อาชญากรรม

แม่คาใจส่งลูกไปบำบัดยา กลับเสียชีวิตปริศนาคาศูนย์ฯ รอยช้ำทั่วตัว ผอ.แจงหนังคนละม้วน

โดย JitrarutP

9 ม.ค. 2567

386 views

วันที่ 9 ม.ค. 67 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ แม่และเพื่อนของผู้เสียชีวิต, รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช มศว, ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี ในช่วงต่อออนไลน์ของรายการได้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ อิดริส บุหงารัตน์ ผอ.สถานฟื้นฟูสมรรถภาพ ปอเนาะ เกาะศรีบอยา จ.กระบี่ ถึงกรณีลูกชายเสียชีวิตหลังพาไปบำบัดยาเสพติด-อาการป่วย ที่ศูนย์ฯ บนเกาะ

แม่ของโอ๊คเล่าเหตุการณ์ว่า ลูกชายมีอาการป่วยจิตเวช รักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา อาการคือ เหวี่ยงแม่บ่อย อารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรงบางครั้ง แล้วก็มีภาวะซึมเศร้า เคยมีความพยายามจะจบชีวิตตัวเอง แต่ที่บ้านช่วยได้ทัน

แม่บอกว่า โอ๊ค ติดน้ำกระท่อม และมีการใช้กัญชา แต่ยาเสพติดอื่นๆ ไม่เคยเจอ ส่วนเพื่อนๆ ก็บอกว่า โอ๊คเป็นเพื่อนเป็นน้องที่น่ารัก มีบางครั้งที่เค้าแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวใส่ แต่พอเราบอกว่า “เฮ้ย แบบนี้ไม่เอาสิ” เขาก็หยุดทันที เวลาเจอหน้ากันเขาจะเข้ามาไหว้ มากอด ดูปกติดีทุกอย่าง

จนกระทั่ง 18 ธ.ค. แม่ตัดสินใจส่งโอ๊คไปบำบัดที่ศูนย์บำบัดยาเสพติดแห่งหนึ่ง บนเกาะ ใน จ.กระบี่ เสียค่าใช้จ่าย 32,000 บาท ตอนที่ไป เขาไปด้วยความสมัครใจ ก็ดูปกติดีหมดทุกอย่าง แล้วยังบอกแม่ว่าเดี๋ยวจะปรับปรุงตัวเป็นคนใหม่ แล้วกลับมาจะกลับมาขอขมาแม่

ปรากฏว่าส่งไปไม่กี่วัน ก็มีของใช้ส่วนตัวของโอ๊คส่งกลับมาให้แม่ รวมทั้งยาโรคประจำตัว ยาจิตเวช ที่น้องต้องกินตลอดเวลา เขาก็ส่งกลับมาให้แม่ แม่ก็ถามว่าเอามาทำไม เขาต้องกินตลอด แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไร ที่ศูนย์มีหมอ แต่พอ 27 ธ.ค. มีคนโทรมาถามแม่ว่า น้องต้องกินยาอะไร ทำไมน้องมีอาการโวยวายอาละวาด เราก็งงว่าเราบอกเขาไปหมดแล้ว ทำไมไม่ประสานงานกันหรือ สุดท้ายแม่ก็ต้องส่งยาชุดเดิมไปทางไปรษณีย์ กลับไปให้ทางศูนย์

ต่อมาไม่นานทางศูนย์ติดต่อมาบอกแม่ว่า น้องมีอาการสโตรก อาการ 50-50 บอกให้แม่รีบไปที่เกาะ แต่พอไปถึงลูกแม่เสียชีวิตแล้ว พอเห็นศพลูก เจอร่องรอยช้ำแปลกๆ ตามร่างกาย จนแม่คาใจสงสัยเต็มไปหมด

ขณะที่กลุ่มเพื่อนๆ บอกว่า ตอนแรกทางครอบครัวจะฌาปนกิจอยู่แล้ว แต่พอเห็นร่องรอยเยอะขนาดนี้ ทั้งที่ตอนไปไม่มีมันแปลก แล้วในเอกสารรับรองการตายระบุว่า “ไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต” ตอนที่รับศพโอ๊ค ก็มาแต่ร่าง ไม่มีเอกสารอะไรมาสักอย่าง

สิ่งที่แม่และเพื่อนๆ ค้างคาใจคือ โอ๊คเสียชีวิตเพราะอะไรกันแน่ แล้วทำไมศูนย์ถึงส่งยากลับมา ทั้งที่บอกไปก่อนแล้วว่า โอ๊คต้องกินยาตลอด ไม่ให้อาการกำเริบ แล้วจะส่งกลับมาทำไม และอีกประการคือที่ทางศูนย์บอกว่า ศูนย์มีหมอ มีจริงไหม แล้วทำไมถึงไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย

ต่อมาทางศูนย์ส่งข้อมูล และคลิปวงจรปิดมาให้ทางรายการว่า โอ๊คล้มลงไปเองแล้วเสียชีวิต ในคลิปวงจรปิดเห็นว่าโอ๊คเดินลุกจากจุดที่นอน มีอาการเดินเซๆ เดินๆ มาก้มๆ แล้วหยุดเดิน แล้วกางเกงหลุด แล้วก็ล้มลงไป

ขณะที่ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี หรือ “หมอหมู” อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ชี้ว่าจากภาพที่เห็น มันมีร่องรอยบาดแผล ร่องรอยช้ำ รอยถลอก ปะปนกันหลายแบบมาก

