สังคม

‘บิ๊กต่อ’ ไม่หวั่นแม้ไม่ได้กลับ สตช.ลั่นยังเป็น ผบ.ตร.คนที่ 14 – ‘บิ๊กโจ๊ก’ ไม่กังวลโดนเด้งรอบ 2 บอกอยู่ไหนก็ทำงานได้

โดย petchpawee_k

21 มี.ค. 2567

158 views

นายกรัฐมนตรี เผย เด้งบิ๊กต่อ- บิ๊กโจ๊ก, ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี 60 วัน เปิดทางสอบไม่ใช่การลงโทษ หากไม่ผิด พร้อมคืนตำแหน่งให้ ยืนยันทั้งสองคนเป็นยังผู้บริสุทธิ์ รับไม่สบายใจแต่ต้องให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าต่อ 


วานนี้ ( 20 มี.ค.67) เวลา 14.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการลงนามคําสั่งให้พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุวิมล ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ และพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ มาช่วยราชการที่สํานักนายกรัฐมนตรี ว่า อย่างที่สื่อทราบอยู่แล้ว มีประเด็นเรื่องของการปฎิบัติหน้าที่ราชการเรื่องคดีความทั้งหลาย ต้องให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปได้ด้วยความเป็นธรรม ไม่มีการแทรกแซง ข้อเท็จจริง ทั้งสองยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ แต่เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปด้วยความสะดวก ดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่ ไม่มีการก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม จึงขอโอนให้ทั้งสอง มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีชั่วคราว เป็นเวลา 60 วัน ระหว่างที่ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง


ยืนยันเป็นการมาช่วยราชการชั่วคราว ไม่ใช่การลงโทษ ทุกอย่าง ขั้นตอน เงินเดือนยังเหมือนเดิมทุกอย่าง วันนี้มีการออกหนังสือ 2 ฉบับโดยให้พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ และพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์มาช่วยราชการ และแต่งตั้งพลตำรวจกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และในช่วงเย็นวันนี้จะมีการออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการ 3 คน โดยเป็นตำรวจ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย


นายกรัฐมนตรี บอกด้วยว่า ได้แจ้งกับทั้งสองคนแล้ว เรื่องมาช่วยราชการและควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรในช่วงที่ถูกโอนมาปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี  ส่วนทั้งสองคนได้ได้ชี้แจงกลับอย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้รับปากว่าจะพยายามไม่พูดอีกแล้ว ให้เป็นไปกับตามกระบวนการกฎหมาย สืบทราบความจริง ให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปข้างหน้าได้อย่างไม่มีการแทรกแซง โดยไม่ให้ลูกน้องทั้งสองฝ่ายออกมาพูดอะไรอีกแล้ว


เมื่อถามว่ากรอบระยะเวลา 60 วันได้สั่งห้ามไม่ให้สัมภาษณ์ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ท่านเป็นผู้ใหญ่พอแล้ว รู้ว่าควรจะพูดอะไรไม่พูดอะไร ก่อนจะบอกว่าท่านได้แถลงข่าวไปแล้ว ก็เป็นไปตามที่แถลงข่าวนั่นแหละ ตอนนี้ให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปได้อย่าให้มีการก้าวก่าย หรือล็อบบี้กันเกิดขึ้น

ส่วนในกำหนดระยะเวลาที่ตรวจสอบทุกอย่างจะเรียบร้อยไม่มีอะไรเกิดขึ้นใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นหน้าที่ ที่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ของรัฐธรรมนูญทุกประการ ไม่ได้สบายใจที่ต้องทำแบบนี้ แต่เป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ เพื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินไปข้างหน้าได้ มีหน้าที่หลักในการดูแลประชาชน เชื่อว่าทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งใน 60 วันตนจะไม่ไปชี้นำคณะกรรมการตรวจสอบ ถ้าผลออกมาว่ากระบวนการยุติธรรมต้องใช้เวลามากกว่า 2 เดือน แต่พิสูจน์ได้ว่ากระบวนการยุติธรรมสามารถเดินไปได้ โดยที่ไม่ต้องมีการก้าวก่ายหรือแทรกแซงก็อาจจะพิจารณาโอนย้ายกลับก็ได้ ขอเวลาให้คณะทำงานด้วย
---------------------------------

