ข่าวโซเชียล

อย่าหาทำ! เด็ก ม.4 ขึ้นโรงพักขอโทษ ชักปืนของเล่นหยอกเพื่อนกลางถนน ทำชาวบ้านแตกตื่น

โดย nut_p

4 ก.พ. 2567

152 views

อย่าหาทำ! นักเรียน ม.4 ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายชูปืนกลางถนนหยอกเพื่อน ทำชาวบ้านแตกตื่น เจ้าหน้าที่ไล่ตามหาตัววุ่น ล่าสุดผู้ปกครองพามอบตัวทำ MOU กับตำรวจ พบเป็นปืนแก๊ปของเล่น



จากกรณีที่ โลกโซเชียลแชร์คลิปวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกัน ก่อนหนึ่งในวัยวัยรุ่นที่นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ชูปืนขึ้นฟ้า สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่พบเห็นและขับรถสัญจรผ่านไปผ่านมาในเมืองขอนแก่น มุ่งหน้าผ่าใจกลางเมืองไป โดยระบุข้อความว่า "วันนี้ 3 ก.พ.67 เวลา 13.48 น.วัยรุ่นขอนแก่น คึกคะนองค่ะ ซ้อนมอไซค์กับเพื่อนแล้วชูปืนขึ้นฟ้า เห็นแล้วตกใจมาก ถ้าเป็นไปได้อยากให้คลิปนี้ส่งถึงผู้ปกครองของเด็ก อยากให้เค้าเตือนลูกหลานเค้าหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะแอดมิน พิกัด เส้นหน้าตึกคอม ทางไปศาลเจ้าพ่อหลักเมือง"



ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่ง ระบุถึงโพสต์ดังกล่าวว่า “ชูปืนขึ้นฟ้าเป็นปืนแก๊ป เเอดครับพอดีว่าโพสต์ที่ชูปืนขึ้นฟ้าอ่ะครับช่วยลบให้หน่อยได้มั้ยครับ คนที่เเจ้งเขาก็ตักเตือนพวกผมมาเเล้วครับผู้ปกครองรับรู้ทุกอย่างเเล้วครับ พอดีว่าปืนที่ชูเป็นปืนเเก็ปพวกผมหยอกกันเล่นคิดไม่ถึงว่าจะไปเดือดร้อนคนอื่นขอโทษด้วยนะครับ“



ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. 14 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นายอรรถพล ทิพย์ดารา ปลัดอำเภอเมืองขอนแก่น ฝ่ายความมั่นคง ทราบว่า ภายหลังมีคลิปดังกล่าวเผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดีย ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และตำรวจสภ. เมืองขอนแก่น ได้ลงพื้นที่ติดตามหาบุคคลดังกล่าวที่ปรากฏในคลิปโชว์ปืนกลางถนนทันที



โดยเมื่อเวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา วัยรุ่นที่โชว์ปืนในคลิปได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองขอนแก่น โดยทางผู้ปกครองของวัยรุ่นทั้งสามคนในคลิป ได้พามามอบตัวพร้อมกับปืนที่ปรากฏในคลิปโดยเป็นปืนแก๊ปของเล่น และวัยรุ่นทั้ง 3 คน เรียนอยู่ระดับชั้น ม.4 ที่ปรากฏในคลิปยอมรับว่า ได้หยอกล้อเล่นกันกับเพื่อน ไม่ได้มีเจตนาสร้างความแตกตื่น ซึ่งได้สำนึกผิดและได้เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อกราบขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



พร้อมกันนี้ ผู้ก่อเหตุและผู้ปกครองได้ทำบันทึกข้อตกลง MOU กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง โดยมีนายอรรถพล ทิพย์ดารา ปลัดอำเภอเมืองขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมทำ MOU ว่าต่อไปจะไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก พร้อมทั้งได้ตักเตือน และดำเนินคดีในส่วนของพรบ.จราจรในเรื่องไม่สวมหมวกกันน็อคสองคน เสียค่าปรับรายละ 500 บาท ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News