อาชญากรรม

"ทนายตั้ม" ประกาศ! เตรียมแจ้งความเอาผิด “บิ๊ก ต. ภรรยา และ บัญชีม้า” หลังพบหลักฐานฟอกเงินชัดเจน

โดย kanyapak_w

30 มี.ค. 2567

357 views

"ทนายตั้ม" ประกาศ! เตรียมแจ้งความเอาผิด “บิ๊ก ต. ภรรยา และ บัญชีม้า” หลังพบหลักฐานฟอกเงินชัดเจน ไม่เกี่ยวกับบิ๊กเต่าตรวจสอบเส้นเงิน อ้างนอนไม่หลับทำเรื่องใหญ่ มีคนสะกดรอยตาม



10.00 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้มเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมกับภรรยา เดินทางมาทำบุญ ที่วัดแห่งหนึ่ง จ.นนทบุรี ซึ่งวัดนี้เป็นหนึ่งในวัด ที่ทนายตั้มได้ออกมาแถลงว่าพบเส้นทางการเงินจากบัญชีม้า โอนไปร่วมทำบุญทอดกฐิน สร้างวิหารที่วัดแห่งนี้ ซึ่งปรากฏชื่อพลตำรวจเอกคนหนึ่งชื่อย่อ ต. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีทำบุญทอดกฐินดังกล่าว รวม 700,000 บาท ซึ่งบัญชีดังกล่าวนั้น พบว่าถูกโอนเงินเข้ามาวันที่ 12 พ.ย.66




โดยบรรยากาศที่วัดช่วงเช้า ค่อนข้างเงียบ มีลูกศิษย์มาทำบุญบ้างแต่ยังคงน้อย ซึ่งพระลูกวัดระบุว่าวันนี้ พระครูวินัยธรเจริญ ทนฺตจิตฺโต,ดร. เจ้าอาวาสวัด ไม่ได้อยู่ที่วัด เนื่องจากต้องไปบรรยายในงานสัมนาที่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อยุธยา โดยเดินทางออกไปตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว



ซึ่งเมื่อทนายตั้มมาถึง ได้เข้าไปกราบไหว้หลวงพ่อทันใจสมปรารถนา และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด ก่อนเดินไปดู วิหารที่กำลังก่อสร้างอยู่ จากนั้นได้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนโดยระบุว่า วันนี้มาทำบุญและตั้งใจมาบริจาคเงินเพื่อสร้างเจดีย์ทุเรียน ซึ่งเป็นเงินตัวเองที่ได้มาจากการทำงาน เป็นเงินบริสุทธ์ จำนวน 5,000 บาท พร้อมขอพรให้ครอบครัวมีแต่ความสุขความเจริญ รู้สึกทำแล้วจิตใจผ่องแผ้ว



ส่วนเหตุผลที่เลือกมาวัดนี้ เพราะได้รับข้อมูลว่ามีบุคคลที่นำเงินไม่บริสุทธิ์ มาถวายที่วัดแห่งนี้เพื่อที่จะให้สร้างวิหาร ซึ่งวัดคงไม่ทราบ ว่าเงินที่มาทำบุญนั้นมาจากที่ใด แต่คนที่ทำบุญซึ่งนำเงินมาจากการรับส่วยหรือขูดรีดประชาชน ก็คงจะได้บุญน้อยกว่า



ทนายตั้มบอกอีกว่า ล่าสุด ได้ตรวจพบพบเส้นเงินสองเส้น ที่โอนจากบัญชีม้าของเว็บพนันเข้ามาทำบุญที่วัด โดยบัญชีแรกคือบัญชีของนายคชาชาญ 700,000 บาท และ บัญชีของนายณัฐพงษ์ 100,000 บาท ซึ่งตรงกับข้อมูลที่วัดได้ทำการโพสต์ ชี้แจงยอดเงิน ทั้งสองยอด ว่าพลตำรวจเอก ต.ได้ร่วมทำบุญ ซึ่งเป็นหลักฐานใหม่ที่ตนเองเจอ และเตรียมที่จะ นำหลักฐานดังกล่าวไปแจ้งความที่สน. เตาปูน เวลา 10.00 น. วันจันทร์ที่จะถึงนี้ ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน จำนวนสี่คน ประกอบด้วย พลเอก ต. ภรรยา นายณัฐพงศ์ และนายคชาชาญ เพราะบัญชีม้าสองคนนี้ยังไม่เคยถูกดำเนินคดีมาก่อน



ซึ่งที่จะไปแจ้งความนั้น เป็นคนละคดีกับที่ได้ยื่นให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตรวจสอบ โดยยืนยันว่าตอนนี้ตนมีหลักฐานพร้อมแล้ว มั่นใจว่าสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองรอหลักฐานจากการส่งบัญชีวัดไปแย้งสำนักงานพระพุทธศาสนา แต่ปรากฎว่าวัดไม่ได้ส่งบัญชีไป ดังนั้นจึงขอให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาเข้ามาตรวจสอบการโอนเงินทำบุญนี้ด้วย



