มวยถูกคู่! ‘แมน’ ปะทะ ‘เชฟอ้อย’ โต้คารมเดือด ‘แฟรนไชส์ลูกชิ้น’ ด่ามาวันนั้นขอด่ากลับวันนี้

วันที่ 11 ธ.ค. 66 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ “เชฟอ้อย” เจ้าของแฟรนไชส์ลูกชิ้น พร้อมด้วย แมน, เล้ง และอีกหลายผู้เสียหายที่ซื้อแฟรนไชส์และประสบปัญหาสารพัด พร้อมด้วย ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์

“แมน” หนึ่งในผู้เสียหาย ที่ซื้อแฟรนไชส์ลูกชิ้น “เชฟอ้อย” รวมตัวร้อง จ่ายค่าแฟรนไชส์ 2 แสน หวังจะมาสร้างรายได้ แต่ “เชฟอ้อย” กลับเบี้ยวสัญญา ส่งอุปกรณ์ทำลูกชิ้นล่าช้าจนเสียโอกาสทำมาหากิน พักหลังๆ ขายไม่ดี แบกรับต้นทุนไม่ไหว จึงหยุดกิจการลูกชิ้น แล้วผันตัวมาขายก๋วยเตี๋ยว แต่กลับถูก “เจ๊อ้อย” โทรมาด่าว่าขายก๋วยเตี๋ยวเหมือนกับเขา

“ก๋วยเตี๋ยวคุณขายก่อน ผมแต่ผมไม่มีสิทธิ์อะไรไม่ขายเหรอ คุณขายได้คนเดียวเหรอ ผมซื้อแฟรนไชส์คุณมาเหรอ ผมเกิดมาทั้งชีวิต ไม่มีใครด่าผมแล้วเดินไปได้ ผมต้องด่ากลับ” ผู้เสียหาย กล่าว...

ขณะที่ “เชฟอ้อย” โต้กลับว่า “ก๋วยเตี๋ยวที่อีกฝ่ายขายมีนัยยะ เพราะทุกคนจำได้ว่าเขาขายลูกชิ้นเรา จัดร้านก๋วยเตี๋ยวเหมือนเราเลย ทำคนเข้าใจผิด”

ด้าน ทนายไพศาล ชี้แจงเรื่องข้อกฎหมายว่า ที่ฟังมาทั้งหมดเข้าข่ายฟ้องร้องทางแพ่งได้เพราะเชฟไม่ปฏิบัติตามสัญญา ผิดกฎ ผิดเงื่อนไข สัญญาไม่เป็นธรรม จัดส่งเครื่องอุปกรณ์ล่าช้า ผู้เสียหายเสียโอกาสทางธุรกิจ กรณีที่ “เชฟอ้อย” บอกว่าผู้เสียหายรายอื่นเอาสูตรของเชฟไปดัดแปลงนั้น ในทางกฎหมาย สูตรอยู่ในฐานะการคุ้มครองการค้า สูตรสามารถคิดค้นได้ใหม่ เชฟขายไปแล้ว เขาดัดแปลงได้ สูตรอาหารไม่ใช่ลิขสิทธิ์

โดย “เชฟอ้อย” ได้กล่าวเสริมในช่วงท้ายของรายการว่า “เชฟก็ยอมรับเชฟโตมาจากเชฟ ทำธุรกิจเชฟไม่มีประสบการณ์ มันโตเร็วชั่วข้ามคืน มีคนมายืนต่อคิวเป็นพันคน มีคนถามแฟรนไชส์มาเรื่อย เราก็เออขายดีกว่า ก็เลยขายสูตรให้ไปเลย จบไปเลย เครื่องอุปกรณ์ล่าช้าไม่ใช่ว่าดึงเกม เชฟมัดจำเครื่อง ส่งเครื่อง จีนตอบกลับมาว่ามันดีเลย์ ฝนเข้า เขาเลื่อนเรามาเรื่อย เราก็ต้องเลื่อนเขาไปเรื่อย”