อาชญากรรม

ตร.ภ.2 โต้ดรามาคลิปเสียง 3 ตร. จับ ‘ลุงเปี๊ยก’ ยันของจริง ไม่ตัดต่อ แจงปมเสียงจิ้งหรีด เป็นลักษณะอัดคลิปซ้ำ

โดย petchpawee_k

20 ม.ค. 2567

186 views

ตำรวจภูธรภาค 2 ยัน คลิปเสียง สนทนาตำรวจกับตำรวจ 3 นาย หลังรู้คนร้ายตัวจริงไม่ใช่ลุงเปี๊ยก ไม่มีการสร้างหลักฐานเท็จ เป็นของจริงที่มีการบันทึกเสียงอัตโนมัติ ชี้ ทำเป็นปกติเพื่อทบทวนคำสั่งนาย ส่วนปมเสียงจิ้งหรีด ยัน เป็นลักษณะอัดคลิปซ้ำชี้แจง คกก.ตรวจสอบข้อเท็จจริง


วานนี้ (19 ม.ค.67) พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เปิดเผยถึงกรณีการปรากฎคลิปเสียงที่ถูกระบุว่า เป็น พ.ต.ท.นิติธร สารวัตรสืบสวน สภ.อรัญประเทศ พูดคุยกับดาบตำรวจชัดสืบสวน และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีฆ่าป้าบัวผัน ที่ปรากฎออกมา 6 คลิปล่าสุด โดยมีลักษณะบันทึกไทม์ไลน์เวลาการสนทนาไว้ถึงการหาหลักฐานที่พบว่ากลุ่มคนร้ายตัวจริงเป็นวัยรุ่น 5 คนไม่ใช่ลุงเปี๊ยก แต่มีการฝากขังลุงเปี๊ยกไปแล้ว ว่า  คลิปมีการตรวจสอบแล้วว่ามีการพูดจริงๆ ในวันนั้น และเมื่อถามว่าทำไมถึงอัดคลิป  ก็ได้รับการชี้แจงว่า มีการกดอัดเป็นประจำแบบอัตโนมัติ


เวลาผู้บังคับบัญชาสั่งการเพื่อไว้ทบทวน เพราะกลัวจะจำไม่ได้ ซึ่งคลิปนี้มีปรากฎในหลักฐานการสืบสวนข้อเท็จจริงในวันแรกแล้ว รวมถึงมีการตรวจสอบและมีพยานหลักฐานว่าอยู่ในข้อมูลที่ทางผู้การสืบสวนดำเนินการตั้งแต่วันแรกเช่นกัน


ขณะที่ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 อธิบายเพิ่มเติมว่า  เรื่องคลิปนี้ เมื่อวันที่ 18 ม.ค.67 ได้คุยกับสารวัตรสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ว่าคลิปนี้เกิดขึ้นมาอย่างไร ซึ่งเขาแจ้งว่าเขากดอัตนโนมัติ แล้วตนเองก็ถามว่า ถ้าคุยแล้วกดอัดแบบนี้ผมจะคุยด้วยได้อย่างไร เขาก็ชี้แจงว่าเขาตั้งไว้ เพื่อใช้ทบทวนความจำ ก็จะอัดเสียงอัตโนมัติทุกสายที่โทรเข้า


ส่วนคลิปเสียงไปถึงสื่อมวลชนได้อย่างไรนั้น สารวัตรสืบสวนฯยืนยันว่าไม่ทราบ แต่ได้ส่งข้อมูลดังกล่าวไปให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเขาได้ทำงาน มีพยานหลักฐานและเริ่มรู้ว่าลูกน้องไปตามดูกล้อง ประมาณเที่ยงกว่าๆ โทรมาแล้วตกใจว่า เจ้านายเห็นกล้องแล้วว่า วันรุ่นทำร้ายป้าบัวผัน ไม่ใช่ลุงเปี๊ยก เขาเลยพูดชิบหายแล้ว แล้วก็โทรไปหาพนักงานสอบสวนที่กำลังฝากขังว่าทำอย่างไรดีช่วยแก้ไขปัญหา แล้วก็โทรไปหาลูกน้องอีก จนสุดท้ายก็ชัดเจนว่า เห็นคนร้ายเป็นวันรุ่น 5 คน รถ 2 คันทำร้ายป้าบัวผันเขาก็เลยโทรไปพนักงานสอบสวนอีกรอบ