“บิ๊กต่อ” น้อมรับคำสั่งนายกฯ เผยปมถูกย้ายมาจากบริหารความขัดแย้งในองค์กรไม่ได้ ยืนยันไม่กังวลไม่กังวลได้กลับมา สตช. ก่อนเกษียณหรือไม่ เพราะทุกคนล้วนมาเพื่อจาก ลั่น แม้ไม่ได้กลับแต่ยังเป็นผบ.ตร. คนที่ 14 เช่นเดิม ด้าน "บิ๊กโจ๊ก"ยังยิ้มได้ น้อมรับคำสั่ง ไม่ทราบมูลเหตุปมย้าย ยืนยันไม่กังวลใจ หัวเราะหลังถูกถามฉายาแมว 9 ชีวิต เหลือกี่ชีวิต ก่อนตอบ “ อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้”


พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เปิดใจภายหลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเซ็นคำสั่งให้เข้าไปช่วยราชการที่ สำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ตอนกลับเข้ามาสำนักงานตำรวจแห่งชาติตนเห็นหนังสือคำสั่งแล้ว ซึ่งตนเองก็ยอมรับตามคำสั่งที่นายกฯสั่งการ เพราะนายกเป็นผู้บริหารส่วนตนก็รับตามคำสั่งเท่านั้นเอง ซึ่งมีผลแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ (20 มี.ค.67)  และวันนี้ (21 มี.ค.67) ก็จะไปรายงานตัวและทำงานที่สำนักนายกฯ

เมื่อถามว่าช่วงเช้าที่ผ่านมาตอนที่ไปคุยกับนายกฯมีการส่งสัญญาณอะไรเชิงลบหรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า ไม่มี เนื่องจากตนไม่เคยมองทางลบ ซึ่งตนรู้ตั้งแต่มาถึง สตช.แล้ว เนื่องจากนายกฯบอกเองว่าเดี๋ยวจะมีคำสั่งและเมื่อรู้แล้วก็รับทราบและไม่ได้มีความทุกข์เลย ไม่ได้เดือนร้อน

“ตนเป็น ผบ.ตร. ก็คือเป็น ผบ.ตร.”  ถ้าท่านเห็นว่าตนบริหารงานไม่ผ่าน เนื่องจากได้อ่านในคำสั่งคร่าวๆ เห็นเบื้องต้นว่า เนื่องจากมีเหตุขัดแย้งกันเยอะ ไม่สามารถบริหารได้และเป็นระดับสูง จึงมีคำสั่งให้ไปที่สำนักนายกรัฐมนตรีโดยให้รักษาการ ผบ.ตร. คนที่ไม่มีส่วนได้เสียเข้ามาดู ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาอะไร ทำตามคำสั่งนายกฯอย่างเดียว โดยเนื้อหานอกจากเรื่องการบริหารความขัดแย้งแล้ว ยังมีเรื่องของการสอบสวนให้เป็นความยุติธรรมด้วย ก่อนจะย้ำอีกครั้งว่า “ยังเป็น ผบ.ตร.อยู่ครับ”

ส่วนกรณีที่มีการบอกว่าตนและบิ๊กโจ๊กมีปัญหา ยืนยันมาตั้งแต่แรกว่าไม่มีปัญหาความขัดแย้งกันเลย ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ก่อนหน้านี้

เมื่อถามอีกว่าการย้ายครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เลยหรือไม่ที่ย้าย ผบ.ตร. และ รอง ผบ.ตร. พร้อมกัน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ บอกว่า สบายใจมาก เพราะถือว่าจะได้พักสมอง  เมื่อตนเบื่อและมองภาพของความขัดแย้ง แต่ยืนยันเราอยู่กันแบบพี่น้อง และได้พูดเสมอว่าถ้าบริหารงานไม่ผ่านก็ต้องพิจารณาตัวเอง


