สังคม

โปรดิวเซอร์ซีรีส์ เผยพฤติกรรม 'เบียร์ เดอะวอยซ์-ผจก.' คนเอือมทั้งกอง ชี้คิดปลดตั้งแต่ก่อนมีข่าว

โดย panwilai_c

5 ม.ค. 2567

897 views

อีกหนึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเบียร์เดอะวอยซ์ คือ ล่าสุดถูกปลดจากการเล่นซีรีย์ High school bully เนื่องจากเรื่องสัญญาที่ไม่ตรงกันและประเด็นสำคัญคือพฤติกรรมของผู้จัดการ และตัวน้องเบียร์ ที่ทำให้คนในกองถ่ายไม่อยากร่วมงานด้วย และเมื่อมีข่าวทางสปอนเซอร์ ก็ขอให้เปลี่ยนตัว



ทีมข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปที่ บอส นัทธพงศ์ ไมทอง โปรดิวเซอร์ ซีรี่ย์ High school bully เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้ปลดเบียร์ออกจากการเป็นนักแสดงซีรีส์ของตนแล้ว ยืนยันเป็นการปลด ไม่ใช่ขอถอนตัวเองตามที่ผู้จัดการของเบียร์ให้ข่าว เพราะตอนแรกยังบอกว่าอยากร่วมงานด้วยกันอยู่ แต่มีเรื่องสัญญาของ 2 ฝ่ายที่ไม่ตรงกัน



สาเหตุที่ปลด เป็นเพราะพฤติกรรมของผู้จัดการของเบียร์ที่ชื่อ วา เป็นหลัก ทีมงานในกองถ่ายโดนกันหลายคนตั้งแต่แรก ทั้งพูดจาแซะ ใช้สายตาเหยียด



ส่วนตนมาเจอกับตัว คือวันอัดเพลง ผู้จัดการของเบียร์โทรมาถามเรื่องที่จอดรถ แต่พูดจาประชดประชัน ถามว่าจะให้จอดรถตรงไหน จะให้จอดกลางถนนหรอ และตอนอยู่ในห้องอัดเพลง ก็ยังพูดจาจิกกัดตน



ส่วนพฤติกรรมของเบียร์ ก็ไม่น่ารัก เช่น ตอนที่ศิลปินคนอื่นมา ก็ไหว้กัน แต่เบียร์ทำเมิน



ทีมงานมีการพูดคุยกันเรื่องการปลดเบียร์ ตั้งแต่ตอนที่มีข่าวครั้งแรก แต่ยังลังเลกันอยู่ ซึ่งกระแสหลังจากนั้น ค่อนข้างไปในทางบวก มองว่าอาจไม่กระทบเยอะ



แต่หลังจากเบียร์ให้สัมภาษณ์เมื่อคืนนี้ ผลกระทบเยอะมาก ทีมงานทุกคนส่งข้อความมาบอกว่าขอไม่ร่วมงานด้วย ในแชททุกคนด่ากันแรงมาก พฤติกรรมของทั้งเบียร์และผู้จัดการไม่น่ารัก และสปอนเซอร์ของซีรีส์ก็บอกว่า ขอให้เปลี่ยนคนเลย ไม่งั้นจะถอนสปอนเซอร์



โดยซีรีส์ตนมีทั้งหมด 4 ตอน เป็นเรื่องจบในตอน ซึ่งคิวของเบียร์ อยู่ในตอนที่ 4 มีกำหนดถ่ายทำเดือนหน้า



ตอนแรกตนยังคิดว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวให้ผู้ใหญ่คุยคงโอเค แต่เมื่อคืนคุยกัน ผู้ใหญ่บอกว่าไม่ได้แล้ว ภาพลักษณ์ตอนนี้ของเบียร์กับที่วางไว้ในซีรีส์ไม่สอดคล้องกัน คาแรคเตอร์ที่วางไว้ คือเป็นคนอ่อนแอ โดนบูลลี่ แต่ภาพลักษณ์ตอนนี้ มันกลับด้าน คนละอย่าง