ดังนั้นคลิปนี้ สารวัตรสืบสวนฯ ใช้ชี้แจงกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่ออธิบายรายละเอียด แต่ดันไปหลุดถึงสื่อมวลชน ซึ่งสื่อมวลชนก็ทีสิทธิทีาจะสงสัยได้ว่า ทำขึ้นมาเพื่ออะไร เพื่อสร้างพยานหลักฐานเท็จหรือตัดต่อหรือไม่ ซึ่งหากฟังจากคลิปจะเห็นได้ว่า บุคคลในคลิปมี 3 คน ก็คือ สารวัตรสืบฯ ลูกน้องขั้นประทวนที่ไล่กล้อง/ และพนักงานสอบสวน


“จะมาแต่งแบบนี้ไม่ได้ จะมาทำเป็นเล่นไม่ได้ ดูน้ำเสียงก็รู้ว่าคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสดๆ จริงๆ ไม่ได้แต่งเติม” แล้วก็มีการโพสต์อยู่ในไลน์กลุ่มของสืบอรัญประเทศด้วย เขาพูดว่าโพสต์ลงในไลน์กลุ่มก็โพสต์จริงๆ เพื่อให้คนอื่นๆช่วยกันตาม รวมถึงพ่อของน้องผู้ต้องหาด้วยก็รู้ พอเห็นภาพปุ๊ป ก็ถามลูก ดังนั้นผู้ต้องหา 4 คน สืบ สภ.อรัญประเทศได้ตัวตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.67 เวลา 14.50 น. แล้ว  ส่วนอีกคนพ่อเอามาจากเขาใหญ่มามอบตัว


ดังนั้นยืนยันว่า คลิปนี้ ไม่ได้มีการสร้างขึ้นมาใหม่แต่เป็นการบันทึกอัตโนมัติในเครื่องของสารวัตรสืบฯ และอธิบายเพื่อชี้แจงคณะกรรมการ ไม่มีการแต่งแต้ม”


ส่วนประเด็นที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าแล้วทำไมเวลาในบันทึกเสียงเวลา 12.07 น. ((เวลากดอัด VDO ช่วงประมาณ 22.00 น.)) ทั้งๆ ที่เป็นตอนกลางวันแต่มีเสียงคล้ายกับจิ้งหรีด เรื่องนี้ พล.ต.ต.ธีระชัย อธิบายย้ำว่า ไม่ใช่ เขาอธิบายว่านี่คือคลิปที่คุยกับลูกน้อง เมื่อวันที่ 13 ม.ค.67 เวลา 12.07 น. มีรายละเอียดดังนี้ แล้วก็เปิดคลิป ซึ่งทำแบบนี้ทถกคลิป โดยคลิปนี้เป็นการบันทึกเพื่อใช้ชี้แจงคณะกรรมการที่ตรวจสอบคณะกรรมการ


ก่อนจะย้ำคำเดิมว่าคลิปดังกล่าว ไม่มีการแต่งเติม แต่เป็นการอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีผู้ใดแต่งเติมหรือสร้างข้อมูลเท็จ และตนเองได้เห็นว่ามีคลิปนี้ ปรากฎอยู่ในข้อมูลการสืบสวนตั้งแค่วันอังคารที่ 16 ม.ค. ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.มาประชุมแล้ว และมีการมานำเสนอในพาวเวอร์พ้อย แต่ตนเองไม่ได้เปิดฟัง ซึ่งในวันอังคารที่ 16 ม.ค. ยังไม่ได้ทราบประเด็นคลิปเสียงเรื่องถุงดำ เพราะคลิปเสียงเรื่องถุงดำมาวันพุธที่ 17 ม.ค.


ด้าน พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล เปิดเผยว่า คลิปเสียงที่หลุดออกมาเพิ่มเติมนั้น ตนเองได้ฟังแล้วเชื่อว่าเป็นคลิปเสียงจริง แต่หากมีการตัดต่อก็สามารถตรวจสอบได้ และการที่พนักงานสอบสวนร้องอุทานตกใจเมื่อทราบว่าจับผิดตัว และเอาลุงเปี๊ยกไปฝาก ก็เหมือนเอาคนไม่ผิดเข้าคุก ก็ต้องให้ความเป็นธรรม ไปดูว่าพนักงานสอบสวนรีบแก้ไข รีบทำหนังสือถึงศาล เพื่อให้ปล่อยตัวลุงเปี๊ยกออกมาโดยเร็วหรือไม่ โดยเรื่องนี้ต้องทำให้เร็ว ให้ได้ความชัดเจนว่าใครผิด และจะต้องเอาออกทันที ไม่ปล่อยเวลาเนิ่นนานไปถึง 5-6 วันโดยไม่มีความคืบหน้า รองผู้กำกับการที่ยอมรับว่ารู้เหตุการณ์คลุมหัวจริงก็ต้องดำเนินคดี ส่วนใครรับรู้อีกก็ต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง


