คู่รักฝรั่งหัวหมอ ชักดาบค่าอาหาร หยิบบิลทำท่าจ่าย แต่ไม่มีเงินสักบาท โบ้ยความผิดเด็กเสิร์ฟ

คู่รักต่างชาติชักดาบค่าอาหาร เข้าร้านอาหารภูเก็ต หยิบบิลทำท่าจ่าย แต่ชักเงินออก ไม่มีเงินสักบาท ก่อนโวยวายโบ้ยความผิดเด็กเสิร์ฟ เจ้าของร้านเปิดกล้องวงจรผิดเห็นภาพชัด สุดท้ายยอมขอโทษและจ่ายเงิน



ซึ่งหลังจากทั้งสองคนรับประทานอาหารเสร็จแล้วได้เรียกเช็คบิล จากนั้นพนักงานเสิร์ฟได้นำบิลอาหารใส่แผ่นพับมาวางที่โต๊ะ โดยมีชายต่างชาติชักเงินออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วทำทีว่านับเงินออกมาวางกับบิลในแผ่นพับ แต่ชักเงินกลับออกจากแผ่นพับ แล้วเรียกพนักงานเสิร์ฟมานำแผ่นพับเก็บเงินกลับไป จากนั้นได้เดินออกจากร้านหายตัวไป ซึ่งพนักงานมาดูเงินในแผ่นพับภายหลัง ไม่พบเงินค่าอาหารดังกล่าว เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด ปรากฎว่าชายชาวต่างชาติไม่ได้จ่ายเงินค่าอาหารแต่อย่างใด จึงได้นำคลิปมาแชร์กันในกลุ่มร้านอาหาร เพื่อป้องกันและระวังหนุ่มสาวชาวต่างชาติดังกล่าวไว้ ขณะเดียวกันได้ประสานไปยัง สภ.เชิงทะเลเพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับชายหญิงชาวต่างชาติดังกล่าว



เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 30 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้ไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ถนนสวัสดิ์รักษ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้พบกับ น.ส.สันธะณี (ขอสงวนนามสกุล) พนักงานเสิร์ฟที่รับหน้าที่เสิร์ฟอาหารและนำบิลอาหารไปวางบนโต๊ะของชายหญิงสาวต่างชาติดังกล่าว



โดย น.ส.สันธะ ณีเล่าให้ฟังว่า ตนเองเป็นพนักงานเสิร์ฟอาหารและดูแลให้บริการลูกค้าภายในร้าน จากนั้นได้มีชายหญิงชาวต่างชาติ 2 คน ซึ่งคาดว่าเป็นสามีภรรยากันเข้ามานั่งที่โต๊ะและสั่งอาหารตามปกติเหมือนลูกค้าต่างชาติทั่ว ๆไป จากนั้นลูกค้าได้เรียกให้เก็บเงิน ตนจึงนำบิลอาหารไปวางให้บนโต๊ะ ซึ่งในขณะนั้นภายในร้านมีลูกค้าเป็นจำนวนมากและกำลังวุ่นวาย ต่อมาตนได้เดินไปหยิบซองพับใส่บิลนำกลับมาส่งคืนให้กับแคชเชียร์ จนแคชเชียร์เปิดซองพับที่ใส่บิลแล้วไม่พบเงินพร้อมกับตะโกนถามตนเอง ตนจึงตกใจพร้อมกับเดินไปบอกกับลูกค้าว่าในซองพับที่ใส่บิลไม่มีเงินค่าอาหาร แต่ลูกค้าอ้างว่าได้ใส่เงินไปแล้ว ซึ่งคิดว่าลูกค้าคงพูดความจริง เพราะหน้านิ่งมาก ก็เลยช่วยกันเดินหาตามโต๊ะต่าง ๆ ก็ไม่พบ จนเจ้าของร้านเข้ามาพอดี ตนจึงเล่าเหตุการณ์ให้เจ้าของร้านฟัง ขณะเดียวกันลูกค้ามาโวยวายที่แคชเชียร์ว่าจ่ายเงินแล้ว พนักงานมารับเงินไปเอง ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้รับเงินไป ตนเองทำงานด้วยความซื่อสัตย์ แม้แต่บาทเดียวก็ไม่เคยคิดโกงใคร โดยลูกค้าได้พูดคุยกับเจ้าของร้านและผู้จัดการ พร้อมกับท้าให้ดูกล้องวงจรปิดได้เลย จนมีการเปิดกล้องวงจรปิด ภาพที่ปรากฏก็ตามคลิปเลย ลูกค้าไม่ได้จ่ายเงิน



