สังคม

ครูร่ำไห้ ยกมือไหว้ขอโทษ ใช้เข็มทิ่มปากนักเรียน ยันไม่มีเจตนาทำร้าย แค่อยากสอนให้เป็นคนดี

โดย petchpawee_k

27 ม.ค. 2567

281 views

ครูโรงเรียนย่านบางพลี สารภาพผิดลงโทษเด็กใช้เข็มทิ่มปาก หลังเด็กคายหมากฝรั่ง หน้ากระดาน ยอมรับทำเกินกว่าเหตุ ขณะที่เด็กนักเรียนป.2 ยันไม่มีใครกินหมากฝรั่ง  ด้านผู้ปกครอง รวมตัวแจ้งความเอาผิดครู


จากกรณี ผู้ปกครองโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่สำโรงเหนือ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ พลวัฒน์ สิริสุขดาโรจน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมร้องเรียนกับสื่อมวลชน หลังลูกชายและเพื่อนในห้องเรียน รวม 36 คน ถูกครูผู้หญิงลงโทษโดยการใช้เข็มทิ่มปากยกชั้นเรียน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 25 มกราคม 2567


จากการสอบถามเด็กนักเรียนที่ถูกครูใช้เข็มทิ่มที่ปาก ให้ข้อมูลว่า ในช่วงพักกลางวันพบว่าครูไปเจอหมากฝรั่งอยู่บริเวณหน้ากระดานที่หน้าห้องจึงถามว่าเป็นของใครและไม่มีใครตอบรับ ครูประจำชั้นพยายามถามนักเรียนแล้วแต่ไม่มีใครกล้ารับว่าหมากฝรั่งนั้นเป็นของใคร จึงไปตามครูอีกคนหนึ่ง ซึ่งเด็กทุกคนจะกลัวมาให้ช่วยซักถามนักเรียน ว่าใครเป็นคนนำหมากฝรั่งมาทิ้งบริเวณหน้ากระดาน แต่ปรากฏว่าไม่มีเด็กนักเรียนคนใดยอมรับสารภาพ ครูคนนี้จึงจุดธูปหนึ่งดอกแล้วบอกนักเรียนว่าวันนี้วันพระ  หากใครไม่ยอมพูดก็จะเจอกับเรื่องลี้ลับ ซึ่งก็ไม่มีนักเรียนคนใดยอมรับ


ครูจึงเรียกนักเรียนแต่ละคนมาพบ โดยนำเข็มกลัดที่ใช้กลัดเสื้อผ้า ทิ่มลงไปที่ปากของนักเรียนโดยเป็นการจับปากแล้วทิ่มลงไป หลังก่อเหตุเสร็จก็ไม่มีนักเรียนคนใดยอมรับ จนกระทั่งช่วงเย็นพบว่าเด็กนักเรียนมีอาการปากเป็นแผลจึงมาบอกผู้ปกครอง


โดยเมื่อช่วง 08.30 น. วานนี้ (26 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปที่โรงเรียนวัดด่านสำโรง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและฟังคำชี้แจ้งจากทางโรงเรียน แต่พบว่าทางเจ้าหน้าที่ปิดประตูรั้วไม่อนุญาตให้นักข่าวเข้าพื้นที่ โดยให้เหตุผลว่าเป็นคำสั่งของผู้บริหารและขณะนี้อยู่ระหว่างเรียกผู้ปกครองเข้าห้องประชุมเพื่อชี้แจ้งในเรื่องนี้


ต่อมา ทาง ผอ.โรงเรียน ได้เรียกประชุมผู้ปกครองและมีการนำเอาเข็มที่ใช้ก่อเหตุมาให้ผู้ปกครองดูพบว่าเป็นเข็มกัด เบื้องต้นทางโรงเรียนได้สั่งระงับครูรายนี้รวมถึงครูประจำชั้นให้หยุดการสอนและย้ายไปประจำสำนักงานเขตชั่วคราวพร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง


ขณะที่ผู้ปกครองหลายคนยังกังวลความปลอดภัยของนักเรียน โดยเฉพาะเรื่องบาดแผลที่ถูกเข็มกัดเจาะหวั่นติดเชื้อ จึงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการทั้งการตรวจสุขภาพนักเรียนและการลงโทษอย่างจริงจังในเรื่องนี้


