ยายกู้นอกระบบ 7 เจ้า หนี้ท่วมหัวจนสามีผูกคอตาย เอาเงินฌาปนกิจมาใช้หนี้ เจอบุกทวงให้ตายตามไปอีกคน

ยายวัย 60 ปี ร้องสายไหมต้องรอด หลังเป็นหนี้นอกระบบงูกินหาง หมดปัญญาจ่ายดอกวันละ 3,000 บาท เจ้าหนี้บุกทวงจนทนไม่ไหว เคยปรึกษาตาคู่ชีวิต อาจต้องยอมตายซักคน เอาเงินฌาปนกิจมาใช้หนี้ สุดท้ายตาผูกคอตาย แต่ยังใช้หนี้ไม่หมด เจ้าหนี้บุกทวง ถ้าส่งดอกไม่ได้ ให้ตายตามไปอีกคน ก่อนเผย คิดจะตายตามคุณตาไป เขียนจดหมายสั่งลา-ซื้อยานอนหลับเตรียมไว้กินแต่เป็นห่วงหลาน 2 คน ล่าสุดประสาน ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ จะเร่งตรวจสอบและนำตัวมาดำเนินคดี ส่วนเจ้าหนี้รายอื่น หากตรวจสอบแล้วว่า ส่งดอกเบี้ยไปจนทบต้นแล้ว จะเรียกมาพูดคุยเจรจาและให้จบหนี้

ความคืบหน้ากรณียายสมัย อายุ 60 ปี เดินทางมาจาก จ.อุตรดิตถ์ เพื่อร้องต่อนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังจากสามีตัดสินใจผูกคอเสียชีวิต เพื่อนำเงินฌาปนกิจมาใช้หนี้เงินกู้นอกระบบ เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายดอกลอยวันละ 3,000 บาท

วานนี้ (11 ธ.ค.) ยายสมัยเปิดเผยกับทีมข่าว ตนและสามี มีอาชีพขายหอมแดงและกระเทียม เลี้ยงหลานอีก 2 คน (หลานชาย17 ปี  /หลานสาว 5 ขวบ) โดยปกติตนเป็นคนมีเงินจากการค้าขาย แต่หลังจากเจอวิกฤตโควิด-19 ทำให้การค้าขายไม่ดี จึงต้องกู้เงินมาใช้จ่ายลงทุนทั้งในและนอกระบบ เพื่อนำมาลงทุนในการค้าขาย แค่ขายไม่ดีทำให้ต้องกู้เพิ่มจนกลายเป็นงูกินหาง จึงทำให้หาเงินมาจากดอกเจ้าหนี้ประมาณ 7 เจ้าไม่ทัน

โดยแต่ละวันต้องจ่ายดอกประมาณ 3,000 บาท จนเมื่อวันที่ 23 พ.ย. หนึ่งในเจ้าหนี้ ชื่อนายสุดหล่อ  ชอบโทรมาทวงเงินและมักจะด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายรุนแรง ได้ติดต่อมาทวงเงินโดยโทรไปที่เบอร์ของคุณตา (สามี) ด่าคุณตาแบบรุนแรง แต่คุณตาบอกไม่มีเงินจ่ายทั้งตัวมี 103 บาท จึงต่อรองจ่าย 70 บาท แต่นายสุดหล่อไม่ยอม สุดท้ายคุณตาต้องโอนเงินไป 100 บาท ที่ทั้งวันยังไม่ได้กินข้าว

วันนั้นคุณตาเมาปรึกษาตนเองว่าทั้งตัวมีเงิน 3 บาท และวันพรุ่งนี้เจ้าหนี้ต้องมาทวงเงินอีก พร้อมบอกว่าหากหาเงินไม่ได้ต้องมีใครสักคนตายเพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ โดยคุณตาได้ออกอุบายให้ยายไปตามหลานเขยมาที่บ้านแต่เมื่อกลับมาถึงพบบ้านล็อก จึงให้หลานเขยปีนบ้านพบว่าคุณตาผูกคอตาย

ยายสมัย เปิดเผยอีกว่า ตนเป็นคนไปยืมเงินเพื่อมาใช้จ่ายในครอบครัว มีเจ้าหนี้ในระบบเป็น ธกส. และหนี้นอกระบบอีก 7 เจ้า แต่บางส่วนไม่ได้ทวงแบบรุนแรงแต่ตนก็ไม่มีจ่าย เพราะเคยไปหยิบยืมจากเพื่อนมาใช้หนี้นอกระบบตนเป็นหนี้ท่วมตัว หาใช้อีกไม่ได้แล้ว หลังคุณตาเสียชีวิตได้เงินฌาปนกิจมาประมาณ 160,000 บาท บาท ธกส.หักไป 100,000 บาท เหลือ 60,000 บาท เอาไปจัดงานศพ 80,000 บาท แต่เงินไม่พอ ชาวบ้านจึงช่วยกันทำบุญได้ประมาณ 40,000 บาท โดยแบ่งไปจ่ายเจ้าหนี้ที่ทวงในงานศพคุณตา 20,000 บาท ทำให้ยายไม่เหลือเงินแล้วสักบาท ยายยังไม่ทราบว่าต้องจ่ายหนี้อีกเท่าไหร่

