สังคม

"นายยะ" ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าหนี้ โต้กลับนักธุรกิจสาวอุทัยฯ

โดย gamonthip_s

7 ม.ค. 2567

472 views

ที่จังหวัดอุทัยธานี วันนี้ (7 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (6 ม.ค.) มีนักธุรกิจสาว จังหวัดอุทัยธานี ได้ร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังจากที่เธอเป็นหนี้นอกระบบจากชายคนหนึ่งชื่อว่านายยะ รวมเป็นยอดเงินต้นจำนวน 200,000 บาท โดยต้องจ่ายดอกเบี้ยวันละ 3,500 บาท รวมระยะเวลาประมาณ 3 เดือน จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ครั้งนี้ไปแล้ว 940,000 บาท โดยอ้างว่าถูกทางนายยะนั้น ข่มขู่เอาชีวิตคนในครอบครัว หลังเจ้าตัวขาดส่งเงินค่าดอกเบี้ยรายวันมา 3 วัน



โดยเมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (7 ม.ค.66) พ.ต.อ.ภคิน วรรณศรี ผู้กำกับการ สภ.หนองฉาง เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวผ่านทางเพจสายไหมออกไปตามที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้ ทางเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้สั่งการให้ชุดสืบสวนป้องกันปราบปรามลงพื้นที่ติดตามตัวฝั่งคู่กรณี ซึ่งก็คือนายยะ ซึ่งปรากฏว่าได้พบตัวจพร้อมกับภรรยา



ซึ่งหลังจากที่พบตัวทั้ง 2 ก็ได้มีการแถลงข่าวตอบโต้ โดยเอกสารการทำสัญญากู้ยืมในการลงทุนทำธุรกิจ พร้อมให้ค่าตอบแทนเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ ตลอดจนสลีปการโอนเงิน ทั้งจากที่ตนเองได้โอนไปให้นางสาวอุไรวรรณฯ และจากที่นางสาวอุไรวรรณได้โอนยอดคืนมาทั้งหมด ที่ทางนางสาวอุไรวรรณฯไปร้องผ่านทางเพจสายไหมต้องรอดนั้นว่า ไม่เป็นความจริง ขอให้ทางตนเองนั้นได้มีสิทธิ์พูดบ้าง เพราะไม่ใช่เป็นการกู้ยืมเงินนอกระบบ แต่เป็นการให้เงินก้อนดังกล่าวนั้นไปร่วมลงทุนธุรกิจที่นางสาวอุไรวรรณฯนั้นได้เสนอชักชวนมา และให้ผลตอบแทนดี ซึ่งตนเองนั้นไม่ได้รู้จักกับ นางสาวอุไรวรรณฯเป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด เป็นการรู้จักกันผ่านทางโซเชียล 



โดยตนเองนั้นก็เห็นว่าทางนางสาวอุไรวรรณฯนั้นให้เงินค่าตอบแทนดี จึงได้หาเงินจากทางญาติพี่น้องไปร่วมลงทุนกับนางสาวอุไรวรรณฯเพิ่ม ซึ่งที่ผ่านมานั้นทางนางสาวอุไรวรรณฯก็ได้ส่งเงินคืนมาให้ดีไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งเป็นทั้งเงินต้นที่ยืมไปและผลกำไรตอบแทน แต่ทางเราก็ได้มีการทำสัญญากันเอาไว้เพื่อให้เกิดความสบายใจทั้ง 2 ฝ่าย จนระยะหลังประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางนางสาวอุไรวรรณฯนั้นขาดการส่งเงินต้น และผลกำไรให้กับตนเองอย่างที่เคยส่งคืนมาให้ จึงทำให้ทางตนเองกังวลใจเป็นอย่างมาก โดยพยายามติดต่อไปทวงเงินดังกล่าวคืน แต่ทางนางสาวอุไรวรรณฯนั้นก็บ่ายเบี่ยง



พอเมื่อวานนี้นางสาวอุไรวรรณฯนั้นได้ไปร้องผ่านเพจสายไหม ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ไม่ทราบ โดยนางสาวอุไรวรรณฯ นั้นได้พูดขึ้นมาว่า ไม่มีความสามารถที่จะใช้เงินก้อนดังกล่าว พอได้ยินแบบนี้ จึงทำให้ตอนนั้นตนเองเกิดโมโหใช้ถ้อยคำที่หยาบคายไป ซึ่งไม่ได้ตั้งใจ เพราะเป็นยอดเงินที่ไม่ใช่แค่เงินของตนเองคนเดียว แต่เป็นเงินของญาติที่ตนเองได้ไปหยิบยืมมา ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นการปล่อยเงินกู้นอกระบบ และตนเองก็ไม่ได้มีอาชีพปล่อยเงินกู้แต่อย่างใด แต่เป็นการลงทุนธุรกิจร่วมกับนางสาวอุไรวรรณตามที่ได้มีการทำสัญญากันเอาไว้เท่านั้น



จึงอยากอยากจะขอความเป็นธรรมให้กับทางตนเองด้วยว่า เหตุการณ์นั้นไม่ได้เป็นไปตามอย่างที่ทางนางสาวอุไรวรรณฯ ได้ร้องไปกับทางเพจสายไหม ซึ่งก็อยากขอให้ความเป็นธรรม อยากจะให้นางสาวอุไรวรรณฯ นั้นรับผิดชอบกับยอดเงินที่ได้นำของตนเอง และญาติ ๆ ไปมาคืนอีกด้วย ตนเองขอท้าเพราะตนเองไม่ได้ทำผิดแต่อย่างใด แต่ถ้าผลสรุปออกมาว่าตนเองผิดก็จะยอมติดคุก แต่ขอให้ได้ออกมาพูดความจริงบ้างโดยวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค.) ตนเองพร้อมด้วยภรรยา และญาติ ๆ ที่เสียหาย และเป็นผู้ร่วมลงทุน ทุกคนจะเดินทางไปพบ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์

คุณอาจสนใจ

Related News