สังคม

"เชฟอ้อย" เปิดใจดรามา "แฟรนไชส์ลูกชิ้น" แจงผู้ซื้อทำผิดสัญญา ดัดแปลงสูตร

โดย nutda_t

11 ธ.ค. 2566

5.2K views

ประเด็นร้อนแรงที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ เรื่อง ดรามาแฟรนไชส์ลูกชิ้นเจ้าดัง เมื่อเพจเฟซบุ๊กหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวของผู้ที่ซื้อ "แฟรนไชส์ลูกชิ้น" จากเชฟชื่อดัง โดยอ้างว่า ระบบแฟรนไชส์ไม่ได้มีความเป็นธรรมกับผู้ซื้อ มีคนที่ได้รับผลกระทบแบบเดียวกัน 30-40 คน ลงทุนไปหยิบยืมมาว่าจะสร้างตัวได้ แต่กลายเป็นตอนนี้เป็นหนี้ทวีคูณ

ต่อมาเพจ charm Garden ของเชฟอ้อย เชฟเจ้าของแฟรนไชส์ลูกชิ้น ได้มีการโพสต์โต้ตอบว่า มีเพจเพจหนึ่งได้ทำการลงข้อความและรูปภาพ ซึ่งข้อความดังกล่าว "เข้าข่ายการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และ พ.ร.บ.คอมฯ"

ทางเชฟอ้อย จึงจำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด ทั้งผู้โพสต์ ผู้ที่คอมเมนต์ ในทางที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหาย และผู้ที่แชร์ต่อ ทางเชฟขอเรียนย้ำให้ทราบว่า ทางเชฟอ้อยจะดำเนินคดีข้อหา "หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และ พ.ร.บ.คอมฯ" กับทุกคนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ และจะไม่ขอรับคำขอโทษ คำขอขมา หรือยอมความใดๆ เพื่อให้เป็นเคสตัวอย่างต่อไป

นอกจากนี้ เชฟอ้อย ยังไลฟ์สดตอบโต้ ด่าผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ไปอย่างดุเดือด ว่าผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ ทำไปแล้วขาดทุน เพราะไม่ซื่อสัตย์ มีความโลภ หนำซ้ำยังแอบทำแบรนด์มาแข่งและขายข้ามจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 3 ได้สอบถามเชฟอ้อย โดยเชฟอ้อย อธิบายว่า เรื่องราวดรามาทั้งหมดที่เกิดขึ้น เริ่มครุกรุ่นมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เมื่อผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์รุ่นที่ 2 ประมาณ 4-5 ราย ที่มีปัญหาตั้งแต่เรื่องการส่งเครื่องทำลูกชิ้นล่าช้า ก็ออกมาโวยวายไม่พอใจ ซึ่งตนเองได้อธิบายไปแล้วว่าเครื่องทำลูกชิ้นถูกส่งมาจากประเทศจีน และติดปัญหาเรื่องพายุเข้า ทำให้การขนส่งมีความล่าช้า จนสุดท้ายตนเองก็ส่งเครื่องทำลูกชิ้นให้กับผู้ซื้อแฟรนไชส์ครบทุกราย

แต่ปัญหาก็ยังไม่จบ เมื่อผู้ซื้อแฟรนไชส์บางราย ถูกลูกค้าคอมเพลนมาที่ตนเองว่า ไปซื้อลูกชิ้นจากแฟรนไชส์ในจังหวัดนี้ จังหวัดนั้น รสชาติไม่เหมือนกับต้นฉบับ , คุณภาพไม่ได้ , ด้านในลูกชิ้นเละ ไม่สุก ตนเองพร้อมทีมงานเคยลงไปตรวจสอบกับแฟรนไชส์เจ้าดังกล่าว ก็พบว่ามีการดัดแปลง ไม่ทำลูกชิ้นตามสูตรที่ตนเองสอนไป ซึ่งเคยว่ากล่าวตักเตือนไปแล้วหลายครั้ง จนสุดท้ายไม่ไหวจริงๆ จำเป็นที่จะต้องยกเลิกแฟรนไชส์ นอกจากนี้ยังเคยจับได้ว่า ผู้ซื้อแฟรนไชส์บางรายดัดแปลงสูตรและทำแบรนด์ขึ้นมาแข่ง หรือบางราย แอบไปขายข้ามจังหวัด ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ทำสัญญาตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก ตนเองก็จำเป็นต้องยกเลิกแฟรนไชน์ในที่สุด

สำหรับประเด็นเรื่องที่ตนเองตักลูกชิ้นให้ลูกค้าจนล้นถุง ส่วนของแฟรนไชส์ตักให้แค่ครึ่งถุงและอ้างว่าขาดทุน เชฟอ้อย ยืนยันว่า ราคาต้นทุนที่เชฟอ้อยรับมาถุงละ 90 บาท ไม่ใช่ 60 บาท ตามที่มีผู้กล่าวอ้าง ซึ่งราคาที่ตนเองตั้งขายกับปริมาณที่ให้ล้นถุง ก็ยังขายได้กำไร ดังนั้นที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์บอกว่า ขายขาดทุน เพราะไม่รักษามาตรฐานไม่รักษาคุณภาพ และไม่ซื่อสัตย์กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าหายเอง

ส่วนดรามาที่เกิดขึ้น ว่ามีผู้เสียหายที่เป็นผู้ซื้อแฟรนไชส์ 30 - 40 ราย เชฟอ้อย บอกว่า ตนเองกล้าท้าเลย ถ้ามีผู้เสียหายเยอะขนาดนั้นให้ออกมา ตนเองพร้อมชี้แจงทุกกรณี ผู้ซื้อแฟรนไชส์อีกหลายราย ที่ทำการค้าขายได้ปกติไม่มีปัญหา หลังเกิดเรื่องก็ยังมีผู้ซื้อแฟรนไชส์รายอื่นๆส่งกำลังใจมาให้ และเรื่องที่เกิดขึ้นตนเองมองว่า คนที่เสียหายคือตนเอง

คุณอาจสนใจ

Related News