ด้าน ผู้ปกครองของเด็ก เปิดใจว่า หลังจากที่ไปเจอข้อความของผู้ปกครองในกลุ่มไลน์ของผู้ปกครองพบว่ามีการสอบถามถึงการที่เด็กนักเรียนถูกครูหญิงรายหนึ่งใช้เข็มเจาะปากเด็กทั้งห้อง จนมีการสอบถามกันในกลุ่มไลน์กระทั่งทราบว่าเด็กๆ ถูกครูคนนี้ใช้เข็มเจาะปากกันจริงแบบทุกคนในห้อง และมีเด็กบางคนถึงขั้นไข้ขึ้นไม่สบายจากการถูกกระทำ ส่วนการทำโทษเรื่องอะไรอย่างไรบ้าง ลูกก็บอกว่า เพื่อนกินหมากฝรั่งกันในห้องแล้วคายทิ้งไม่เป็นที่ ครูมาเห็นจึงถามนักเรียนในห้องว่า ใครเป็นคนกินหมากฝรั่ง แต่ก็ไม่มีใครยอมรับ ครูจึงจับเด็กนักเรียนนั่งเรียงกัน แล้วจุดธูปให้นักเรียนสาบานก่อนเอาเข็มทิ่มที่ปากเด็กทุกคนจนเป็นแผล ตนได้ฟังเรื่องก็ตกใจ ว่าทำไมถึงต้องทำเด็กขนาดนี้


ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ ได้เชิญครูทั้งสองคนมาสอบปากคำประกอบด้วย นางสาวธัญญภัสร์ หรือครูจ๋า อายุ 27 ปี และนางสาววัชรียา หรือ ครูปุ๊ก อายุ 50 ปี โดยครูจ๋าเป็นครูประจำชั้นนักเรียน ป.2/3 ส่วนครูปุ๊กเป็นครูที่ปรึกษา

พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจจังหวัด เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ ครูสารภาพ ยอมรับผิด และขอโทษ แต่เจตนาเพื่อให้นักเรียนรู้จักยอมรับผิด แต่วิธีการไม่ถูกต้องเกินเลย จากนี้จะต้องว่าไปตามกฎหมาย มีเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ บางส่วนสอบสวนแล้ว ขณะนี้รอผลแพทย์ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา


การกระทำของคุณครูทั้งสอง ถือว่าเป็นการกระทำความผิด อีกทั้งนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ ผู้ปกครองก็ไม่ยินยอมกับเรื่องที่เกิดขึ้น ดังนั้นเมื่อครูต้องการสอนให้นักเรียนรู้จักทำผิด และยอมรับผิด วันนี้ครูทำผิดก็ต้องยอมรับผิดเช่นกัน

จากนี้จะให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายโดยเข้าข่ายเรื่องการทำร้ายร่างกายซึ่งจะแจ้งข้อหาครูปุ๊กคนเดียวก่อนเท่านั้น ส่วนครูจ๋าจะสอบปากคำเพิ่ม หากพบหลักฐานว่ามีการรู้เห็นกับการกระทำที่เกิดขึ้นก็จะถูกดำเนินคดีเช่นกัน

ต่อมาครูทั้งสองคนได้เปิดใจกับสื่อมวลชน โดยครูปุ๊กคนที่ใช้เข็มกลัดทิ่มที่ปากเด็กนักเรียนนั้น เปิดเผยว่า ครูต้องกราบขอโทษผู้ปกครอง  ขอโทษสังคม ขอโทษนักเรียน และผู้บริหารโรงเรียนเรื่องราวที่เกิดขึ้น

“ครูทำไปเพราะความหวังดี ไม่มีเจตนาจะทำร้ายเด็ก และที่ทำก็เพราะอยากสอนให้เค้าเป็นเด็กดีกล้าทำกล้ายอมรับ ไม่อยากให้เค้าโตเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ดี” และครูก็ไม่คิดว่าการที่ครูทำแบบนี้จะทำให้นักเรียนเกิดบาดแผล

