อาลัย 'สารวัตรรุ่ง' ตร.หนุ่มสู้มะเร็ง เสียชีวิต - เปิดบทความสุดท้ายที่ยังเขียนไม่เสร็จ ยก 'หมอกฤตไท' เป็นไอดอล

จากกรณีที่ พ.ต.ต.รุ่งคุณ จันทโชติ สารวัตร (สอบสวน) กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ สาววัตรหนุ่มวัย 33 ปี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “รุ่งคุณ จันทโชติ” บอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้กับโรคมะเร็งปอด เมื่อปลายปี 2565 ว่า เป็นตำรวจ ทำงานหนักพักผ่อนน้อย แต่ชอบออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ กินเหล้าสังสรรค์บ้าง แต่ไม่สูบบุหรี่ ปรากฏว่าวันหนึ่ง มีอาการปวดแขนขวา บวมที่คอ เมื่อไปพบแพทย์ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปอด ระยะลุกลามไปต่อมน้ำเหลือง

ล่าสุดช่วงเช้าวานนี้ (20 ก.พ.67) มีรายงานว่า พ.ต.ต.รุ่งคุณ ได้เสียชีวิตอย่างสงบแล้ว โดยผู้ใช้ IG :  “kittiyaaa.p” แฟนสาวของสารวัตรรุ่ง ได้โพสต์ IG Story อาลัย พ.ต.ต.รุ่งคุณ ข้อความระบุว่า “หลับให้สบายนะคะที่รัก“ 20/2/2568 เวลา 08.45 น.

ต่อมาแฟนสาวของสารวัตรรุ่ง ได้โพสต์ IG Story ไว้อาลัยกับการจากไปของสารวัตรรุ่ง ข้อความระบุว่า

วันนี้ได้แต่งตัวใส่ชุดให้พี่ด้วย  พยาบาลบอกว่าพี่ไปแบบสบายไม่ทรมาน เราจับมือกันจนวันสุดท้ายจริงๆ ดีใจนะคะที่เราได้ดูแลกัน เมื่อวานพี่พยายามจะตื่น พยายามจะพูด // มือของพี่พยายามบีบมือ กระตุกมือ // ตอนที่หนูพูดกับพี่ พี่คงอยากพูดอะไรที่ยังไม่ได้พูด // คำสุดท้ายที่หนูได้ยินจากปากพี่ ก่อนที่พี่จะพูดไม่ได้คือ "ดีใจ" ที่หนูมาหา และแววตาที่เต็มไปด้วยคำขอบคุณ // พี่สู้มาเต็มที่ หนูภูมิใจในตัวพี่มากๆนะคะ

บทความที่พี่เขียนหนูก็โพสต์ลงให้แล้วนะ // หนูรู้ว่าพี่จะเล่าต่อว่ายังไงบ้าง แต่หนูเรียบเรียงคำไม่เก่งเท่าพี่

เก็บไว้เป็นความทรงจำเนอะ เวลาพี่คิดอะไรได้ที่ก็จะชอบเล่าให้ฟัง มีไอเดียอะไร นั่งสมาธิแล้วตระหนักได้เรื่องอะไร พี่ก็เล่าให้ฟังทุกอย่าง

พี่เป็นทั้งแฟน เพื่อน พี่ชาย พ่ออีกคน ดีใจที่สุดเลยนะคะ ที่เราได้รักกันและเป็นความรักที่ดีมากๆ

--------------

ขณะที่เฟซบุ๊กของ พ.ต.ต.รุ่งคุณ มีการโพสต์บทความสุดท้าย เมื่อเวลา 09.19 น. ข้อความระบุว่า

เดอะ ซิกเซ้นส์  

ตอน : โลกคัดคนดี(ออก)

ตั้งแต่ผมเริ่มป่วย จนถึงตอนนี้ก็ 1ปีครึ่งแล้ว มันทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า น้อยคนนักในวัยเดียวกัน จะได้ประสบพบเจอเรื่องราวอะไรแบบนี้

