ทั้งใจให้เธอ! โจรลักตู้เซฟขนขึ้นจักรยาน นำเงินซื้อทอง-ใช้หนี้ ฝากใส่บัญชีเมีย พอโดนจับได้ ออกโรงป้องฝ่ายหญิงไม่รู้ด้วย

วานนี้ (23 ธ.ค.) ตำรวจ สภ.อุทัย และตำรวจภูธจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยชุดสืบสวน ใช้โดรนบินสำรวจมุมสูงและนำกำลังเข้าจับกุม นายณรงค์ อายุ 58 ปี พร้อมของกลางรถ จยย.พ่วงข้าง ได้ที่บริเวณลานวัดกล้วย ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา



หลังก่อเหตุงัดร้านขายส่งรองเท้า ริมถนนโรจนะ ขาเข้า บริเวณสามแยกตลาดแกรนด์ ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วยกตู้เซฟ ภายในมีเงินสด 95,000 บาท จากนั้นควบคุมตัวไปค้นที่ห้องพัก ตรวจยึดรถจักรยานปั่นที่ใช้ในการก่อเหตุ และควบคุมตัว นางนิตยา อายุ 46 ปี ที่ร่วมกันการก่อเหตุ จากการตรวจค้นภายในห้องพักพบทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ โดยเฉพาะกระเป๋าแบรนด์เนม จำนวน 1 ใบ ซึ่งผู้ต้องหาไม่รู้มีราคาแพง



พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เผยว่า ช่วงเวลา 03.00 น. วันที่ 23 ธ.ค. มีคนร้ายงัดร้านแล้วเข้าไปยกตู้เซฟขนาดใหญ่ ซึ่งมีเงินสดและทรัพย์สินจำนวนมาก พร้อมกับเซฟเวอร์กล้องวงจรปิดหลบหนีไป หลังเกิดเหตุชุดสืบสวน สภ.อุทัย, ชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้ลงพื้นที่หาข่าวและตรวจสอบกล้องวงจรปิด กระทั่งพบคนร้ายปั่นจักรยานขนตู้เซฟขนาดใหญ่ ไปตามถนนโรจนะ



เนื่องจากตู้เซฟขนาดใหญ่มีน้ำหนักมาก ทำให้ตู้เซฟตกระหว่างทาง จากนั้นได้โทรศัพท์ตามภรรยา ขี่รถ จยย.พ่วงข้างมาช่วยขนตู้เซฟกลับห้องพัก แล้วงัดตู้เซฟนำทรัพย์สินบางส่วนไปขาย ส่วนเงินสดนำไปใช้หนี้ ซื้อทองรูปพรรณ เงินอีกส่วนหนึ่งฝากธนาคารให้ภรรยา เหลือเงินสดอยู่ประมาณ 10,000 บาท นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุงัดร้านกาแฟในพื้นที่ของ สภ.อุทัย ด้วย



นายณรงค์ สารภาพว่า ตนเคยรับจ้างขับรถ แต่ช่วงโควิด-19 ตกงานหางานทำไม่ได้ เพราะอายุมาก มาเก็บของเก่าขายรายได้ไม่เพียงพอ จึงออกตระเวนขี่จักรยานงัดร้านค้า ขโมยเอาทรัพย์สิน วันเกิดเหตุงัดเข้าไปแล้วพบตู้เซฟจึงขนเอาตู้เซฟขนขึ้นจักรยาน แล้วขี่หลบหนี แต่ตู้เซฟหนัก จึงเรียกให้ภรรยามาช่วย และภรรยาก็ไม่รู้ว่าตนขโมยเอาตู้เซฟมา

https://youtu.be/MinZUG9N7vY