สังคม

อาลัย 'หมอกฤตไท' เจ้าของเพจ 'สู้ดิวะ' แพทย์อนาคตไกล ชีวิตพลิกผันเพราะมะเร็งปอด

โดย paweena_c

6 ธ.ค. 2566

85 views

ข่าวเศร้าเมื่อ "หมอกฤตไท" เจ้าของเพจ "สู้ดิวะ" เสียชีวิต หลังก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้แจ้งข่าว "ผมคงอยู่ได้อีกไม่นาน" จนโซเชียลติดแฮทแท็กร่วมไว้อาลัยหมอกฤตไท เพราะทุกคนต่างยกย่องเป็นบุคคลตัวอย่างที่ต่อสู้กับโรคร้ายได้อย่างเข้มแข็งจนช่วงสุดท้ายของชีวิต

จากกรณีที่ นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล ป่วยมะเร็งปอดระยะที่ 4 ได้ออกมาแชร์เรื่องราวและอาการป่วยของตัวเอง ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก และหนังสือ "สู้ดิวะ" ซึ่งต่อมาคุณหมอก็ได้มีการอัปเดตอาการเรื่อยมา ว่าไม่ค่อยดีขึ้น มะเร็งมีการลุกลามไปทั่วร่างกาย ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนเก่า ทำให้คนหลายคนต่างให้กำลังใจ และติดตามเรื่องราวของ หมอกฤตไท และยกย่องว่า เป็นผู้ที่ต่อสู้กับโรคร้าย ด้วยจิตใจเข้มแข็งนั้น

และเมื่อวานนี้ ครอบครัวต้องรับข่าวเศร้า เมื่อ เฟซบุ๊ก ไทภัทร ธนสมบัติกุล ซึ่งเป็นคุณพ่อของ หมอกฤตไท ได้โพสต์ภาพหน้าจอโทรศัพท์ ซึ่งเป็นภาพของคุณหมอหนุ่ม ในเวลา 10.59 น. พร้อมระบุข้อความว่า เดินทางปลอดภัยครับ ลูกชาย จากนั้นก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และแสดงความเสียใจกับทางครอบครัวเป็นจำนวนมาก

หมอกฤตไท วัย 29 ปี เป็นอาจารย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ป่วยมะเร็งปอดระยะที่ 4 อย่างไม่คาดฝันขณะมีอายุได้ 28 ปี

เรื่องราวของ นพ.กฤตไทเป็นที่โด่งดัง หลังเจ้าตัว ทราบผลการตรวจร่างกายว่าเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ในวันที่ 10 พ.ย. 2565 ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของชีวิตตั้งแต่เด็กและชีวิตในรั้วโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กระทั่งสอบติดแพทย์ เชียงใหม่ ต้องจากกรุงเทพฯ มาใช้ชีวิตที่ จ.เชียงใหม่

จนเรียนจบเป็นอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมีแผนจะเรียนต่อปริญญาเอก กำลังมีชีวิตที่สวยงามและกำลังจะแต่งงานกับคนรัก ลงหลักปักฐานกับครอบครัว ก่อนทิ้งท้ายว่า ด้วยข้อความสุดช็อกระบุว่า "กำลังป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย"

หลังจากนั้น เพจ "สู้ดิวะ" ได้บอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้กับโรคมะเร็งปอด และเป็นที่สนใจ มีผู้กดติดตามมากถึงเกือบ 8 แสนคนในเวลาไม่กี่วันและบรรดาผู้ติดตามยังเขียนข้อความให้กำลังใจกันอย่างมหาศาล

นอกจากนี้ หมอกฤตไท ยังเขียนหนังสือชื่อ "สู้ดิวะ" ถ่ายทอดชีวิตและให้ข้อคิดให้ผู้คนได้ตระหนักถึงช่วงเวลาสำคัญในชีวิตหลายๆเรื่อง พิมพ์ออกมาเมื่อเดือน ต.ค.2566

แต่เจ้าโรคมะเร็งก็ยังทำร้าย หมอกฤตไท จนพ่ายแพ้หมดทางสู้ต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างเต็มที่ แต่ก่อนที่ นพ.กฤตไทจะอำลาจากทุกคนไป นพ.กฤตไทได้ทำความฝันเรื่องหนึ่งของตัวเองให้เป็นจริงนั่นคือ จัดงานแต่งงานอันแสนงดงามและอบอุ่นกับ "หมอพีม"

นอกจากนี้ ยังมีบทส่งท้ายจาก หมอกฤตไท ว่า "ชีวิตไม่แน่นอน สุดท้ายเราทุกคนจะต้องตาย จงอยู่กับปัจจุบัน ใช้แต่ละวันให้เหมือนวันสุดท้าย "

นอกจากนี้สิ่งทั้งนี้หมอกฤต ได้ สะท้อนชีวิตของเขาต่อปัญหาฝุ่น P.M 2.5 ว่าให้มีการแก้ไขอย่างจริงจัง เพราะส่วนหนึ่งอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เขาป่วยโรคร้าย

คือ รัฐบาลต้องหาต้นตอของปัญหาฝุ่น และแก้ไขอย่างจริงจัง ประชาชนไม่สมควรแบกรับค่าใช้จ่าย ค่าหน้ากาก ความเหลื่อมล้ำไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจเท่านั้น ฝุ่น P.M 2.5 ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญมะเร็งปอด เพราะมีมีงานวิจัยยืนยัน ถ้าปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขเด็กรุ่นหลังอาจจะได้รับโรคร้ายอีกมาก

ล่าสุด หมอพีม ภรรยา หมอกฤตไท ได้โพสต์ว่า ความว่า "ขอบคุณนะที่รัก ภูมิใจในตัวพี่ไทเสมอและตลอดไป"



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/giYQvgmbvWY

คุณอาจสนใจ

Related News