มันเหมือนผมกำลังจะมีชีวิตที่สวยงาม มีอนาคตที่สดใส แต่ก็เหมือนมีรถม้าขบวนใหญ่ ได้วิ่งชนผมอย่างจัง ทำให้ผมกระเด็นไปไกลแสนไกล จนมาตื่นขึ้นในอีกโลกหนึ่ง ซึ่งมันเหมือนกับเป็นอีกมิตินึงเลย มันเป็นอีกเส้นทางหนึ่ง ที่วิ่งคู่ขนานไปกับโลก ผมได้เห็นภาพจากท็อปวิว ภาพอันเกิดจากการสวดมนต์ นั่งสมาธิ กำหนดลมหายใจ มันเกิดเป็นการหยุดนิ่งชั่วขณะ ผมรู้สึกว่า “จิตของผมมันละเอียดขึ้น” ทำให้เกิดความเชื่อมโยงเป็นองค์ความรู้อะไรหลายๆ อย่าง

ใช่ครับ ผมคือคนที่ถูกเลือก จริงๆ แล้วคนอื่นที่ประสบพบเจอแบบผม ก็ถูกเลือกเช่นกัน แต่น้อยคนนักที่จะออกมาสื่อสารได้ เพราะลำพังที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายนี้ก็ปางตายกันแล้ว มาครับ มาฟังนิทานที่อิงเรื่องจริงเป็นหลักกัน ว่าเค้าฝากผมมาสื่อสารว่าอะไร

ตั้งแต่ฟ้าผ่าครั้งใหญ่ในป่าแห่งนั้นในยุคดึกดำบรรพ์ มีสัตว์ล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่เหตุการณ์นั้นทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติ นั่นคือบรรดาสัตว์ที่ถูกฟ้าผ่า กลับส่งกลิ่มหอมไปทั่ว อันเกิดจากการเนื้อสัตว์ไหม้เกรียม มนุษย์ได้ลิ้มลองเนื้อเหล่าเนื้อ กินกันอย่างเอร็ดอร่อย และนั่นก็นำมาสู่..

บทความที่ยังเขียนไม่เสร็จ

รุ่งคุณ จันทโชติ

--------------

ทั้งนี้ พบว่าผู้คนในโลกออนไลน์ต่างเข้ามาแสดงความเสียใจกับการจากไปของสารวัตรรุ่งคุณเป็นจำนวนมาก // โดยเฉพาะพี่ๆ เพื่อนๆ และน้องๆคนใกล้ชิด เช่น ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพกับสารวัตรรุ่ง ข้อความระบุว่า “เหนื่อยมามากแล้ว พักผ่อนนะครับน้องรัก” // ขณะที่อีกรายบอกว่า “พักผ่อนนะเว้ยเพื่อน รักมึงเสมอ //

ด้านอีกคนซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของสารวัตรรุ่งคุณ เขียนข้อความอาลัยว่า “ (rip) รักเสมอนะเพื่อน...รุ่งคุณ.. บทความต่างๆ ที่เพื่อนได้ ส่งทิ้งไว้ให้โลกนี้ เป็น ความหมายที่ดี และสร้างแรงบันดาลใจให้คนหลายคนนะ ... นายเก่งอยู่แล้วเพื่อน.... ขอให้ดวงวิญญาณ ของเพื่อน จงไปสู่สัมปรายภพ ที่มีแต่ความสุข ความเจริญ... ดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกันนะ... Pugma'rb67 กฤษกร บรรเลง...”