หลังจากที่คุณตาเสียชีวิต เจ้าหนี้ก็ยังโทรมาทวงเงินจึงมีความคิดที่จะตายตามคุณตาไปเพราะเจ้าหนี้พูดว่า “ถ้ายายตายหนี้ก็จบ” ตนได้เขียนจดหมายสั่งลา ซื้อยานอนหลับมาเตรียมไว้กินหวังจะฆ่าตัวตาย แต่ที่ไม่ทำเพราะเป็นห่วงหลาน 2 คน เพราะตั้งแต่เป็นหนี้มาหลาน 2 คน ไม่มีเงินไปโรงเรียนอดมื้อกินมื้อ บางวันขอข้าวจากครูที่โรงเรียนเพื่อกลับมากินที่บ้าน ตอนที่คุณตายังไม่เสียชีวิตยายเคยชวนคุณตาหนี แต่คุณตาไม่หนียืนยันจะยังคงจ่ายหนี้ทั้งหมด สิ่งที่ต้องการที่สุดในตอนนี้คืออยากให้มีคนมาช่วยเจรจาผ่อนหนักให้เป็นเบา เพราะหนี้ที่มีอยู่ไม่มีกำลังจ่าย

สำหรับยอดหนี้ของยายสมัย ประกอบด้วย ธกส. 400,000 บาท กู้มาทำบ้าน รถกระบะ 160,000 บาท เข้าไฟแนนซ์ แต่ที่เป็นเรื่องหนักก็คือหนี้นอกระบบ ดอกเบี้ยลอยตัว 7 เจ้า ปิดไปแล้ว 2 เจ้า เหลืออีก 5 เจ้า ได้แก่  

1.เจ้านายสุดหล่อ กู้เงินมา 20,000 บาท ส่งดอกวันละ 400 บาท ส่งไป 96 วัน

2.เจ้านายไผ่ กู้เงินมา 15,000 บาท ส่งดอกวัน 750 บาททุกวัน ส่งดอก 24 วันจบ ส่งมาเป็นปีแล้ว (จ่ายไม่ครบ วันละ 300-600 บาท)

3.เจ้านายโอ 20,000 บาท (ปิดไปแล้ว)

4.เจ้าอื่น ๆ  กู้ 20,000 บาท

เจ้าที่ 5 กู้ 30,000 บาท แต่ไม่ได้มีการทวงโหด รวมทั้งยังยืมชาวบ้านและเพื่อนบ้านนับไม่ถ้วนเพื่อมาจ่ายหนี้นอกระบบ

ขณะเดียวกันยายสมัย ลองโทรศัพท์ไปหาเจ้าหนี้ที่ชื่อ ‘นายไผ่’ ว่าวันนี้จะขอส่งค่าดอก 200 บาท ก่อนได้ไหม โดยนายไผ่บอกให้โอนมาพรุ่งนี้จ่ายให้เต็มล่ะ 400 ยายบอกไม่มี นายไผ่บอก ถ้าอย่างนั้นโอนมาวันละ 300 ทุกวัน 200 มันไม่ได้เขาด่าผมนะสิ 600 มาส่ง 200 ป้าก็บ้าอีกแล้ว ส่งวันละ 300 เถอะ ป้าบอกไม่มีให้ นายไผ่ บอกเอาเงินไปส่งคนอื่นหมดน่ะสิ เดี๋ยวมีปัญหากันอีกอุตส่าห์คุยกันดี ๆ แล้ว หาโอนส่งมาวันละ 300 จบ ไม่ต้องคุยกันมาก

ด้านป้าติ่งและป้าต้อย (นามสมมุติ) เพื่อนบ้านของยายสมัย บอกว่า เห็นเจ้าหนี้มาทวงยายสมัย บ่อย ทั้งดุด่าข่มขู่ไล่ให้ไปตาย บางวันเห็นยายสมัยร้องไห้ หนักสุดมาปรึกษาเรื่องการฆ่าตัวตาย มีการวางแผนถ้าตายจะเอาเงินไปจ่ายหนี้เจ้าไหนบ้าง ป้าติ่งและป้าต้อย สงสารจึงทักไปหาหลายเพจเพื่อให้ช่วยเหลืออีกทั้งยังถูกชาวบ้านประณามว่าเป็นต้นเหตุให้สามีตาย พอยายมาเจอเรื่องหลายอย่างผสมรวมเข้าด้วยกัน เลยทำให้เครียดเพราะคิดเองว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ตาตาย

ป้าติ่งและป้าต้อย ยังบอกอีกว่า ตนเองเข้าใจหัวอกของยายสมัย เพราะตัวเองก็เป็นหนี้เหมือนกัน  เคยแก้ปัญหาโดยการไปร้องศูนย์ดำรงธรรมศูนย์ ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าแก้ไปก็ไม่มีประโยชน์ และต้องรอนโยบายใหม่ของรัฐบาลในเดือนมีนาคมปีหน้า อีกทั้งยังเคยไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ทำอะไรให้ไปจ่ายหนี้เอาเอง

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  กล่าวว่า ภายหลังเพจสายไหมต้องรอดรับเรื่องร้องเรียนแล้ว วันนี้ (12 ธ.ค.) จะพายายสมัย เดินทางไปพบ พล.ต.ต. สุทธิพงศ์ เป๊กทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อหารือแนวทางในการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/FPXqnloF6DM