สังคม

สาว PR แจ้งจับ 6 ตร. 'รีดเงิน พาไปข่มขืน' แลกไม่ดำเนินคดีสามี - ปล่อยโฮพาชี้โรงแรมเกิดเหตุ

โดย parichat_p

12 ธ.ค. 2566

1.1K views

สายไหมต้องรอดพาพีอาร์สาว ลงพื้นที่ในจังหวัดปทุมธานีชี้จุดกดเงิน และโรงแรมที่ถูกตำรวจพาไปข่มขืน แลกกับค่าเหนื่อยที่ต้องเจรจานายให้เปลี่ยนของกลางจากยาเคเป็นยาบ้า 2 เม็ด แถมต้องเสียเงินอีก 330,000 บาท


10.00 น.ที่ผ่านมา นาย เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พา พีอาร์สาวพร้อมสามี มาขอความช่วยเหลือกับ นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี หลังสองสามีภรรยาคู่นี้ ถูกตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดปทุมธานี รีดเงินไป 330,000 บาท และตัวภรรยายังถูกตำรวจนายหนึ่งข่มขืน โดยอ้างว่าเป็นค่าแรงที่ช่วยเหลือไม่ให้สามีติดคุก


เธอ เล่าว่า เหตุเกิดช่วงค่ำของวันที่ 23 พฤศจิกายน สามีขับรถมาส่งเธอทำงานเป็นพีอาร์ที่ร้านอาหารตามปกติ แต่ไม่ถึง 5 นาที รถยนต์ของตำรวจ 3 คันก็เข้ามาจอด แล้วถามเธอว่า "ของอยู่ไหน" จากนั้นก็มาค้นกระเป๋าเธอ เจอยาเคในซองพลาสติกที่เธอซื้อให้สามีเสพ ก่อนจะจับแยกนั่งไปคนละคัน ยึดโทรศัพท์มือถือ และพาไปที่ถนนเส้นมอเตอร์เวย์ ตรงช่วงคลอง 5 ธัญญบุรี บังคัยให้เธอล่อซื้อจากคนอื่นอีก แต่เธอติดต่อใครไม่ได้


ตำรวจจึงได้พาไปที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี และยื่นข้อเสนอว่า ถ้ายอมจ่าย 3 แสน จะช่วยเปลี่ยนของกลาง และไม่ให้สามีติดคุก โดยพูดกับผู้เสียหายว่า "ถ้ามึงไม่อยากติดคุกเดี๋ยวกูคุยกับนายให้ เอาเงินมา 300,000" แต่พอได้เงินไปแล้วยังไม่พอใจ ยังขอมีเพศสัมพันธ์กับเธอ และขอค่าเหนื่อยอีก 30,000 อ้างว่า เป็นค่าเสียเวลาที่เขาคุยกับผู้บังคับบัญชา เธอไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องยอม


หลังจากเสียทั้งตัวและเงิน เธอก็ปิดบังเรื่องนี้กับสามีมาตลอด จนสามีสังเกตเห็นความผิดปกติ จึงยอมเล่าความจริงให้ฟังและตัดสินใจ เข้าร้องกับเพจสายไหมต้องรอด และแจ้งความที่ สภ.ประตูน้ำจุฬา แล้ว แต่กลัวว่าอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคู่กรณีเป็นตำรวจทั้งหมด


ซึ่งนายกองตรี ธนกฤต ได้รับเรื่องและประสานไปยังโฆษกอัยการสูงสุด และกรมสอบสวนคดีพิเศษให้ดำเนินคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อุ้มหายและทรมาน พร้อมยืนยันว่าตำรวจทั้งเจ็ดนายนั้นเข้าข่ายการกระทำความผิดอย่างชัดเจน เพราะระหว่างการจับกุมไม่มีการบันทึกภาพวิดีโอเป็นหลักฐาน ตั้งแต่กระบวนการจับกุมจนถึงขั้นตอนพนักงานสอบสวน


เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทีมข่าวลงพื้นที่จุดที่ผู้เสียหายอ้างว่าตำรวจพาขึ้นรถมาตระเวนกดเงิน จุดแรกช่วงเวลา 23.32 น. ตู้เอทีเอ็มในจุดแรกตั้งอยู่หน้าบริษัทแห่งหนึ่ง ริมถนนปทุมธานี ตำบลคูบางหลวง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี โดยสภาพแวดล้อม จุดที่เข้ามากดเงิน ตั้งอยู่ริมถนน หน้าโรงงานแห่งหนึ่ง ไม่ใช่จุดชุมชน มีลักษณะเป็นสะพานไม้ชำรุด และค่อนข้างเปลี่ยว


จุดนี้ผู้เสียหายใช้บัตรเอทีเอ็มกดเงินครั้งละ 3 หมื่นบาท 7 ครั้ง ตั้งแต่ 23.43 น. ครั้งสุดท้าย 20,000 บาท ในเวลาเที่ยงคืน 48 นาที โดยที่ตำรวจไม่ได้ลงจากรถ สาเหตุที่ใช้เวลานานเพราะจะต้องโทรหา คอลเซ็นเตอร์เพื่อขยายวงเงิน จาก 100,000 บาทเป็น 200,000 บาท แต่ยังขาดอีก 1 แสน เพราะเต็มวงเงินไม่สามารถกดได้อีก เธอต้องโอนเงินอีก 160,000 บาท เข้าบัญชีสามี ก่อนจะกลับไปเอาบัตรเอทีเอ็มที่ห้องพัก แล้วไปกดเงินยังจุดที่ 2


จุดที่ 2 แถวซอยรังสิต-นครนายก 18 เธอกดเงินออกมา 1 แสน 3 หมื่นบาท ให้ตำรวจ 1 แสนบาท ส่วนอีก 30,000 บาท เตรียมไว้เพื่อประกันตัวสามี แต่กลับถูกบังคับพาไปโรงแรมแห่งหนึ่งย่านตลาดรังสิต และข่มขืนกระทำชำเรา แถมยังเอาเงิน 30,000 ที่เตรียมไว้ประกันตัวสามีไปด้วย


เธอบอกว่าเงินที่จ่ายไปเป็นเงินเก็บจากการทำงาน และเป็นเงินที่ได้รับจากการชดเชยเยียวยาครั้งที่ร้านมีเหตุทะเลาะวิวาท และเธอโดนตีหัวแตกได้ค่าชดเชยมา 100,000 บาท ซึ่งเชื่อว่า ที่ตำรวจจับเธอ น่าจะเกี่ยวกับนายกอล์ฟ คนรู้จักกันในสถานบันเทิงย่านคลอง 2 ที่เป็นคนปล่อยยาเคให้เธอ


ต่อมาทีมสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหายไปชี้จุดที่โรงแรม จุดนี้เธอร้องไห้ และเปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตำรวจที่กระทำชำเราไม่สวมถุงยางอนามัยป้องกันด้วย


จากนั้นทีมสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหายมายัง สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อให้ปากคำกับตำรวจเพิ่ม พันตำรวจเอก ปริญญา ทองมา ผู้กำกับการ สภ. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ สั่งชุดสืบสวนเก็บกล้องวงจรปิด ทั้งโรงแรม ตู้เอทีเอ็มที่มีการกดเงิน รวบรวมในสำนวนหมดแล้ว คดีนี้ไม่ยาก เพราะผู้เสียหายระบุตัวได้ชัดเจน และมีหลักฐานครบ ขั้นตอนหลังจากนี้ให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย เพื่ออนำมาประกอบสำนวน


ขณะที่ตำรวจ 6 นายที่ถูกกล่าวหา ได้แก่ ร้อยตำรวจตรี ดาบตำรวจ จ่าสิบตำรวจ สิบตำรวจเอก  ทั้งหมดเป็นชุดปฏิบัติการพิเศษของตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/a2lFSL8E07Y

คุณอาจสนใจ

Related News