--------------

พร้อมกันนี้ เพจ ตำรวจสอบสวนกลาง ได้โพสต์อาลัยด้วยเช่นกัน ข้อความระบุว่า

“ขอแสดงความอาลัย พ.ต.ต.รุ่งคุณ จันทโชติ 

ตำรวจหนุ่มผู้สร้าง “พลังใจ” ที่สามารถสร้างได้ด้วยตนเอง และ ความรักจากคนรอบข้าง ชายหนุ่มผู้ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา แต่ยังถ่ายทอด “กำลังใจ” ไปสู่คนรอบข้างด้วยรอยยิ้ม

ทุกบทความ ทุกเรื่องราวของ พ.ต.ต.รุ่งคุณฯ​ จะยังคงอยู่เพื่อย้ำเตือนบทเรียนล้ำค่าของชีวิต

ทำปัจจุบันขณะให้มีคุณค่า มีประโยชน์ และมีความสุข

“กำลังใจเท่านั้น จะขับเคลื่อนทุกอย่างไปได้”

ดีใจที่เราได้ร่วมงานกันครับ

ด้วยรักและอาลัย

ตำรวจสอบสวนกลาง CIB

-----------

ส่วนร่างของสารวัตรรุ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางครอบครัวเตรียมรับศพสารวัตรรุ่ง ที่ รพ.ตำรวจ ในวันที่ 25 ก.พ. 67

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสารวัตรรุ่งคุณ เกิดเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2533 อายุ 33 ปี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ก่อนสอบเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 67 ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ ที่เสียชีวิตจากการถูกยิงในงานเลี้ยงบ้านกำนันนกจนกลายเป็นคดีสะเทือนขวัญ

-----------
จากกรณี การเสียชีวิตของ พ.ต.ต.รุ่งคุณ จันทโชติ สารวัตร (สอบสวน) กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ สาววัตรหนุ่มวัย 33 ปี ที่เสียชีวิตโรคมะเร็งปอดเมื่อวานนี้ (20 ก.พ. 67)  

ทีมข่าวพาย้อนโพสต์ เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2565 ของสารวัตรรุ่งคุณ ซึ่งเจ้าตัวโพสต์เล่าเรื่องราวชีวิต หลังจากตัวเองป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด ระบุว่า

ใครว่ามะเร็งไกลตัว…อะ…จะเล่าให้ฟังงงงง #ชีวิตต้องสู้

“ตนเองมีอาชีพเป็นตำรวจ ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย เป็นเรื่องธรรมดา แต่ตนเองชอบออกกำลังกาย ถึงขั้นเสพติด  ส่วนเรื่องดื่มเหล้าสังสรรค์มีบ้างตามประสาวัยรุ่น แต่ไม่สูบบุหรี่ และที่บ้านก็ไม่มีใครสูบ

และเมื่อช่วงสงกรานต์ ปี 65 อยู่ๆ ปวดแขนขวา แข็งๆ ตึงๆ งอลำบาก สีเริ่มเปลี่ยน จึงไปหาหมอมาหลายที่ แต่ก็ให้แต่ยาแก้อักเสบมาทาน ซึ่งอาการไม่ดีขึ้น 3 วันต่อมา เริ่มมีอาการบวมๆ ที่คอ จึงไปหาหมอ รพ.ตำรวจ และได้แอดมิด และสั่งจ่ายยาแก้อักเสบ 6 วัน อาการก็ยังไม่ดีขึ้น หมอเลยเจาะชิ้นเนื้อที่คอไปตรวจ ผ่านไป  1 สัปดาห์ ผลออกพบว่าเป็นมะเร็งปอด ระยะลุกลามไปต่อมน้ำเหลือง ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่าช็อก แต่ก็ตั้งสติดีมาก ไม่ท้อเลย คิดหาทางแก้ไขอย่างด่วน

ขั้นตอนการรักษาคือ คีโม (เคมีบำบัด) และ ฉายรังสี (ฉายแสง) บริเวณทรวงอก ขั้นตอนเหล่านี้ตนไม่สามารถอธิบายความทรมานออกมาเป็นคำพูดได้ เพราะกินไม่ได้ นอนไม่หลับ แสบหลอดอาหาร ตื่นทุกชั่วโมง ต้องนอนคว่ำเท่านั้น แต่ตนก็อดทน เพราะเชื่อว่ามันต้องหาย