การชันสูตรเบื้องต้น ดูบาดแผลภายนอก หรือการตรวจสถานที่เกิดเหตุ มันไม่สามารถฟันธงได้เลยว่า ถูกทำร้ายหรือไม่ หลายต่อหลายเคส ร่างกายด้านนอกไม่มีร่องรอยอะไรเลย แต่พอผ่าศพมาพบว่าอวัยวะภายในมันบอบช้ำจากการถูกทำร้ายก็มี

อย่างเคสนี้เป็นการเสียชีวิตที่ผิดธรรมชาติแน่นอน ต้องส่งผ่าชันสูตรตั้งแต่ตอนเสียชีวิตทันที ถ้าส่งผ่าตั้งแต่ตอนนั้นก็จะไม่มีปัญหาแบบนี้ ร่องรอยบาดแผลหลายรอย มีความแปลกๆ ที่เหมือนไม่ได้เกิดจากการถูกกระแทก เป็นลักษณะรอยที่เกิดการเปลี่ยนแปลงหลังการตาย

ด้านนายกองตรี ธนกฤต ผู้ช่วยรัฐมนตรียุติธรรม บอกว่า การที่ผู้ป่วยต้องกินยาตลอด ถ้าทางศูนย์รู้เรื่องนี้แต่ละเลย ก็อาจเข้าข่ายเรื่องประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต

ในช่วงต่อออนไลน์ของรายการ นายอิดริส บุหงารัตน์ ผู้อำนวยการสถานฟื้นฟูสมรรถภาพปอเนาะเกาะศรีบอยา โฟนอินเข้ามาชี้แจงว่า ในกรณีของน้องโอ๊ค ทางครอบครัวส่งตัวน้องบำบัดยาเสพติด โดยปกติแล้วถ้าเคสมีอาการป่วยจิตเวชจะไม่รับ นอกจากมียามาด้วย ซึ่งก็ได้ย้ำว่าต้องกำชับทางญาติว่าให้เอายามาด้วย ที่บอกว่าทางศูนย์ส่งยากลับให้ที่บ้านนั้นก็ไม่จริง เพราะทางศูนย์ทราบดีว่าผู้ป่วยต้องกินยาอยู่ตลอด ยืนยันว่าที่ส่งมาครั้งแรกเป็นซองเปล่า

ทั้งสองฝ่ายโต้แย้งกันอยู่นานเพราะทางครอบครัวก็ยืนยันว่ามียาอยู่ในกระเป๋าของน้อง มีภาพถ่ายหลักฐานหมดว่าตอนที่รับตัวน้องไป มีการเอายาออกมาวาง ถ่ายรูปไว้ แต่ยานั้นก็ถูกส่งกลับมาที่บ้าน ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลอะไร

ผอ.ยืนยันว่า แม้ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ก็มั่นใจ เพราะได้สอบถามจากพนักงานที่รับตัว ว่าได้ทำตามขั้นตอนหมด ถ้าป่วยต้องมียา ถ้าไม่มียาต้องติดต่อครอบครัว แต่พอไม่รู้ มารู้เอาหลังจากผ่านไปหลายวัน ก็เลยติดต่อคุณแม่ไปวันที่ 27 ธ.ค. หลังรับตัวน้องมา 19 ธ.ค.

อีกเรื่องที่ต้องชี้แจง ก็คือค่าใช้จ่ายของทางศูนย์ แรกเข้าแค่ 5 พันบาท ต่อไปเป็นค่าอาหารเดือนละ 3 พันบาท ที่แม่จ่าย 3 หมื่นบาท ต้องไปสอบถามจากนายชลนารถ คนที่รับน้องมาส่งให้ทางศูนย์ นายชลนารถนี้นำส่งผู้ป่วยมาหลายเคสแล้ว แต่ทาง ผอ.เองก็ไม่ได้รู้จักเขา

ขณะที่ทางครอบครัวบอกว่า รู้จักคนกลางที่รับน้องไปส่งผ่านทางญาติ ทราบว่าเขาเป็นผู้สมัคร สก. ในพื้นที่ เป็นประธานชุมชน เราก็เลยประสานผ่านทางเขาไป

ท้ายที่สุด ผอ.บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนก็เสียใจและไม่เคยอยากให้เกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้น แต่ถ้ามันพิสูจน์มาแล้วว่ามันเกิดจากทางศูนย์จริงๆ ยินดีจะรับผิดชอบทุกประการ ไม่ปัดความรับผิดชอบแน่นอน หมอหมูบอกว่า เดี๋ยวผลชันสูตรจากแพทย์จะออกมา แล้วเราจะเห็นความชัดเจนแล้วว่า น้องถูกทำร้ายจริงหรือไม่ แล้วหลังจากนี้จะได้รู้ว่าต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป อย่างกรณีนี้ เมื่อแพทย์ลงสาเหตุว่า “ไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต” แปลว่าเป็นการตายผิดธรรมชาติ เรื่องนี้ตามกฎหมายอาญา พนักงานสอบสวนต้องส่งร่างไปผ่าชันสูตร เป็นความรับผิดชอบโดยตรง ก็ต้องถามว่าทำไมในเคสนี้ทางตำรวจถึงไม่มีข้อมูลตรงนี้

คุณอาจสนใจ

Related News