พร้อมยอมรับเหนื่อยใจกับพฤติกรรมของผู้ใต้บังคับบัญชาที่เกิดขึ้น ที่เมื่อกระทำผิดแล้วพยายามปกปิด รายงานข้อเท็จจริงไม่ครบหรือปิดบังเรื่องการสอบสวนที่ผิดพลาด เช่น มีการไปกระทืบลุง จับกุมผิดตัว กลัวผู้บังคับบัญชารู้ กลัวจะถูกเล่นงาน แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นการช่วยเหลือลูกตำรวจ ซึ่งทั้งหมดทำให้ตนเองต้องมารู้เรื่องราวจากสื่อมวลชน และลุงเปี๊ยกที่เป็นผู้เสียหาย ซึ่งลุงเปี๊ยกก็มีความเครียดแค้นว่าตำรวจนายนี้ทำร้ายตนเอง บังคับให้นำชี้ที่เกิดเหตุ โดยพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ใช้คำว่า "ตนเองก็เหนื่อยใจ และประชาชนก็รู้สึกเอียนจนไม่รู้จะเอียนอย่างไรแล้ว"


และในฐานะผู้บังคับบัญชาตนเองก็ต้องลงไปแก้ไข ดังนั้นวันนี้ผู้บัญชาการภาค ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ผู้กำกับการพื้นที่และทุกคนจะต้องทำหน้าที่ของตนเอง ไม่ใช่ต้องให้ระดับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องลงพื้นที่ไปเอง ไม่กังวลว่าลูกน้องจะรังเกียจ ใครทำไม่ดีต้องถูกดำเนินการ

----------------------------------------

‘พล.ต.ท.เรวัช’ เผยตำรวจทั้งชุดที่ทำคดีลุงเป๊ยกต้องออกมาขอโทษ และพูดความจริงทั้งหมด

ขณะที่ พล.ต.ท. เรวัช กลิ่นเกษร" อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด  เปิดเผยว่า  “สิ่งที่เกิดขึ้น มองว่าตำรวจทำพลาดไป สิ่งที่ควรทำคือ เล่าความจริงทั้งหมด และขอโทษประชาชน ขอโทษตาเปี๊ยกหาทางเยียวยา” แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเพราะจะมองว่าเป็นเหมือนกันเข้าไปช่วย


ส่วนโทษของตำรวจที่ก่อเหตุ นั้นแบ่งเป็นสามชุด ชุดแรก คือชุดที่ไปเอาตัวตาเปี๊ยกมาสอบ มาสืบ มาเค้น  ชุดที่สองคือคนที่คลุมถุง จะทำจริงหรือไม่จริงก็ผิด และคนที่อยู่ในห้องขณะนั้นไม่ห้าม คนเหล่านี้ก็จะมีความผิดร่วมด้วย กลุ่มที่สามคือพนักงานสอบสวนเพราะฝ่ายสืบบอกว่าตาเปี๊ยกเป็นคนร้าย พนักงานสอบสวนเป็นคนนำไปฝากขัง จนต่อมา มีการเบรคบอกว่าจับผิดตัว แต่การกระทำทั้งหมด ถือว่าความผิดสำเร็จ เพราะเอาตัวไปฝากขังแล้ว


ส่วนกรณีที่แม่ของนายเชนหนึ่งในผู้ก่อเหตุ ออกมาขอโทษ พล.ต.ท. เรวัช ระบุว่า ก็ถือเป็นเรื่องดีแต่ต้อง บอกว่าคนเป็นแม่ที่เลี้ยงลูกผู้ชายมักจะไม่ทันลูกเพราะเด็กผู้ชายอาจจะเกเรแบบเงียบขนาดตนเองตอนเด็ก ก็เคยเกเร เช่นกัน แต่อยากขอร้องผู้ที่ดูแล ทั้งพ่อแม่และผู้ปกครองทั้งหลายควรดูแลบุตรหลานให้ดี ไม่อยากให้เกิดเหตุการร์ซ้ำรอยแบบนี้อีก

https://youtu.be/Vg4UdpQGZDw

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ป้าบัวผัน ,ลุงเปี๊ยก

คุณอาจสนใจ

Related News