จากนั้นครูปุ๊กก็กล่าวขอโทษทั้งน้ำตาว่า ขอโทษจากใจจริงครูไม่ได้ตั้งใจ ครูแค่อยากจะสอนให้นักเรียนเป็นคนดี ส่วนการที่เอาเข็มไปทิ่มปากเด็กนั้นครูรู้ว่ามันไม่ควรทำ และเป็นเรื่องที่เกินกว่าเหตุ และที่ตัดสินใจใช้เข็มกลัดเพราะว่าครูถามเด็กทุกห้องแล้ว ก็ไม่มีใครพูดยอมรับ ไม่มีใครตอบ เลยตัดสินใจขู่เด็ก และเด็กนักเรียนที่โดนทิ่มก็ไม่มีใครร้องไห้สักคน และทุกคนอาการปกติ

ส่วนเข็มกลัดที่ นำมาก่อเหตุนั้นก็เป็นเข็มกลัด ไว้ใช้สำหรับกลัดเสื้อผ้า ซึ่งเป็นเข็มใหม่ไม่ใช่เข็มที่ใช้งานแล้ว

ทางด้านครูจ๋า ครูประจำชั้น เปิดเผยว่า ขอโทษทุกคน ทั้งผู้ปกครอง ผอ.เขตการศึกษา และที่ต้องขอโทษอย่างยิ่งคือเด็กๆ นักเรียนของคน ที่ไม่ได้ดูแล และปกป้องให้ถึงที่สุด ยอมรับว่าในวันเกิดเหตุได้ไปตามครูปุ๊กมาช่วย เพราะเด็กๆ จะกลัวครูปุ๊กมาเพราะเป็นคนดุ ซึ่งตอนที่ครูปุ๊กสอบถามเด็กๆ ตนอยู่หลังห้อง ส่วนครูปุ๊กและเด็กอยู่หน้าห้อง ตนรู้ว่าครูปุ๊กขู่เด็กว่าจะเอาเข็มทิ่ม แต่ตนคิดว่าเป็นแค่คำขู่ คงไม่มีใครเอาเข็มไปทิ่มเด็กจริงๆ ประกอบกับเด็กๆ ก็ไม่มีใครร้องไห้ หรือมาฟ้อง ตนจึงไม่รู้ว่าครูปุ๊ก เอาเข็มทิ่มไปที่ปากเด็ก

ขอยืนยันอีกครั้งว่าช่วงเกิดเหตุ ตนไม่เห็นจริงๆ ถ้าเห็นคงจะห้ามและช่วยปกป้องเด็กแล้ว ซึ่งตนยอมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น และผลของการกระทำ


ครูจ๋า ยังบอกอีกว่า ตนไม่ได้หลบหน้าหนีผู้ปกครอง เมื่อเช้าตนอยากจะไปขอโทษผู้ปกครอง แต่ผู้ใหญ่ไม่ให้พูด และให้ไปพบกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตการศึกษาประถมศึกษาเขต 1 จังหวัดสมุทรปราการ จึงทำให้ไม่ได้พบกับผู้ปกครอง

“ซึ่งตอนนี้ทางโรงเรียนได้ให้ตน 2 คนพักการเรียนการสอน และไปช่วยงานที่สำนักงานเขตฯ ไม่ให้เกี่ยวข้องกับการดูแลเด็ก อยากไรก็ต้องขอโทษ ผู้ปกครอง และเด็กๆ อีกครั้งอย่างจริงใจ”

ขณะที่ในช่วงค่ำบรรยากาศที่ สภ.สำโรงเหนือ มีบรรดาผู้ปกครองและเด็กนักเรียนจำนวนหนึ่งมารอแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับครูที่ก่อเหตุนำเข็มมาทิ่มปากเด็กจนได้รับบาดเจ็บ โดยเด็กบางคนไม่สามารถทานอาหารได้ บางคนไม่สามารถแปรงฟันได้ และบางคนเริ่มมีอาการคล้ายติดเชื้อคือมีตุ่มเล็กๆ อยู่ใกล้ใกล้กับจุดที่โดนเข็มทิ่มปาก