เมื่อถามว่าบิ๊กโจ๊กเคยประเด็นมาตลอด แล้วหวยมาออกในยุคของบิ๊กต่อจนโดนย้ายไปด้วยหรือไม่ พล.ต. อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า ตนเป็นผู้บังคับบัญชา แล้วไม่สามารถบริหารความขัดแย้งในองค์กรได้ ต้องพิจารณาตัวเอง ซึ่งนายกฯเองก็มองตรงนี้ คือ ภาพองค์กรเสียหายมาก ก่อนจะกล่าวถึงคำที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า “เป็นผู้นำหน่วย เหมือนกระโถน กระโถนคนก็โยนของ โยนสิ่งสกปรกมาใส่ ก็ต้องเปื้อนบ้าง แต่ในขณะที่กระโถนเปื้อน ที่สำคัญคือทำให้บ้านเรากำลังสะอาด”


พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยอมรับว่าครั้งนี้ครั้งนี้ถือเป็นการจบด้วยความสงบสุขที่แท้จริง และเป็นการบอกสังคมให้รู้เลยว่าไม่ได้ขัดแย้งกันเพียงแต่ไม่ได้เปิดใจคุยกัน แต่เราอยู่ด้วยกันแบบพี่น้องตลอดมา

เมื่อถามว่าจะได้กลับมาที่ สตช. ก่อนเกษียณ หรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ บอกว่า แล้วแต่นายกฯ ตนตอบไม่ได้ พร้อมยืนยันว่าไม่กังวลว่าจะได้กลับมาหรือไม่เพราะคนเรามาเพื่อจากอยู่แล้ว ไม่ว่าจะกลับหรือไม่กลับตนก็เป็น ผบ.ตร. คนที่ 14


ด้านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีถูกย้ายไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นเวลา 60 วัน ว่า ตนได้รับทราบคำสั่งดังกล่าวแล้ว และคาดว่าเป็นเรื่องจริง เนื่องจากเห็นกระแสข่าวจากหลายแห่ง และทราบว่าโฆษกรัฐบาลได้แถลงข่าวถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้ ยังไม่เห็นเนื้อหาว่าให้ไปปฏิบัติหน้าที่อะไร คาดว่าจะมีความชัดเจนในเย็นวันนี้ แต่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา เมื่อผู้บังคับบัญชามีคำสั่งมาก็พร้อมปฏิบัติหน้าที่


ส่วนมูลเหตุคำสั่งย้ายนั้น ยังไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลใด ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง แต่จะเกิดจากความขัดแย้งระหว่างตนเองกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือไม่นั้น ไม่ขอยืนยัน เนื่องจากการประชุมร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และตนเอง เมื่อช่วงเช้าที่ก็ไม่เห็นสัญญาณบ่งชี้ใดๆ นายกรัฐมนตรีกำชับเพียงเรื่องการทำงาน ขณะที่การพูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเมื่อคืนวานนี้ก็เป็นไปโดยปกติ


ส่วนการสั่งทั้งย้ายคู่จะเป็นการมองว่าเป็นคู่ขัดแย้งหรือไม่นั้น ผู้บัญชาการแห่งชาติก็ได้แถลงแล้ว และตั้งแต่มีคำสั่งมาก็ยังไม่ได้คุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะติดประชุมมาโดยตลอด


ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยอมรับว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี แต่จะได้กลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้บังคับบัญชา พร้อมยืนยันว่า การเดินทางไป ทำภารกิจที่จังหวัดเชียงใหม่ล้มเหลว เพราะตนเองไปทำงาน และงานก็สำเร็จเรียบร้อยด้วยดี และย้ำว่าไม่รู้สึกโดดเดี่ยวที่ถูกโยกย้าย เพราะตนเองเคยไปมาแล้ว และแม้ว่าอยู่ที่ไหนตัวเองก็ต้องตั้งใจทำงาน ไม่กังวลใจ พร้อมกับทุกสถานการณ์


นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ว่า ตามฉายาแมวเก้าชีวิตนั้น ตอนนี้เหลือกี่ชีวิต  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หัวเราะ และตอบเพียงว่า ”ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวทำหน้าที่ให้ดี“


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/LS4rnuzlfes



คุณอาจสนใจ

Related News