วัยรุ่นสหรัฐฯ ลั่น 'ไม่แฟร์' หลังสภาคองเกรสเตรียมโหวตร่างกฎหมายบังคับติ๊กต็อกขายกิจการให้สหรัฐฯ หรือจะโดนแบน

บรรดาวัยรุ่นสหรัฐฯ ต่างแสดงความวิตกกังวลกันอย่างมาก ต่อกรณีที่สภาคองเกรสสหรัฐฯ เตรียมที่จะโหวตในวันนี้ (13 มี.ค. 67) ในร่างกฎหมายที่จะบีบให้บริษัท ไบต์แดนซ์ เจ้าของแอปพลิเคชั่น ติ๊กต็อก ขายแอปพลิเคชั่นนี้ให้กับสหรัฐฯ หรือว่าจะเลือกที่ถูกแบนในสหรัฐฯ

รอยเตอร์ส สัมภาษณ์บรรดาวัยรุ่นสหรัฐฯ ที่ต่างเห็นว่า เป็นเรื่องที่ไม่แฟร์เอาเสียเลย อย่างเช่น อลิซเบธ เวย์ไบรท์ วัย 20 ปี กล่าวว่า “ฉันคิดว่ามันบ้า สิ่งที่ฉันได้เห็นจากการการให้การของซีอีโอติ๊กต็อกนั้น คนที่มีหน้ารับผิดชอบเรื่องนี้ ไม่ควรจะยุ่งกับเรื่องนี้ด้วยซ้ำ มีการนำเรื่องเชื้อชาติเข้ามาโจมตีซีอีโอของติ๊กต็อก น่าขยะแขยงมาก"

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อหลายเดือนก่อนที่ ซูซีจิว ซีอีโอติ๊กต็อก ได้ขึ้นให้การต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯ นั้น ได้มีการรุมถามอย่างดุเดือด ถึงสัญชาติของซีอีโอติ๊กต็อก และพยายามที่จะโยงว่า เขาเป็นคนจีน ทั้งที่เขาเป็นคนสิงคโปร์

อลิซเบธ ยังกล่าวว่า “ฉันสนุกกับเนื้อหา ฉันได้รับข่าวสารส่วนใหญ่ผ่านทางติ๊กต็อก”

ขณะที่ เบรนเนน แคร์นส์ วัย 20 ปี กล่าวว่า “ผมคิดว่ามันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย"

ทั้งนี้ สภาคองเกรสสหรัฐฯ กำลังเดินหน้าร่างกฎหมายที่กำหนดให้ บริษัท ไบต์แดนซ์ ต้องขายกิจการ ติ๊กต็อก ในสหรัฐฯ หรือเผชิญหน้ากับการแบน

โดย มีรายงานว่า จะกำหนดให้มีการลงคะแนนเสียงในร่างกฎหมายดังกล่าว ในวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ

ขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า แม้เขายังคงเชื่อว่าติ๊กต็อก ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ แต่เจ้าตัวก็ไม่เห็นด้วยกับการแบนแอปยอดนิยมนี้ เพราะจะถือว่าเป็นการช่วยเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการค้ากับติ๊กต็อกอย่างออกนอกหน้ามาก

ทรัมป์กล่าวว่า “ติ๊กต็อก ก็มีสิ่งดี ๆ มากมาย และที่ไม่ดีก็มีมากเช่นกัน แต่สิ่งที่ผมไม่ชอบก็คือ ถ้าไม่มี ติ๊กต็อก คุณจะทำให้เฟซบุ๊ก ใหญ่ขึ้น

และผมคิดว่า เฟซบุ๊ก เป็นศัตรูของผู้คน และสื่อ จำนวนมาก และผมคิดว่าเฟซบุ๊ก จะส่งผลเสียต่อประเทศของเรามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงการเลือกตั้ง”

-------------