อธิบดีอัยการคดีพิเศษ ยื่นยึดทรัพย์คดีหมูเถื่อน 2 สำนวน รวมกว่า 100 ล้านบาท

คดีหมูเถื่อน ที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไปแล้วหลายสำนวน และเมื่อสัปดาห์ก่อนทยอยออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อนสำแดงเป็นเท็จไปแล้ว 5 ราย และมีบริษัทที่เกี่ยวข้อง ล่าสุดวันนี้ อธิบดีอัยการคดีพิเศษ ได้ยื่นศาล ให้ยึดทรัพย์คดีหมูเถื่อนเเล้ว 2 สำนวน รวมกว่า 100 ล้านบาท



นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ได้แถลงความคืบหน้าของคดีกลุ่มขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ หรือสุกร เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ที่ทางปปง. ได้ส่งสำนวนมา ยังสำนักงานคดีพิเศษ 2 สำนวน



โดยสำนวนแรก เมื่อวันที่ 11กุมภาพันธุ์ ที่ผ่านมา ระบุ พฤติการณ์ คือ กลุ่มผู้กระทำความผิด ได้ลักลอบนำเข้าซึ่งซากสุกรเข้ามาในราชอาณาจักร สำแดงสินค้า ไม่เป็นไปตามความเป็นจริง ที่จะต้องชำระภาษี จากนั้นให้ตัวแทนนำสินค้าออกจากท่าเรือแหลมฉบังไปเก็บยังห้องเย็นเพื่อที่จะรอจำหน่าย หรือจัดเก็บโดยในการนำซากสุกรดังกล่าวไปจำหน่ายจะใช้วิธีการสวมสิทธิโควต้าสุกรภายในประเทศ



ต่อมาปปง. ได้มีการยึดทรัพย์สินในสำนวนแรก24 รายการ เป็นเงิน 53 ล้านบาท อัยการสำนักงานคดีพิเศษ ได้ตั้งคณะทำงาน พิจารณาพยานหลักฐานมีมูลเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ศุลกากรดังกล่าวจริง เห็นควรยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ริบทรัพย์สิน ที่ยึดอายัดไว้ชั่วคราวดังกล่าว ตกเป็นของแผ่นดิน โดยศาลแพ่งได้นัดไต่สวนคดีในวันที่ 27 พฤษภาคมที่จะถึงนี้



สำนวนที่ 2 ส่งมาวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นสำนวนที่มูลความผิดเป็นผู้กระทำความผิดรายเดียวกัน พฤติการณ์เดียวกันทั้งหมด มีทรัพย์สินที่ยึดอายัดไว้ชั่วคราวในคดีหลังมีทั้งหมด 26 รายการ รวมมูลค่า 43 ล้านบาทเศษคณะทำงานได้พิจารณาพยานหลักฐาน และมีมูลเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิด ศาลแพ่งได้นัดไต่สวนคดีดังกล่าวในวันที่ 1 กรกฎาคม 2567



ซึ่งทรัพย์จากทั้งสองสำนวนรวมกันเเล้วจะเป็นเงินเกือบ100 ล้านบาท ในส่วนคดีอาญาที่เกี่ยวกับซากสุกรขณะนี้ยังไม่มีส่งมายังอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เข้าใจว่ายังอยู่ระหว่างการสอบสวนของดีเอสไอ ส่วนคดีอื่นที่ส่งมา เป็นคดีเกี่ยวกับซากไก่ ที่มีการสวมสิทธิ์เป็นตีนไก่ส่งไปประเทศจีน