"ความรู้สึกตอนนั้น เค้าหยามคนไทย คนไทยต้องขโมยอย่างนั้นหรือ พวกคุณมาเที่ยวเมืองไทย ไม่ใช่เมืองเราเป็นขี้ข้าพวกเค้านะ อยากได้อยากกินอะไร เราก็หามาให้ เวลาสั่งอาหารตามเมนู จะเอาแบบนู้นจะเอาแบบนี้ ไม่ใส่อันนู้นไม่ใส่อันนี้ ทางร้านเราก็ตามใจลูกค้าทุกท่าน แต่สุดท้ายไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน น้ำตาแทบจะไห้ สั่นไปทั้งตัว จึงอยากฝากถึงเพื่อน ๆ พนักงานเสิร์ฟทุกท่านให้ระวังเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวไว้ด้วย"



ด้านนายอริชาพัชช์ วิศาลธีระกร ผู้จัดการร้านได้เล่าให้ฟังด้วยว่า ตอนเกิดเหตุการณ์ ตนเองอยู่ในครัว พนักงานเสิร์ฟได้เดินถือซองพับใส่บิลไปให้แคชเชียร์ที่เคาน์เตอร์ โดยแคชเชียร์เปิดซองพับออกมา ปราฏว่ามีแต่บิลอย่างเดียว ไม่มีเงิน ตนจึงเดินมาสอบถาม ขณะเดียวกันลูกค้าได้เดินมาบอกด้วยว่าใส่เงินมาในซองพับดังกล่าวแล้วและยื่นให้พนักงาน แต่พนักงานก็ยืนยันว่าหยิบซองพับใส่บิลมาจากโต๊ะแล้วเดินตรงมาที่แคชเชียร์ ตนเองจึงสอบถามไปยังลูกค้าว่าได้ใส่เงินมาจริงมั้ย แต่ลูกค้ากลับบอกให้ดูกล้องวงจรปิดได้เลย ตนจึงถามกลับไปยังลูกค้าว่าถ้าฉันดูกล้องแล้วคุณไม่ได้ใส่เงินมาละ ฉันจะแจ้งตำรวจนะ เขาก็พร้อมแล้วท้าให้เปิดกล้อง แต่การที่จะดูภาพจากกล้องวงจรปิดนั้นต้องตามช่างมาเปิด เนื่องจากมันกล้องรุ่นเก่า ขณะเดียวกันเจ้าของร้านที่เป็นชาวต่างชาติได้เดินเข้าร้านมาพอดี จึงมีการแลกเปลี่ยนแอปกันไว้ก่อน โดยต้องรอช่างมาเปิดฮาร์ดดิส ซึ่งจะส่งคลิปไปยืนยันให้ลูกค้าภายหลัง จากนั้นเจ้าของร้านได้ส่งคลิปไปให้ลูกค้าดังกล่าวพร้อมกับให้กลับมาชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น มิฉะนั้นจะกลายเป็นเรื่องใหญ่



วันรุ่งขึ้นพวกเขาก็กลับมาพร้อมกับขอโทษ ซึ่งเขาไม่คิดว่ายังมีกล้องอีก 1 ตัวที่อยู่อีกมุมหนึ่งของโต๊ะอาหาร คิดว่ามีกล้องที่เขาเห็นเพียงมุมเดียว แต่เมื่อเห็นคลิปจากกล้องวงจรปิดก็ตกใจกับพฤติกรรมของตัวเอง โดยเจ้าของร้านได้อัดคลิปให้เขาขอโทษไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งไม่ได้มีการแจ้งความแต่อย่างใด