‘แม่-พ่อเลี้ยง’ ยัน ไม่ได้ทำร้ายลูกวัย 14 แจงหนังคนละม้วน ลูกป่วย-ทำร้ายตัวเอง

วันที่ 13 ก.พ. 67 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ หงษ์ แม่ของเด็กวัย 14, ตั้ง พ่อเลี้ยง, เพื่อนบ้าน, พ่อแท้ๆ ของเด็ก 14, กัน จอมพลัง ผู้ประสานงาน, ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกฯ และ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช มศว ถึงกรณีที่ พ่อแท้ๆ แจ้งจับ “พ่อเลี้ยง” ทำร้ายร่างกายลูกวัย 14

หงษ์ แม่ของเด็กวัย 14 ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ลูกเป็นผู้ป่วยออทิสซึม มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายตัวเอง ช่วงแรกๆ ลูกไม่มีพฤติกรรมแบบนี้ หลังๆ เขาเริ่มจุดไฟเผาตู้เสื้อผ้า ยืนประท้วงหน้าบ้านยันเช้าไม่ยอมเข้าบ้าน เคยเข้ารับการบำบัดทางจิตตอน 8 ขวบ ไม่ยอมกินยา เคยไปอยู่สถานพินิจ 2 แห่ง ก็หนีออกมา

“หูที่เป็นกะหล่ำ เขาดูในติ๊กต็อก ใช้เข็มแทงหูตัวเอง อีกข้างใช้ไม้จิ้มฟัน รอยหลอดระเบิดหู ฟันหน้าเลียนแบบจ๊ะทิงจา หนูเข้าใจว่าเป็นการ์ตูน แต่จริงๆ มันเป็นผู้ชายฟันหลอ เขาบอกเป็นไอดอลเขาเลย” แม่ของเด็ก กล่าว...

พร้อมเผยอีกว่า ตนดูแลลูกเท่าที่แม่คนหนึ่งจะดูแลได้ พยายามอ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาเด็กตลอด แต่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับ เนื่องจากลูกมีพฤติกรรมไม่ดีกับลูกสาวคนเล็ก

ขณะที่ นายตั้ง พ่อเลี้ยงของเด็กยืนยันว่า ตนรักเด็ก 14 เหมือนลูก ไม่เคยทำโทษรุนแรง และยอมรับว่า เด็กสูบบุหรี่ เด็กเคยยอมรับว่าเสพยาบ้า เด็กพูดเองว่าได้มาจากคนแถวบ้าน  นอกจากนี้ เด็กยังชอบหนีออกจากบ้านไปเดินเร่ร่อน ตามสนามหลวง เยาวราช หัวลำโพง มีที่ประจำเป็นเหมือนแลนด์มาร์กของเขาเอง เรื่องยาที่เด็กต้องกินเป็นประจำ เป็นยารักษาอาการทางจิตเวชนั้น เด็กมักจะไปคายทิ้งถ้าเราไม่ยืนเฝ้า หรือบางครั้งกลืนลงคอไปแล้ว ก็จะไปล้วงคออาเจียนออก

นายตั้งยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง หลังถูกกล่าวหาว่า ใช้เด็กไปขนยาเสพติด ขนกัญชา ยืนยันว่าไม่มี ตนไม่เคยยุ่งเรื่องยาเสพติดเลย เมื่อก่อนเคยมีประวัติคดีเกี่ยวกับทรัพย์ แต่ไม่เคยยุ่งยาเสพติดเลย

ขณะที่ หมอหมู พิจารณาจากประวัติการรักษา พบว่าเด็กมีภาวะออทิสซึม มีพฤติกรรมก้าวร้าว ยาที่ต้องกินตลอดก็เพื่อบรรเทาอาการต่างๆ สำหรับอาการออทิสซึม เป็นอาการที่เกิดจากกรรมพันธุ์ ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นมาตั้งแต่เกิด ส่วนบาดแผลตามร่างกาย หลายๆ จุด เป็นแผลที่เกิดจากการถูกกระทำซ้ำๆ มีหลายแผลที่อยู่ในจุดที่ทำตัวเองไม่ได้ คือจุดแผ่นหลัง ไม่มีทางทำร้ายตัวเองได้เลย แต่จุดอื่นๆ ก็เป็นไปได้ทั้งทำเอง และถูกคนอื่นทำ เรื่องนี้ต้องเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ว่าใครทำ

สิ่งหนึ่งที่ต้องย้ำคือ ไม่ว่าจะเป็นเด็กปกติ หรือเด็กพิเศษ ก็มีโอกาสพูดความจริง หรือพูดโกหกได้ทั้งหมด แต่ที่ติดค้างคาใจหมอหมูคือ บาดแผลหลายจุดเป็นแผลที่ต้องได้รับการรักษา แต่กลับไม่ได้รักษา ถูกปล่อยทิ้งไว้จนมันรุนแรง

ขณะที่ ย่าทวด อายุ 94 ปี บอกว่า เห็นเขากัดตัวเอง เหลนเล่าอีกว่าเคยเอาหินทุบหัวตัวเอง ตอนแรกเราสงสารเหลน ว่าเหลนป่วย ชอบทำร้ายตัวเอง ที่ย่าทวดเห็นกับตา คือเห็นเขานิ้วจิ้มลูกตาตัวเอง เห็นว่าเหลนถอนฟันตัวเอง ย่าก็พยายามเตือนว่าอย่าทำ เขาก็ยังทำ