ทนายตั้มยังอธิบายเส้นทางการเงิน ขั้นตอนการโอนจากบัญชีม้าของเว็บพนันออนไลน์ กว่าจะไปถึงภรรยาของ พล.ต.อ. ต.  โอนกัน4-5รอบ โดยเริ่มจาก บัญชีพิมวิไล โอนไปให้คชาชาญ จากนั้น คชาชาญโอนไปให้ณัฐพงศ์ และณัฐพงศ์ โอนวนอยู่บัญชีม้าที่ตนเองถืออยู่ ก่อนจะโอนไปให้ภรรยาของ พล.ต.อ. ต. โดยเป็นการโอนเงินช่วงปี 2562- ต.ค.2566 ซึ่งในช่วงเวลานี้ จากหลักฐานที่ตนเองพบ 38เส้นทางการเงินนั้น มีบัญชีณัฐพงศ์โอนตรงไปบัญชีภรรยาพล.ต.อ. 2บัญชี




ส่วนกรณีที่ตนได้โพสต์ Facebook เมื่อคืนนี้ถึงหลักฐานใหม่นั้น เป็นเส้นเงินของภรรยาของพลตำรวจเอก ที่ได้รับโอนจากบัญชีมาทั้งหมด38 เส้นทาง ซึ่งได้มีการตรวจสอบย้อนหลังไปสามปีที่ผ่านมา ช่วงที่พลตำรวจเอกดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ปี2562) ขณะนั้นได้มีบัญชีม้า ของนายณัฐพงศ์ โอนเงินให้กับภรรยา เดือนละหลักแสนบาท แต่เมื่อพลตำรวจเอกมาดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยผบ. ตรและรองผบ. ตร พบว่ามีบัญชีม้าได้โอนให้กับภรรยาพลตำรวจเอกเดือนละ 59,000 บาท จนถึงเมื่อเดือนตุลาคมปี 2566



ส่วนกรณีที่ ทีมทนายความของพลตำรวจเอก ะบุว่าหลักฐานดังกล่าวของทนายตั้มนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทนายตั้มระบุ ว่า หากชอบด้วยกฎหมายจริงก็ให้ไปฟ้องร้องดำเนินคดี แต่ที่ยังอยู่เฉย ก็เพราะเป็นของจริง และมองว่าที่ออกมาผู้นั้นเป็นการดิสเครดิต



ซึ่งตนพร้อมจะเปิดหลักฐานทั้งในชั้นศาล และการแถลงข่าว



ส่วนที่ถูกมองว่าการที่ได้หลักฐานมานั้นมีส่วนรู้เห็นกับเจ้าหน้าที่ ทนายตั้มยืนยันว่า หากพบว่าใครไปดูทะเบียนราษฎร์ของผบ.ตร. ก็ให้ดำเนินคดีไปได้เลยแต่ยืนยันว่าไม่ใช่คนของตัวเองอย่างแน่นอน



ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนาพงษ์ ทีมทนายความของผบ.ตร. กล่าวอ้างถึงการฟ้องร้อง ระหว่างตนไปมานั้น ยืนยันว่า นายอัจฉริยะพูดไม่ตรงกับความจริง



ทนายตั้มระบุต่อว่า สำหรับการเดินทางมาที่วัดวันนี้ตนก็ตั้งใจ นอกจากจะทำบุญแล้ว ก็อยากจะมาสอบถามข้อมูล กับเจ้าอาวาสและบุคคลที่เกี่ยวข้อง แต่ทราบว่าท่านเจ้าอาวาสติดกิจนิมนต์นอกวัด ส่วนคนอื่นก็ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ จึงมองว่าคงถูกสั่งมา อย่าให้ข้อมูล ซึ่งตนเข้าใจว่าขณะนี้ทางสำนักพระพุทธศาสนาก็กำลังที่จะมาตรวจสอบ เส้นทางการเงินด้วยเช่นกัน ในฐานะที่กำกับดูแลวัด




ทั้งนี้ทนายตั้ม ยืนยันว่าหลักฐานที่รวบรวมได้ทั้งหมด เป็นของจริง ซึ่งก็จะเดินทางไปแจ้งความเอาผิด ในวันจันทร์นี้อย่างแน่นอน โดยจะต้องดันให้สุด เพราะอีกหนึ่งก็คือต้องพิสูจน์ตัวเอง เนื่องจากครั้งนี้ออกมาทำเพื่อประชาชน ไม่ได้ต้องการต่อรองและตบทรัพย์ ซึ่งขณะนี้ยืนยันว่าไม่มีใครติดต่อมาเพื่อที่จะขอให้ยุติเรื่องดังกล่าว แต่ยอมรับว่าทุกวันนี้ตนนอนไม่ค่อยหลับอยู่ด้วยความหวาดระแวง แม้กระทั่งเช้านี้ก่อนที่จะมาทำบุญก็ถูก รถจักรยานยนต์ปริศนาขับตาม แต่ตนก็ขับหนีทัน




แท็กที่เกี่ยวข้อง  อาชญากรรม ,ทนายตั้ม ,ฟอกเงิน

คุณอาจสนใจ

Related News