ยืนยันว่าการปลดเบียร์ครั้งนี้ ไม่ใช่การรังแก ไม่ได้เกาะกระแส ทุกอย่างมีการพูดคุยกันมาล่วงหน้า แค่ยังไม่ได้ประกาศออกไป



ด้านในรายการโหนกระแสวันนี้ (5 ม.ค. 67) ได้มีการโฟนอินคุณแอนนี่ เปิดใจครั้งแรกหลังประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น ล่าสุดเมื่อวานนี้ทางเบียร์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก "biscuit beer" ว่า 4ทุ่มเจอกัน ถ้ายังไม่นอน ทุกอย่างจะจบในวันนี้"



ก่อนที่ตอน 4 ทุ่ม 20 เบียร์เดอะวอยซ์ได้ไลฟ์สดผ่านเพจ Facebook เป็นเวลา 25 นาที มียอดผู้ชมสดเกือบ 300,000 วิว ซึ่งถือว่าสูงมาก และยอดคอมเม้นต์มากกว่า 1.3 แสนคอมเม้นต์ จนเรียกได้ว่าเกิดปรากฏการณ์ #เบียร์เดอะวอยส์ ขึ้นในโลกออนไลน์



ประเด็นหลักที่เบียร์ออกมาไลฟ์สด ยอมรับว่ารู้จักกับปลื้ม ก่อนที่จะรู้จักกับแอนนี่ แต่เป็นเพียงเพื่อนกันและปลื้มก็เคยมาระบายปัญหาความรักให้ฟัง ว่ารู้สึกหมดรักแอนนี่และเหมือนเป็นตู้เอทีเอ็มและที่นอนให้ผู้หญิงคนนี้เท่านั้น



เหตุการณ์คืนเกิดเหตุ ยอมรับว่าปลื้มมาจุ๊บเธอจริง แต่ยืนยันว่าไม่มีอะไรมากกว่านั้น และพอแอนนี่มาเห็น ก็เคลียร์กันทันที



ก่อนจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายกับคนที่ทำให้เธอเสียหายทั้ง Pages ต้นเรื่อง คุณแอนนี่ รวมถึงผู้จัดการส่วนตัวคือ คุณวาวา



พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า "ต่อให้ไม่มีเบียร์ ผู้ชายเค้าก็ไม่กลับไปเอาหรอก" // และยังได้ทิ้งหินก้อนใหญ่เอาไว้ว่า ขนาดพิธีกรชื่อดัง ที่มีลูกมีเมียแล้ว ยังดีเอ็มมาหาเลย



ก่อนที่จะแคปภาพดีเอ็มพร้อมประโยคที่เขียนว่า " น่ารักมากค่ะ" ไว้ แล้วถามว่า "เลิกมาสนใจเบียร์เถอะ เอาเวลาไปสนใจดีเอ็มแฟนตัวเองดีกว่า ของใครน้า" นั่นทำให้หลายคนพุ่งเป้าไปที่คุณหนุ่ม กรรชัย



วันนี้ในรายการโหนกระแส คุณหนุ่มกรรชัยจึงได้มีการตอบในประเด็นดังกล่าว รวมถึง ได้มีการโฟนอินพูดคุยกับคุณแอนนี่ คู่กรณีของเบียร์ เดอะวอยซ์



โดยเป็นการโฟนอินเปิดใจครั้งแรก บอกว่าตอนนี้โอเคในระดับหนึ่ง ซึ่งได้ฟังที่เบียร์แถลงแล้ว มีเพื่อนส่งมาให้ดู ก่อนเล่าว่า ตนกับปลื้มคบกันมา 4 ปี แล้ว แต่รู้จักกันก่อนหน้านั้น โดยมาอยู่ที่คอนโดของปลื้มประมาณ 4 ปี อยู่กินกันฉันสามี-ภรรยา โดยยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส โดยค่าใช้จ่ายทุกอย่างในคอนโดเป็นปลื้มจ่าย ส่วนค่าอาหารแชร์กัน



