บุกช่วยสาว 16 หลังถูกพี่ชายแท้ๆ ฉุดให้ขึ้นรถ จะพาไปขายตัวแลกยา

วันนี้ (6 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ว่าที่ร้อยตรี ดร.ศิรพงศ์ โภคินวงศ์หิรัญ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับการประสานจากผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ตำบลหนามแดง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ว่ามี น.ส.เมย์ นามสมมุติ อายุ 16 ปี ว่าร้องขอความช่วยเหลือ ว่าถูกพี่ชายแท้ๆ คือนายวันใหม่ หรือใหม่ คำป้อง อายุ 28 ปี ฉุดกระชากขึ้นรถจักรยานยนต์เพื่อพา น.ส.เมย์ ไปขายบริการแลกกับยาบ้า ทำให้ น.ส.เมย์ ต้องวิ่งหนีออกมาจากบ้าน ก่อนผู้ใหญ่บ้านจะพา น.ส.เมย์ ไปที่ อบต.คลองนครเนื่องเขต จากนั้นว่าที่ร้อยตรี ดร.ศิรพงศ์ จึงประสาน พ.ต.ท.อรรถณพ จันทร์ภักดี สวป.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เดินทางเข้าตรวจสอบที่บ้านพักหลังดังกล่าว ลักษณะปลูกเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ติดกับบ้านไม้ 2 ชั้นยกพื้นลอย ในพื้นที่ ม.7 ต.หนามแดง อ.เมือง ฉะเชิงเทรา

ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง พบนายใหม่ กำลังนอนหลับอยู่กับลูกชาย ในห้องพักโดยในห้องพบยาเส้น และขวดน้ำกระท่อมวางอยู่ เจ้าหน้าที่จึงทำการปลุกขึ้นมาสอบถาม พร้อมทำการตรวจปัสสาวะ แต่ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย

นายใหม่เปิดเผยว่า ตนเองไม่ได้ฉุดกระชากน้องสาว ส่วนสาเหตุที่ชวนไปทำงานนั้น เพราะอยู่บ้านเฉยๆ ไม่มีกิน จะชวนน้องไปทำงานโรงงานผลิตยาฆ่าหญ้า ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก

ขณะที่ น.ส.เมย์ นามสมมุติ เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาแล้วถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกผ่านมาประมาณ 1 เดือนที่แล้ว ขณะที่แม่ไม่อยู่บ้าน พี่ชายได้ชวนตนไปทำงาน ตนเองรู้พฤติกรรมของพี่ชาย ว่าติดยาเสพติดและยังคงต้องคุมประพฤติรายการตัวกับเจ้าหน้าที่ จึงตอบปฏิเสธไป เพราะรู้ว่างานที่พี่ชายชวนไปทำ คงไม่ใช่งานที่ดีแน่ หลังจากวันนั้นจึงเล่าเรื่องนี้ให้พี่สาวฟัง พี่สาวบอกว่าให้ตนเองระวังตัว เพราะเกรงว่าพี่ชาย จะนำตนเองไปขายตัวเพื่อแลกกับยาเสพติด ตนเองจึงระมัดระวังตัว ที่บ้านไม่มีห้องนอนแยก ตนเองนอนกับแม่ ที่ป่วยเป็นผู้พิการด้านสมอง หลงๆลืมๆ จากอุบัติเหตุทางถนนมาก่อนหน้านี้ จนมาถึงวันนี้พี่สาวได้ออกไปทำงาน ส่วนแม่ไม่อยู่บ้าน นายใหม่พี่ชายได้เดินมาหาตนที่บ้าน และชักชวนด้วยคำพูดเดิมว่าจะชวนไปทำงาน ตนเองจึงตอบปฏิเสธว่าไม่ไป แต่นายใหม่ พยายามฉุดกระชากตนเองให้ขึ้นรถจักรยานยนต์ เพี่อจะพาออกไปข้างนอก ตนเองเห็นท่าไม่มีจึงตอบตกลงว่าจะไปทำงานกับพี่ชาย ทำให้พี่ชายปล่อยตัว แล้วเดินกลับไปที่บ้าน เพื่อใส่เสื้อผ้าและหยิบกุญแจรถจักรยานยนต์ ตนเองจึงอาศัยจังหวะนั้นรีบวิ่งออกมา ขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้าน ให้พาไปหาผู้ใหญ่บ้าน เพราะความกลัวว่าพี่ชายจะพาตนไปขายตัวเพื่อแลกกับยาบ้า

น.ส.จันทร์วดี ดวงจันทร์ อายุ 35 ปี น้าสาวของ น.ส.เมย์ เปิดเผยว่า ตนเองทราบพฤติกรรมของหลานชายมาสักพักแล้ว หลานชายติดยาเสพติดและก็เชื่อว่า การชวนให้หลานสาวไปทำงานคือการไปขายบริการ เพื่อแลกกับยา จึงตักเตือนให้หลานสาวระมัดระวังตัว ที่ผ่านมาหลานสาวก็จะหนีมาพักอยู่ที่บ้านของตนบ้าง แต่พี่ชายและแม่ของหลานสาวก็มักจะมาตามให้กลับบ้านไป ตนเองก็ไม่อยากให้หลานสาวมีปัญหากับแม่และพี่ชาย จึงให้กลับบ้านไปแต่ก็ให้ระมัดระวังตัว จนมาเกิดเรื่องซ้ำวันนี้ขึ้นอีก ก็คงต้องให้หลานสาวมาอยู่ด้วยแบบถาวร ไม่ปล่อยให้กลับไปอยู่ที่บ้านหลังเดิมอีก โดยมีเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็ก มาช่วยประสานเรื่องดังกล่าวให้

ว่าที่ร้อยตรี ดร.ศิรพงศ์ โภคินวงศ์หิรัญ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เบื้องต้นหลังจากการประสานขอความช่วยเหลือ ได้เข้ามาตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีฐานะยากจน มีเพียงพี่สาวของ น.ส.เมย์ ทำงานเพียงคนเดียว ส่วนแม่ก็เป็นผู้พิการทางด้านสมอง หลงลืม พี่ชายมีพฤติกรรมเสพยาบ้าและยังถูกคุมประพฤติอยู่ ส่วนน.ส.เมย์ ก็ไม่ได้เรียนหนังสือ ตอนนี้จะนำเงินสงเคราะห์ฉุกเฉินให้ครอบครัวนี้ก่อน พร้อมมอบถุงยังชีพ และให้ น.ส.เมย์ เข้าเรียน กศน.ระบบการศึกษา และพาตัวออกมาจากบ้านหลังนี้ ซึ่งน.ส.เมย์ ประสงค์ขอไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านของน้าสาวก่อน โดยการทำการตกลงกับแม่ของน.ส.เมย์ และหลังจากนี้ก็จะมาติดตามดูและฟื้นฟูครอบครัวให้ และติดตามตัวของพี่ชายว่าจะไปรายงานตัวคุมประพฤติตรงเวลาไหม และยังมีการเสพยาหรือไม่ หากมีการเสพยาเราก็จะดำเนินการตามกฏหมายต่อไป ซึ่งหลังจากวันนี้หากพี่ชายยังตามไปคุกคาม น.ส.เมย์ ที่บ้านน้า แล้วน้าสาว คุมสถานการณ์เอาไว้ไม่ไหว ทางบ้านพักเด็กก็จะเข้าไป นำตัว น.ส.เมย์ ออกมาคุ้มครองที่บ้านพักเด็กต่อไป