ทีมข่าวได้พูดคุยกับเด็กๆ ชั้น ป.2 ที่เกิดเหตุ เล่าให้ฟังว่า ไม่รู้ว่าใครมากินหมากฝรั่งถามเพื่อนด้วยกันแล้วก็ไม่มีใครตอบ แล้วครูจ๋า ครูประจำชั้น เดินมาเหยียบจากหน้าห้อง ก็ไม่รู้ว่าครูเหยียบมาจากที่อื่นหรือไม่

จากนั้นครูจ๋าก็ถามเพื่อนๆ ในห้องว่ามีใครกินหมากฝรั่งและทิ้งแบบนี้ แต่ไม่มีใครยอมรับ จนต้องไปตามครูปุ๊กซึ่งทุกคนจะรู้ว่าครูปุ๊กเป็นครูที่ดุและตี ครูปุ๊กถามแล้วไม่มีใครยอมจึงใช้เข็มทิ่มที่ปาก


โดยวิธีการทำของครูก็จะบีบหน้าบางคน บางคนก็ไม่โดนบีบหน้า จะดึงปากออกมา แล้วก็เอาเข็มทิ่มลงไปที่ริมฝีปาก บางคนก็โดนข้างในปาก ก่อนที่ครูจะทำ ได้บอกครูไปแล้วว่าไม่ได้ทำ และไม่มีใครรู้ว่าใครทำแต่ครูก็ไม่ฟัง

เด็กผู้หญิง นักเรียนชั้น ป. 2  บอกว่า ตอนที่ครูเอาเข็มกลัดทิ่มปากกลัวมาก แต่ไม่มีใครกล้าบอกครู เพราะครูคนนี้เคยตีเด็ก ถ้าใครโดนตี ก็จะมีหลายระดับในการตี และไม้เรียวที่ใช้ก็มีหลายอัน แต่อันที่เจ็บมากที่สุดคือไม้ม่วง เป็นไม้ที่ไว้ใช้สำหรับตีหนัก และมีเพื่อนเคยโดนไม้ม่วงเป็นประจำ

เด็กๆ ฝากถึงครูปุ๊กว่าอย่าทำกับพวกหนูแบบนี้เพราะพวกหนูกลัวและขอยืนยันว่านักเรียนไม่ได้โกหก

ทางด้านนายเสริมชัย ผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ป. 2  เปิดเผยกับทีมข่าวว่า รู้เรื่องที่ลูกชายโดน โดนเข็มทิ่มปากจากไลน์กลุ่ม ผู้ปกครองและมีการสอบถามกันว่ามีใครโดนบ้าง สุดท้ายคือพบว่าโดนทั้งห้อง พอทราบเรื่อง ได้มีการพยายามสอบถามครูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ได้รับคำตอบ ช่วงเช้า จงมารวมตัวกันที่โรงเรียน เพื่อสอบถามเกิดเหตุอะไรทำไมครูถึงใช้เข็มทิ่มปากเด็กนักเรียนทั้งห้อง ซึ่งยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากครู และผู้บริหารโรงเรียน แต่ได้ฟังจากสื่อที่นำเสนอข่าว

โดยส่วนตัวมองว่า พฤติกรรมที่ครูทำนั้นเกินกว่าเหตุ การทำโทษเด็ก ป.2 สามารถลงโทษได้หลายวิธีแต่การเอาเข็มมาจิ้มปาก 30 กว่าคนหากมีคนใดติดเชื้อหรือมีเชื้อโรค ครูรับผิดชอบไหวหรือไม่ ทางโรงเรียนรับผิดชอบได้หรือไม่ ลูกชายตนกลับมาบ้านก็เจ็บปากเพื่อนลูกบางคนก็แปรงฟันไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ เพราะเจ็บปาก


ผู้ปกครองรายนี้ระบุว่า การที่ครูออกมาขอโทษบอกว่าไม่มีเจตนา “ตนมองว่า ฟังไม่ขึ้น การกระทำไม่สมควรเป็นครู การลงโทษนักเรียนอย่างอื่นมีหลายวิธี ไม่ใช่การกระทำแบบนี้”


