สาวโพสคลิปกระบะตู้ทึบวิ่งเร็วพ่นควันดำ เจ้าของรถไม่พอใจบุกมาหาเรื่องถึงร้านหมูกะทะ

จากกรณีเพจดัง โพสต์เรื่องราววัยรุ่นตู้ทึบขับรถหวาดเสียว เข้ามาหาเรื่องถึงในร้านหมูกระทะ เหตุจากครั้งก่อนมีคนถ่ายพฤติกรรมการขับที่หวาดเสียวในซอย



ถามคนในซอยเสมาฟ้าครามได้เลยว่าพี่ตู้ทึบคันนี้ขับแบบนี้ตลอด ถามพ่อค้าแม่ค้าได้เลย ยิ่งมีลูกค้าอยู่เยอะขับเหยียบสนั่นถนน ถ้าพลาดมาไม่อยากจะคิดเลย แล้ววันนี้เจ้าของรถตู้ทึบคันนี้เข้ามาหาเรื่องผมถึงในร้านในสภาพที่เมามาเลย ลูกค้านั่งกินอยู่ตกใจกันหมด



ทีมข่าวลงพื้นที่ร้านทศพล หมูกระทะ ลำลูกกาคลองสอง เพื่อพูดคุยกับเจ้าของร้านในกรณีที่เกิดขึ้น ได้พูดคุยกับนายทศพล อายุ 32 ปี และ นางวนัสนันท์ อายุ 35 ปี เจ้าของร้านหมูกระทะ เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อวานนี้มีคนขับรถกระบะตู้ทึบบุกมาภายในร้านหมูกระทะ เพื่อเข้ามาหาเรื่องตนเอง โดยเข้ามาด่าทอต่อว่าตนเองเหตุที่ตนเองได้ลงคลิปวิดีโอรถกระบะของเขาบนโซเชียล และทำให้ผู้คนออกมาวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก แต่จังหวะเดียวกันแฟนของตนได้เดินออกมาจากห้องพัก พร้อมหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอพอดี เหตุการณ์เลวร้ายจึงไม่เกิดขึ้น จึงมีเพียงการโต้เถียงกัน จากนั้นก็ขับรถออกไป



ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือน สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ตนเองได้โพสต์คลิปรถกระบะสีขาวตู้ทึบไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับมาด้วยความเร็วบนถนนสาธารณะ และเป็นชุมชน คนขับรถกระบะดังกล่าวจะขับด้วยความเร็วเป็นประจำ



ซึ่งตนเองได้รับผลกระทบ เนื่องจากตนเองเปิดร้านหมูกระทะอยู่ เวลาลูกค้าเข้ามาทานอาหาร รถกระบะคันดังกล่าวก็จะขับมาด้วยความเร็ว ทำให้ควันรถพุ่งเข้ามาภายในร้าน ลูกค้าบางคนถึงกับอุดจมูกหรือกระโดดหนี สาเหตุที่ตนเองถ่ายคลิปลงโซเชียล เนื่องจากตนเองอยากให้คนขับรถได้เปลี่ยนพฤติกรรมการขับรถให้ดียิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับผู้อื่น อีกทั้งคลิปดังกล่าวไม่เห็นว่ารถของใคร เพราะไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียน และไม่เห็นหน้าตาคนขับอีกด้วย

ซึ่งคลิปดังกล่าวมีผู้คนเข้ามาดูถึง 1.6 ล้านคน จึงอาจเป็นสาเหตุที่คนขับรถคันดังกล่าว เข้ามาหาเรื่องตนเองถึงภายในร้านหมูกระทะ ซึ่งตนเองก็ยังแปลกใจ ในเมื่อเรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคม ผ่านมาแล้ว ถึง 4 เดือน แต่ทำไมเจ้าของรถกระบะถึงพุ่งเข้ามาหาเรื่องตนเอง หรืออาจจะเป็นเพราะดื่มสุรามาก็เป็นได้



ทั้งนี้ตนเองได้เข้าไปแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.คูคต เนื่องจากเกรงว่าฝ่ายคู่กรณีจะเข้ามาทำร้ายตนเองอีก