หนุ่มร้องสายไหมต้องรอด หลังถูกลูกน้องกำนันยิงผิดตัว กระสุนฝังกระโหลกศีรษะ

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ลงโพสต์ระบายถึงเหตุการณ์ที่เจ้าตัวถูกคนร้าย ซึ่งเป็นลูกน้องกำนัน ยิงผิดตัว เมื่อช่วงกลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา กระสุนฝังกระโหลกศีรษะ ต้องพักรักษาตัวอยู่นาน แต่สุดท้าย หลังจากเกิดเรื่องผ่านมาเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน คดีกลับไม่คืบ หนำซ้ำทางผู้ก่อเหตุกลับลอยนวลใช้ชีวิตปกติ

ซึ่งทางเจ้าตัวได้มีการโพสต์ระบายถึงเหตุการณ์ดังกล่าว บางช่วงบางตอน ว่า “ บางครั้งก็งงกับความยุติธรรมของประเทศไทย ผมเป็นคนโดนยิงหัวแท้ ๆ กระสุนเจาะกะโหลกทะลุถึงสมอง โดยที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย แม้แต่คำขอโทษสักคำก็ไม่มี ไม่เคยมาเยียวยาดูแลรับผิดชอบอะไรเลยแม้แต่น้อย คนโดนยิงแบบผมก็ต้องดิ้นรนสู้ชีวิตต่อไป โดยที่ไม่รู้ว่าจะตายวันหรือตายพรุ่ง แต่กลับกันคนที่ยิงใช้ชีวิตสุขสบายนั่งกินเหล้า ไปเที่ยวนู่นเที่ยวนี่ นี่ก็ผ่านมาจะ 2 เดือนแล้ว ไม่เห็นจะมีอะไรคืบหน้าเลย มีแต่บอกว่าให้รอ โดยที่ไม่รู้ว่าต้องรออะไรเหมือนกัน หรือต้องรอให้ตายก่อนถึงจะคืบหน้า ผมเงียบมานานเกินพอละ #ท้อแล้วนะเว้ย


ล่าสุดวันนี้ทางผู้เสียหาย นายเอ (นามสมติ) ได้เดินทางมาที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากเพื่อนของตนเอง ชื่อนายบี มีปัญหากับคู่กรณีจากเรื่องอะไรตนเองไม่ทราบ แต่มีการนัดต่อยกันตัวต่อตัว เพื่อเคลียร์ปัญหาแบบลูกผู้ชาย


ซึ่งในวันดังกล่าวที่นัดต่อยกัน ตนเองเพิ่งเลิกงานกลับมา และจะมาดูว่าเพื่อนมีเรื่องอะไรกันพอมาถึงที่เกิดเหตุได้ไม่ถึง 10 นาที ตนเองเห็นฝั่งคู่กรณีหันกระบอกปืนมาทางฝั่งของตนเอง และลั่นไกทันที จังหวะนั้นตนเองยังไม่ทราบว่าใครถูกกระสุนหรือไม่ แต่สักพักตนเองเริ่มรู้สึกเจ็บที่บริเวณศีรษะ จึงใช้มือจับปรากฏว่ามีรอยกระสุนและเลือดไหลอาบลงมาที่หน้า ถึงได้รู้ทันทีว่าตนเองถูกกระสุนจากฝั่งคู่กรณี


หลังเกิดเหตุเพื่อนได้พาตนเองส่งโรงพยาบาล และพักรักษาตัว ICU อยู่ 7 วัน ส่วนทางคดีพนักงานสอบสวน ได้ส่งฟ้องคดีอยู่ชั้นศาล แต่ที่ตนเองกังวลคือทางฝั่งคู่กรณีมือยิงเป็นลูกน้องของกำนันในพื้นที่และมีนายกอบต. แห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรามาประกันตัวผู้ก่อเหตุออกไป


ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้คดีผ่านไป 1 เดือนกว่าตนเองยังไม่ได้รับการติดต่ออะไรเพิ่มเติมจากทางตำรวจ และทางฝั่งคู่กรณีก็ยังไม่ได้ติดต่อมารับผิดชอบเยียวยา หนำซ้ำยังใช้ชีวิตกินเที่ยวเล่นปกติ ตัวเองเคยเจอคู่กรณีที่งานวัดโดยบังเอิญ กลุ่มของคู่กรณีก็ยังเดินลอยหน้า ลอยตา และมองตนด้วยสายตาไม่ได้รู้สึกผิดอะไร


เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตนเอง และกลุ่มเพื่อนกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัย และอิทธิพลของนักการเมืองท้องถิ่นที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือทางฝั่งคู่กรณี วันนี้จึงต้องร้องขอความเป็นธรรมจากสายไหมต้องรอดให้ช่วยคุ้มครองเรื่องความปลอดภัย และเร่งรัดคดีให้เอาคนผิดติดคุก

ด้านนายเอกภพ เปิดเผยว่า หลังจากทราบเรื่องดังกล่าว ตนเองรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันอุกอาจ แล้วมีอิทธิพลของนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือ มท.1 สั่งให้กวาดล้างผู้มีอิทธิพลและเรื่องอาวุธปืน ซึ่งทราบมาว่า ผู้ก่อเหตุทางพนักงานสอบสวน ส่งฟ้องใน 2 ข้อหา พยายามฆ่ากับคดีอาวุธปืน แต่กลับได้รับการประกันตัว โดยมีนักการเมืองท้องถิ่นช่วยเหลือ หลังจากนี้ตนเองจะพาคนเจ็บเข้ากระบวนการคุ้มครองพยาน และเร่งรัดเรื่องคดีความให้