โดยหลังจากฉายแสง เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ผมเริ่มร่วง ตนจึงตัดสินใจโกนผมออก เพราะมันร่วงเป็นหย่อมๆ ระยะเวลาการฉายแสง กว่าจะครบคอร์ส คือ 33 ครั้ง โดยอาการต่อมาคือผิวหนังที่คอเริ่มไหม้ แต่หลังจากฉายแสงครบคอร์ แผลเริ่มลอกเป็นสะเก็ด

หลังจากนั้น ตนก็พยายามคิดบวก ไม่หมกอยู่แต่ในห้อง พยายามออกไปสูดอากาศ ที่สวนสาธารณะบ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถกลับไปวิ่งออกกำลังกายเหมือนเดิมได้ เพราะมีอาการ หอบ เหนื่อย ไอเยอะ เลยได้แต่เดินๆ แกว่งๆ แขน  

จากนั้นคุณหมอนัดเข้าเครื่อง PET Ct เพื่อดูว่า การรักษาตอบสนองหรือไม่ แต่ก็ต้องช็อกอีกรอบ เพราะไม่ตอบสนองเลย เซลล์เนื้อร้ายขนาดเท่าเดิม 1.4 ซม. ในปอด ยังไม่พอ กระจายไปตับอีกหลายจุด กระจายไปกระดูกสันหลังอีกจุดนึง ตอนนั้น ใจมันตกไปอยู่ตาตุ่มจริงๆ หมอบอกคงต้อง เปลี่ยนแผนการรักษาจากที่จะให้หายขาด เป็นประคองไปเรื่อยๆ ก็คือ คงคีโม ไปเรื่อยๆ (ในใจคือปล่อยแล้วนะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด)

แต่ในความโชคร้ายมันก็ยังมีความโชคดี หมอเอาชิ้นเนื้อที่เคยเจาะไว้ ไปตรวจด้วยการย้อมสีเพิ่มเติม จึงรู้ว่า เซลล์กลายพันธ์ ชนิด ALK ซึ่งพบน้อยมากในคนเอเชีย (ทุกวันนี้ยังหาสาเหตุไม่ได้เลย ว่าเป็นมะเร็งจากสาเหตุใด)

คุณหมอแจ้งว่า มียามุ่งเป้า (targeted therapy) ซึ่งมันจะไปกดให้เซลล์ร้ายสงบ แล้วก็ใช้ชีวิตกับมันไปเรื่อยๆ กินยาตลอดชีวิต จนกว่าจะดื้อยา จึงลองยาตัวนี้มาได้เดือนกว่าๆ แล้ว ตอนนี้รู้สึกดีขึ้น เพลียน้อยลง เริ่มออกกำลังกายได้ดีมากขึ้น ก็ขอให้มันตอบสนอง แล้วก็คงต้องกอดคอกันไปกับมัน

อยากจะฝากถึงทุกๆ คน ทุกๆ อย่างในชีวิตไม่แน่ไม่นอนจริงๆ แต่หากเกิดขึ้นแล้ว ต้อง “ตั้งสติ” เตรียมรับมือ และสิ่งที่อยากจะบอก กาดอกจันทร์ 100 ดวง คือ คำว่า “ใจ” ใจมันต้องได้นะ ยาจะดีแค่ไหน แต่ถ้าใจไม่ได้ ยามันก็ไม่ได้ผลหรอก

โดยหลังเจ้าตัวอาการดีขึ้นยังได้บวชเพื่อใช้ธรรมะ เป็นที่พึ่งอีกทางหนึ่งด้วย

-----------
ทีมข่าวพาย้อนดูคลิปที่เจ้าตัวออกมาเล่าว่าเจอมะเร็งได้อย่างไร ซึ่งคลิปทั้งหมดนี้ ช่วงที่โพสต์คลิปคือช่วงที่เจ้าตัวทราบว่าป่วยเป็นมะเร็งและรักษาไปแล้วระยะหนึ่ง โดยในคลิประบุว่า

