สังคม

200 ชีวิตระทึก! ล่องแพค้างคืน ตื่นมาช็อก 'จอกแหน' ล้อมจนกลับไม่ได้ กลางเขื่อนกิ่วลม

โดย nattachat_c

12 ก.พ. 2567

28 views

วานนี้ (11 ก.พ. 67) มีรายงานว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาใช้บริการล่องแพท่องเที่ยว ของผู้ประกอบการท่องเที่ยวในเขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง ติดต่อขอความช่วยเหลือว่า แพท่องเที่ยวเกิดเหตุติดจอกแหนในเขื่อน ไม่สามารถเคลื่อนแพออกไปขึ้นฝั่งได้ โดยติดอยู่กลางน้ำในเขื่อนกิ่วลมมาตั้งแต่คืนวันเสาร์ที่ 10 ก.พ. จนถึงช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 11 ก.พ. ยังออกไปไม่ได้ รวม 4 ลำ มีนักท่องเที่ยวประมาณ 200 คน จึงติดต่อขอความช่วยเหลือ ท่ามกลางความตระหนกตกใจของนักท่องเที่ยวที่อยู่บนแพ


หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้น ทางผู้ประกอบการแพท่องเที่ยว ก็ระดมคนเข้ามารอช่วยเหลืออยู่ที่จุดบริการท่าแพสำเภาทอง ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ซึ่งอยู่อีกฝั่งจากท้ายเขื่อนกิ่วลม


โดยทราบว่า เป็นคณะนักท่องเที่ยวจาก จ.พะเยา และเชียงใหม่ เช่าขึ้นแพท่องเที่ยวตั้งแต่วันเสาร์ และมีกำหนดพักค้างแรมในแพหนึ่งคืน แต่ขณะช่วงขากลับ พบว่า จอกแหนล้อมเต็มพื้นที่เดินแพ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถออกมาได้ มีทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ ที่สำคัญอาหารที่เตรียมไปหมดแล้ว


ส่วนผู้ประกอบการจะนำเรือเล็ก หรือเรือยาว เข้าไปช่วยส่งอาหาร หรือทยอยนำคนออกมา ก็ไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะจุดนั้นจอกแหนหนาแน่นมาก ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการที่อยู่จุดบริการสำเภาทองทั้งหมด 13 ราย พยายามที่จะช่วยเหลือทุกวิถีทาง เพื่อช่วยนักท่องเที่ยวออกมาให้ได้ก่อน


นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังใช้โดรนบินขึ้นไปสำรวจสภาพพื้นที่มุมสูงล่าสุด ก็พบแพท่องเที่ยว 2 ลำสุดท้าย ติดอยู่ท่ามกลางจอกแหนที่อัดแน่นเต็มผิวน้ำ มีนักท่องเที่ยวพยายามโบกมือขอความช่วยเหลือ


ทางผู้ประกอบการแพท่องเที่ยว จึงติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้ามาช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั้งหมด  


โดยในเวลาประมาณ 13.00 น (11 ก.พ. 67)  นายชาญ จูดคง นายอำเภอแจ้ห่ม จ.ลำปาง พร้อมด้วยนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านสา และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ


พบว่า จุดที่แพติดห่างจากจุดบริการท่าแพสำเภาทอง ประมาณ 900 เมตร  จึงรายงานไปยัง นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และผู้ว่าฯ สั่งการให้ ปภ. และชลประทานจังหวัดลำปาง รีบเข้าช่วยเหลือ โดยการตัดเชือกที่กั้นแนวจอกแหน ในจุดที่แพติดคาอยู่ออก จึงทำให้แพ 2 ลำแรก สามารถเดินเครื่องยนต์และออกมาได้ จนส่งนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย


ส่วนอีก 2 ลำที่ยังติดอยู่ในบริเวณที่มีจอกแหนหนาแน่นมาก ก็รอให้จอกแหนไหลออกไปตามกระแสน้ำ จากแนวเชือกที่ขาดออก และจนสามารถเดินเครื่องยนต์ค่อย ๆ ขับแหวกแนวจอกแหนออกไป  และเข้าฝั่งได้ครบทุกลำ


ทั้งนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งหมดปลอดภัย ไม่มีผู้รับบาดเจ็บ หรือเกิดความสูญเสียในชีวิต และทรัพย์สินแต่อย่างใด


นางลำพึง อายุ 60 ปี หนึ่งในผู้ประกอบการแพท่องเที่ยว เปิดเผยว่า จากการสอบถามคนดูแลแพข้างใน ทราบว่า


คืนวันเสาร์ เกิดลมแรงมาก พัดเอาจอกแหนจากหลากหลายทิศมาล้อมแพเป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร จนแพไม่สามารถขับต่อไปได้ และออกมาไม่ได้


ส่วนสาเหตุที่มีจอกแหนเพิ่มขึ้นมาอีก เนื่องจากขณะนี้ ทางหน่วยงานชลประทานหยุดกำจัด และตักออก ทราบว่าไม่มีน้ำมันเติมเรือกำจัดจอกแหนหรือติดปัญหาเรื่องงบประมาณ ทำให้ที่ผ่านมา ทำ ๆ หยุด ๆ บางครั้งหยุดไปนานนับเดือน  แม้ที่ผ่านมาทางกลุ่มผู้ประกอบการแพจะนำเชือกมามัดกับทุ่นลอยน้ำ เพื่อไม่ให้จอกแหนกระจาย แต่บางครั้งเชือกขาด ทำให้จอกแหนถูกลมพัดกระจายกีดขวางเส้นทางล่องแพ กระทบต่อผู้ประกอบการแพท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก


ด้านนายปองพล ไชยยะ ประธานชมรมผู้ประกอบการล่องแพหมู่บ้านสำเภาทอง เปิดเผยว่า

พื้นที่อ่างเก็บน้ำของเขื่อนกิ่วลม ได้รับผลกระทบจากวัชพืชทางน้ำจอกแหนแพร่กระจาย ตั้งแต่ในช่วงธันวาคม 2564 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจอกแหนขยายวงกว้าง สะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ ยาวไปถึงแนวบริเวณสันเขื่อน โดยเฉพาะฝั่งหมู่บ้านสำเภาทอง ต.บ้านสา อำเภอแจ้ห่มจังหวัดลำปาง สร้างผลกระทบอย่างหนักกับผู้ประกอบการแพ และเรือหางยาวของชาวบ้านที่ออกหาปลา เพราะรากของจอกแหนก็ติดใต้ท้องแพ และติดใบพัดของเครื่องยนต์ บางทีต้องใช้เวลาเคลียร์นานกว่าครึ่งชั่วโมง จึงวิงวอนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งมาช่วยแก้ปัญหากำจัดวัชพืชจอกแหนนี้ด้วย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เขื่อนกิ่วลมกำลังประสบปัญหาจอกแหนและวัชพืชน้ำแพร่พันธุ์เร็ว ปกคลุมผิวน้ำในพื้นที่อ่างเก็บน้ำของเขื่อนกิ่วลม


ที่ผ่านมาถึงแม้ทางชลประทานจะเร่งกำจัดตักออก แต่ก็ไม่หมด ยังแพร่ลามอย่างรวดเร็ว จนมีเป็นจำนวนมาก โดยหลังจากนี้ นายอำเภอแจ้ห่ม จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป

-------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/HxAYZtCjzdY

คุณอาจสนใจ

Related News