ที่ผ่านมาไม่ได้มีเหตุระหองระแหง ก็เป็นชีวิตคู่ทั่วไป แต่ปัญหา ก็จะมีเรื่องที่ตนทำงาน ไม่ค่อยมีเวลาให้เขา แต่ก็พยายามหาเวลาให้เต็มที่



จากนั้น แอนนี่ เล่าว่าตนรู้จักกับเบียร์ เดอะวอยซ์ ผ่านทางวาวา ซึ่งเป็นผู้จัดการของเบียร์ พามาให้เจอ และรู้จัก และคืนงานเลี้ยงวันคริสต์มาส เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 66 โดยเป็นฝั่งเพื่อนของปลื้ม และเบียร์ก็มาร่วมงาน พร้อมกับหมามา



จากนั้นตนเข้าไปนอน แต่หากได้ยินเสียงอะไร ตนจะนอนไม่ค่อยหลับ จนตี 4 คิดว่าคนกลับไปหมดแล้ว แต่ยังได้ยินเสียงหมาอยู่หน้าห้อง ตนจึงออกไปดูก็เห็นเป็นลักษณะที่ปลื้มโน้มตัวเข้าหาฝ่ายหญิงที่นั่งอยู่



พี่หนุ่ม กรรชัย ถามว่าเห็นตอนกำลังโน้มตัว หรือโน้มตัวอยู่แล้ว แอนนี่ บอกว่า เห็นตอนโน้มตัวอยู่แล้ว แต่พอถามว่าลักษณะของฝ่ายหญิงเป็นการถอยหนี หรือนิ่งเฉย แอนนี่บอกว่า นิ่งเฉย แต่พอเห็นตนเอง ก็ผละออกจากกัน



เมื่อถามย้ำว่าตามความเข้าใจคิดว่าฝ่ายชายโน้มตัวไปจุ๊บหรือคิดว่าสองคนสมยอมกันเอง แอนนี่ บอกว่า "เขาไม่ได้มีการถอยหนี หนูว่าถ้าเกิดการจุ๊บส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการยินยอมฝ่ายเดียวหรือเปล่า" ส่วนมีการโอบกอบกันด้วยหรือไม่นั้น ตนไม่เห็น



พอตนเห็นภาพนี้ ก็รู้สึกช็อคไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเรียกปลื้มมาคุยในห้อง และให้ฝ่ายหญิงกลับไป แต่ฝ่ายหญิง รอตนกับปลื้มคุยกันเสร็จ ก็เรียกตัวเองให้ออกไปคุยข้างนอก



หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น มีการเคลียร์กับปลื้มหรือไม่ แอนนี่ บอกว่า เคลียแล้ว ซึ่งฝ่ายชายบอกว่า "หมดรักหนูแล้ว" เลยถามว่าทำไมแม่จบกันตั้งแต่แรก ทำไมทำแบบนี้ ปลื้ม บอกว่า อยากรอให้ผ่านช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ไปก่อน เพราะกลัวว่าจะเป็น Bad Christmas



ทั้งนี้ ยังไม่ได้มีโอกาสถามปลื้มว่า จูบเบียร์ทำไม ยืนยันว่า ไม่ได้กลัวคำตอบ แต่เหมือนเรารู้แล้วว่ามันคืออะไร ภาพ ทุกอย่างมันสะท้อนออกมาแล้วว่า "นี่แหละคือคำตอบ" แต่มองว่า "ปลื้มเมาอยู่นิดนึง" ซึ่งก็คิดว่า "โอเค คงเมาแหละ ให้ไปนอนก่อน ตื่นมา หายเมา สติดี ค่อยคุยกัน"