“ผมเป็นคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป วันนั้นเมื่อประมาณ เดือนเมษายน 65 หลังจากนอนตื่นมารู้สึกตึงๆรั้งๆที่บริเสณสะบักหลัง // จึงคิดว่า เอ๊ะ หรือเรานอนตกหมอน ซึ่งก็เข้าใจแบบนั้น  กระทั่งผ่านมา 2 วัน อาการยังไม่หาย และแขนขวาบวมและตึง ตึงสงสัยว่าเพราะอะไร หรือออกกำลังกายมากไป จึงไปหาหมอ แล้วหมอบอกว่าเป็นออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) จึงให้ยาแก้อักเสบมากิน แต่ก็ไม่หาย // จากนั้นสองวันต่อมา ต่อมน้ำเหลืองที่คอเริ่มบวมจึงคิดว่า ไม่ใช่เรื่องปกติแล้วจึงตัดสินใจไปหาหมออีกรอบ (คลิป 58 วินาที)

--------------

จากนั้น อีกคลิป สารวัตรุ่งคุณ เล่าต่อว่า หลังจากที่ไปโรงพยาบาลอีกแห่ง พอหมอเห็นว่ามือสองข้างสีไม่ค่อยเหมือนกัน และต่อมน้ำเหลืองที่คอบวม จึงให้แอทมิทนอนโรงพยาบาลเกือบ 7 วัน ซึ่งตอนนั้นรู้สึกช็อค // ขนาดเท่ากันตอนนั้นมีไข้สูงขึ้นๆลงๆ หมอให้ยาอักเสบก็ไม่หาย จึงจังเข้าเครื่อง TC Scan จึงพบว่าลิ่มเลือดอุดตันที่เส้นเลือดดำแถวๆไหปลาร้าด้านขวา ทำให้เลือดเดินไม่สะดวก จึงมีการฉีดยาสลายลิ่มเลือด ตอนนั้น 2-3 จึงหายเป็นปกติ จากนั้นหมอก็เอาชิ้นเนื้อที่คอไปตรวจ (คลิป 52 วินาที)

--------------

ต่อมา สารวัตรรุ่ง โพสต์อีกคลิปเล่านาทีที่คุณหมอโทรศัพท์มาบอกว่าเป็นมะเร็ง โดยสารวัตรรุ่งคุณเล่าว่า “ตอนนั้นประชุมอยู่ แล้วคุณหมอโทรมาและลุ้นมากว่าผลจะเป็นยังไง แต่ในใจคิดว่ายังไงก็ไม่มีทางใช่แน่นอน // ซึ่งตอนที่หมอโทรมาหมอก็ถามว่าคุณรุ่งคุณใช่หรือไม่ ตนก็ตอบไปว่าใช่ครับ // จากนั้นหมอบอกว่า “คุณรุ่งคุณครับ คุณเป็นมะเร็ง” // ซึ่งพอได้ยินก็รู้สึกว่า “โคตรสุญญากาศ ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต อธิบายไม่ถูกเลย ได้แต่อึ้งไปประมาณ 1 นาที แต่ด้วยความที่ตอนนั้นสติดีอยู่จึงทำหมอกลับไปเป็นที่ตำแหน่งไหนอย่างไร ซึ่งหมอก็อธิบายมา และได้บอกไปว่า “โอเค จะเริ่มรักษาตามที่หมอบอก” (คลิป 57 วินาที)
--------------

ต่อมา สารวัตรรุ่งคุณ ได้เล่าช่วงที่คิดว่าท้อแท้แล้วจะไม่สู้ ก่อนจถึงนึกถึงหมาและแมวว่าเป็นแค่สัตว์มันยังสู้เลย เราเป็นมนุษย์ทำไมเราถึงจะไม่สู้ ก่อนจะมีพลังฮึดสู้ขึ้นมา ระบุว่า “ตอนที่เจ็บปวดทรมานที่สุด ตอนนั้นมีความคิดลบเข้ามาในหัว ว่า ท้อแท้และไม่อยากจะสู้ แต่ก็มีแว๊ปนึงที่คิดถึงหมาถึงแมว มองดูมันนะว่า มันเกิดมาบนโลกนี้ มันเคยคิดฆ่าตัวตาย ท้อแท้ หรือคิดจะไม่สู้หรือไม่ // ซึ่งตอนนั้นภาพในหัวคือมันก็ไม่คิดจะไม่สู้ชีวิตนี่ว่ะ ตอนนี้แหละทำให้พลังสู้ขึ้นมา เพราะคิดว่ามันเป็นแค่สัตว์มันยังสู้เลย เราเป็นมนุษย์ เราเป็นคนนะ ทำไมเราจะไม่สู้ว่ะ (คลิป 51 วินาที)
--------------

