลูกค้าเพียบ

วันนี้ (5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.อ.อรุณ มูสิกิ้ม รอง.สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ภายใต้สั่งการ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.กันตวัฒน์ พงศ์สถาบดี รอง ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.นฤวัต พุทธวิโรผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.วัสส์ธนภูมิ กุลจิตติชุติพร รอง ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.ต.พสธร แสนยินดี สว.ตม.ปฎิบัติราชการ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สุราษฎร์ธานี (สมุย) ได้ออกสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดในห้วงระดมกวาดล้างอาชญากรรมคนต่างชาติ อยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ตามคำสั่งของ ผบช.สตม.ตั้งแต่วันที่ 1 – 10 เม.ย. 2567 ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวและตอบสนองนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวของรัฐบาลนั้น

เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา ร.ต.อ.อรุณ มูสิกิ้ม รอง.สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมชุดสืบสวน ตม.จว.สุราษฎร์ธานี สมุย ได้สืบทราบว่ามีหญิงสาวชาวต่างชาติ มีพฤติการณ์บริการทางเพศ โดยผ่านแอพปริเคชั่น whatsapp เมื่อทำการตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวในระบบ google search ปรากฏว่าผลลัพธ์การสืบค้นพบว่าเบอร์โทรดังกล่าวได้ไปปรากฏอยู่ในเวปไซด์ที่ให้บริการที่มีหญิงสาวชาวต่างชาติจำนวนหลายเวปไซด์ ซึ่งมีข้อมูลการให้บริการของหญิงสาวในพื้นที่ของประเทศไทย เช่นกรุงเทพ พัทยา ภูเก็ต เป็นต้น ระบบออนไลน์ในเวปไซด์ต่างๆจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่ ตม.ชุดจับกุม จึงได้วางแผนเข้าทำการอำพราง เพื่อขอใช้บริการทางเพศกับหมายเลขดังกล่าว โดยการติดต่อผ่านระบบ whatsapp สามารถติดต่อได้โดยมีการสื่อสาร เพื่อขอซื้อบริการทางเพศกับหญิงสาวชาวต่างชาติโดยได้ตกลงกับสายลับในราคา 350 ดอลล่าร์ และส่งภาพหญิงสาวมาให้ทางสายลับได้ดูจนเป็นที่พอใจ ต่อมาหญิงสาวที่ปรากฎในบทสนทนาที่ทางเอเยนต์ และมีการตกลงในราคา และหญิงสาวตามรูปและทางสายลับได้ส่งสถานที่ที่นัดพบกันที่สถานที่เกิดเหตุห้องพักที่A 11 โรงแรม แห่งหนึ่ง บนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

ซึ่งทางตำรวจโดยได้นำเงินตามตกลง ไปลงประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการอำพรางซื้อบริการทางเพศดังกล่าว ต่อมาพอถึงเวลานัด ได้มีหญิงสาวคนดังกล่าวตามที่ตกลงกันไว้ ได้มาที่ห้องพักที่เกิดเหตุตามเวลานัดหมาย โดยสายลับได้เปิดห้องรอรับไว้ เมื่อไปถึงสายลับได้มอบเงินค่าซื้อบริการทางเพศให้แก่หญิงสาวคนดังกล่าว และ หญิงสาวคนดังกล่าวได้เข้าไปในห้องน้ำถอดเสื้อผ้า เพื่อเตรียมร่วมประเวณีกับสายลับ สายลับจึงได้ส่งสัญญาน ให้ชุดจับกุมได้เข้าแสดงตัวเพื่อทำการจับกุม ทำให้แหม่มสาวดังกล่าวถึกหน้าถอดสี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจค้นปรากฎว่าพบเงิน ที่สายลับมอบไว้ให้เพื่อขอซื้อบริการทางเพศ ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 10 ฉบับ รวมเป็นเงิน 10,000 บาท ตรงกับภาพถ่ายสำเนาที่ได้ลงประจำวัน และพบเจลหล่อลื่นยี่ห้อ DUREX จำนวน 1 ขวดอยู่ในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลของผู้ถูกจับ

ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทาง ชื่อน.ส.อเนล สัญชาติคาซัค เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2566 ด้วยประเภทนักท่องเที่ยว 15 วัน ได้รับอนุญาตถึงวันที่ 22 ก.ย. 2566 และได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อจนถึงวันที่ 1 พ.ค. 2566 เมื่อครบกำหนดวันอนุญาตไม่พบว่าผู้ถูกจับได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรแต่อย่างใด ยังคงพักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรเรื่อยมา จนถึงวันนี้ 4 เม.ย. 2567 ผู้ถูกจับจึงอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดจากวันที่ได้รับอนุญาตจำนวน 195 วัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่าจะต้องถูกจับในความผิดฐาน ทำการค้าประเวณีโดยผิดกฏหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด 195 วัน ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522

จากการสอบปากคำ นางสาวอเนล ได้ให้การว่าได้รับการติดต่อจากหญิงชาวต่างชาติที่เป็นเอเยนต์ที่ชื่อ LINDA ซึ่งแสดงอยู่บนหน้าเวปไซด์ขายบริการทางเพศที่คนทั่วไปสามารถเข้าไปดูได้ ให้ไปรับงานบริการทางเพศ ที่มีผู้ขอซื้อบริการทางเพศติดต่อผ่านทาง LINDA โดย LINDA จะคิดค่านายหน้าจำนวน 40 เปอร์เซ็นต์จากการติดต่อในแต่ละครั้ง โดยจ่ายค่านายหน้าเป็นเงินสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งผู้ถูกจับไม่เคยพบเจอกับนายหน้ารายนี้มาก่อน เพียงแต่ติดต่อผ่านระบบออนไลน์หรือติดต่อผ่านระบบ whatsapp ผู้ถูกจับยังให้การว่า LINDA ซึ่งน่าจะอาศัยอยู่นอกราชอาณาจักรไทย ยังมีหญิงสาวที่อยู่ในสังกัดที่เสนอขายบริการทางเพศผ่านระบบออนไลน์ในเวปไซด์ต่างๆอีกจำนวนมาก ทางตำรวจชุดจับกุมจึงได้ตัวนำส่งร้อยเวรสอบสวน สภ.บ่อผุด จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.นฤวัต พุทธวิโร ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี จึงแจ้งประชาสัมพันธ์ข่าวมายังสื่อมวลชนเพื่อเผยแพร่ข่าวสาร ให้เป็นประโยชน์ในการสร้างความเชื่อมั่นด้านการรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามคำสั่งของ ผบช.สตม.หากท่านพบเห็นการกระทำผิดหรือมีข้อมูลการกระทำผิดของคนต่างชาติในพื้นที่ ให้แจ้งมาได้ที่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี สายด่วน 1178