ส่วนกรณีที่มีการวิเคราะห์ว่าแอนนี่เป็นคนส่งข้อมูลให้ เพจต้นเรื่องที่ออกมาแฉ คุณแอนนี่ปฏิเสธว่าไม่ใช่ ก่อนจะบอกว่าไม่รู้จักเพจนี้เลย และตกใจที่มีคนแคปข้อความหน้าเพจ ส่วนที่หลุดไปได้อย่างไร ตนไม่ทราบ แห่ไม่ได้หลุดมาจากฝั่งของตนแน่นอน



ส่วนกรณีที่มีคลิปเสียงระหว่างเบียร์และผู้จัดการส่วนตัวหลุดออกมา ตนเพิ่งทราบว่ามีคลิปตอนที่เพจเอามาโพสต์



ส่วนที่เบียร์ออกมาไลฟ์สด ว่าเหมือนฝ่ายชายเป็นตู้เอทีเอ็ม แอนนี่ กล่าวว่า จริงๆรู้สึกตกใจเหมือนกัน ว่าทำไมมีคำพูดนี้ออกมาได้ เพราะตนไม่เคยได้ยินคำพูดนี้จากปลื้มเลย ปลื้มคนที่ซัพพอร์ตดีมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน หรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ปลื้มก็ยินดีที่ช่วยเหลือตลอด ซึ่งตนก็คืนไปหมดแล้วเช่นกัน จึงรู้สึกงงว่าหากตนต้องการเกาะฝ่ายชายจริงๆ ไม่ต้องทำงานให้เหนื่อย อยู่เฉยๆ ให้เขาเลี้ยงดีกว่าหรือไม่ เลยรู้สึกว่ามันแรงไปไหม



แอนนี่ ก็คุยกับปลื้มแล้ว ซึ่งปลื้มเองก็ค่อนข้างตกใจเหมือนกัน มองว่าแรงเกินไป ที่ผ่านมาไม่เคยระแคะระคายเลย เพราะปลื้มเป็นคนที่มีเพื่อนเยอะ ส่วนเบียร์ตนก็มองว่าเป็นน้องคนนึง ไม่ได้คิดอะไร



สถานะตอนนี้ระหว่างแอนนี่กับปลื้มเป็นอย่างไร เลิกกันแล้ว แต่ว่ามันยังเป็นเพื่อนได้ไม่สุด ก็สามารถคุยกันได้ ส่วนหนึ่งที่เลิกเพราะสาเหตุในคืนนั้นด้วย ทั้งนี้ ไม่กังวลใจ หากอีกฝั่งจะฟ้อง เพราะตนไม่ได้ทำ



เมื่อถามถึงคำพูดทิ้งท้ายของเบียร์ที่ว่า "ต่อให้ไม่มีเบียร์ผู้ชายก็ไม่" แอนนี่ กล่าวว่า ค่อนข้างตกใจ มองว่าแรง แต่มองว่าน่าจะมาจากคำพูดและทัศนคติของน้องตอนนั้นมากกว่า แต่หากเป็นมุมตัวเอง หากย้อนกลับไปก็ยังคงยินดีที่จะรู้จักทั้งปลื้มและเบียร์ เพราะอย่างน้อยก็เป็นบทเรียนให้ตนรู้ว่าบนโลกนี้ยังมีคนแบบนี้อยู่นะ และถ้าอยากสนิทกับใครควรรู้จักกับเขาให้มากกว่านี้อีกนิดนึงถึงจะเชื่อใจและไว้ใจได้ เปรียบเสมือนเป็นการเรียนรู้ หากเราย้อนกลับไปได้ ก็จะได้รู้ว่ามีคนหลายประเภทที่เขาอาจจะคิดไม่เหมือนเราหรือเขาคิดเหมือนเราหรือเขาอาจจะคิดอีกแบบกับเรา เราจะได้รับมากระวังตัวว่าเวลาใครจะเข้า ควรจะรู้จักตัวตนเขาให้ดีก่อนเปิดใจให้



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/6RHugIm2XZ4

คุณอาจสนใจ

Related News