ซึ่งเด็กแต่ละคนเริ่มมีอาการไม่เหมือนกันบางคนมีตุ่มใสขึ้นในปากใกล้กับจุดที่ถูกเข็มทิ่ม บางคนก็เริ่มมีรอยแดง เกิดขึ้นบริเวณบริเวณเข็มที่ทิ่ม ผู้ปกครองจึงพาลูกไปตรวจร่างกายและตรวจเลือดทั้ง 36 คน เพื่อตรวจหาเชื้อว่ามีเชื้อโรคหรืออันตรายใดหรือไม่ “และฝากบอกถึงครูคนที่ทำเด็กว่าให้เลิกเป็นครูเพราะจรรยาบรรณกับเด็กไม่มี”


ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ครูเหยียบหมากฝรั่งจากที่อื่นแล้วเดินเข้ามาที่ห้อง นายเสริมชัย ระบุว่า ก็อาจเป็นไปได้แต่เด็กๆ ในห้องยืนยันไม่ได้ว่ามีใครกินหมากฝรั่งหรือไม่ แต่สำหรับลูกตนยืนยันว่าไม่ได้กินหมากฝรั่งแน่นอน


นอกจากนี้ยังมี คุณแม่ซึ่งเป็นผู้ปกครองในห้องเดียวกัน ได้บอกเล่ากับผู้สื่อข่าวว่า ลูกมาเล่าให้ฟังว่าครูถามเรื่องกินหมากฝรั่ง แล้วพยายามเค้นว่าใครกิน แต่ไม่มีใครตอบ ครูปุ๊กก็จะเริ่มความรุนแรงมากขึ้น โดยครั้งแรกจะให้จุดธูปคนละดอกเพื่อสาบาน ต่อมาจะให้กินช็อก จะเอาช้อนทุบช็อกแล้วให้เด็กกินแต่ไม่ได้ทำ และแค่ขู่ จากนั้นก็บอกว่า ถ้าใครยังไม่พูดก็จะเอาเข็มทิ่มปาก แล้วก็เอาเข็มทิ่มปากเด็กทีละคนทั้งห้อง

ส่วนที่ครูทั้งสองคนออกมาขอโทษผ่านสื่อ บอกว่าไม่ตั้งใจ ไม่มีเจตนา “ตนมองว่ามันไม่ใช่เหตุผลเพราะเอาเข็มทิ่มปากเด็กกว่า 30 คนต่อๆ กันมองว่าเป็นการตั้งใจ”


และประเด็นที่ครูบอกว่าทำลงไปเพราะอยากให้ นักเรียนเป็นคนดีกล้าทำกล้ายอมรับ คุณแม่บอก ว่า “ก่อนจะสอนให้นักเรียนเป็นคนดีครูต้องเป็นคนดีก่อนไม่ใช่ปล่อยให้ทำแบบนี้ และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด”

------------------------------------------------

ขณะที่เพจ Drama-addict โพสต์ข้อความ ระบุ "การที่ครูลงโทษเด็กด้วยวิธีบ้าบอเช่นนี้ มีความเสี่ยงมาก เพราะพอเอาเข็มจิ้มปากเด็กคนนึงเลือดออก เข็มมันก็เปื้อนเลือด แล้วเอาไปจิ้มปากเด็กคนอื่นต่อทันที การทำแบบนี้มีความเสี่ยงที่จะทำให้เด็กทั้งสามสิบกว่าคนติดเชื้อได้ มีเชื้อหลายตัวที่ติดผ่านวิธีนี้ เช่น ไวรัสตับอักเสบ


ถ้าเกิดมีเด็กซักคนในห้องติดเชื้อ ก็ฉิบหายยกห้องครับ นอกจากเอาผิดครูที่ทำพิเรนแบบนี้ ต้องรีบพาน้องๆทุกคนไปตรวจเลือดโดยด่วนเลย"

จากนั้นโพสต์อีกว่า "อื้อหือ เอาเข็มกลัดแบบนี้เจาะปากเด็กทั้งห้อง ถ้าเป็นเข็มกลวงแบบเข็มฉีดยา ที่จะมีพื้นที่ที่บรรจุเลือดด้านในได้ แบบนั้นจะความเสี่ยงสูงมากๆ ถ้าเข็มตันแบบนี้ความเสี่ยงจะน้อยกว่า แต่กรณีแบบนี้คือทำสดๆเลือดสดๆ ก็มีความเสี่ยงสูงมากอยู่ดี"


https://youtu.be/HY-15IAGeBg

คุณอาจสนใจ

Related News