อีกคลิป สารวัตรรุ่งคุณพูดถึง “ยาไหนก็ไม่ดีเท่ายาใจ” ระบุว่า ยาไหนก็ไม่ดีเท่ายาใจ ต่อให้เป็นยาเม็ด สุดแสนจะวิเศษและประเสริฐ แต่ถ้าพลังใจคุณไม่มา หรือมาไม่ถึง 100 ยานั้นจะมีผลแค่ครึ่งเดียว // ฉะนั้นเราต้องดึงตัวเองขึ้นมาให้ใจนำไป // ให้หยุดคิดว่าร่างกายไม่ไหว ให้คิดว่าต้องไหว ต้องสู้ ยังมีคนข้างๆเรา ครอบครัวเรามองเราอยู่  (คลิป 35 วินาที)

--------------
ทีมข่าวตรวจสอบเฟซบุ๊กของสารวัตรรุ่งคุณเพ่มเติม พบว่า เจ้าตัวมีหมอกฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ 29 ปี อาจารย์แพทย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่เสียชีวิตจากป่วยมะเร็งปอดเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.67 เป็นไอดอล โดยเมื่อวันที่ 12 ต.ค.66 พบว่าสารวัตรรุ่ง ได้ไปซื้อ “สู้ดิวะ” ก่อนโพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า

สู้ดิวะ! 

ผมมาเป็นกำลังใจให้คุณหมอแล้ว

ไอดอลของผม

ผู้ที่เป็นกำลังใจให้ใครหลายๆคน

จัดมาเบาๆ 5 เล่ม

#สู้ดิวะ

ต่อมา วันที่ 4 พ.ย .66 สารวัตรรุ่งคุณ ได้แชร์โพสต์ของหมอกฤตไท ที่โพสต์ว่าตัวเองคงอยู่ได้ไม่นาน ข้อความระบุว่า “เห็นโพสนี้ของคุณหมอแล้วรู้สึกเป็นห่วง ผมไม่เคยทักคุณหมอไปเลย แต่วันนี้ผมทักไปแล้ว อยากจะให้คุณหมอสู้อีกสักตั้งนะครับ… #คนเก่งของผม”

กระทั่ง วันที่หมอกฤตไท เสียชีวิต สารวัตรุ่งคุณ ได้แชร์โพสต์ พร้อมเขียนข้อความไว้อาลัยด้วยเช่นกัน ระบุว่า “ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ #สู้ดิวะ”

--------------

นอกจากนี้ ยังพบว่า สารวัตรรุ่งคุณเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ ที่เสียชีวิตจากการถูกยิงในงานเลี้ยงบ้านกำนันนกจนกลายเป็นคดีสะเทือนขวัญ ซึ่งตอนที่สารวัตรแบงค์เสียชีวิต สารวัตรรุ่งคุณได้โพสต์ภาพอาลัย ซึ่งเป็นภาพที่สารวัตรรุ่งร้องไห้ พร้อมเขียนแคปชั่นระบุว่า

กูเป็นมะเร็งแทบตายไม่เคยร้อง

แค่จัดแถวเท่านั้นแหล่ะ…มันก็กลั้นไว้ไม่อยู่

“สนสามพราน”ไม่ใช่กูร้องไม่เป็นนะ

แต่กูลิปซิ้งค์ทั้งเพลงหวะเพื่อนเอ๋ย

โชคดีที่ได้รู้จักตำรวจดีๆอย่างมึงหวะ “ไอ้สิว”

#สารวัตรแบงค์
--------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Uq00LM8wJdI